ลู่ฮั่นเห็นสีหน้าของศิษย์คนเล็กก็รู้สึกได้ว่าตนโดนจับผิดแล้ว แต่ก็ไม่กล้าจะเอะอะเพราะเกรงเสี่ยวลิ่งจะรู้เรื่องลับๆ ของตนเพิ่มไปด้วย
“ข้าเห็นว่าอากาศเย็นๆ จึงเผลอหลับไปงีบ กำลังจะออกไปเดินตรวจรอบจวนนี่ล่ะขอรับ!”
ชิงหลานรับรู้ว่าผ้าห่มกองด้านหลังตนเองนั้นขยุกขยิกในขณะที่เสี่ยวลิ่งนั่งลงที่โต๊ะแล้ววางจานขนมไว้คู่กัน “ไหนๆ ข้าก็เอามาฝากท่านแล้ว ท่านก็คงกินทั้งสองจานไม่ไหว เช่นนั้นข้ากับคุณหนูก็กินเป็นเพื่อนท่านก็แล้วกัน”
“ดีๆ มาๆ เรานั่งกินขนมจิบน้ำชาด้วยกัน” ชิงหลานไม่รอช้าลุกจากเตียงมานั่งข้างเสี่ยวลิ่ง เหล่าลู่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาลุ้นอยู่เป็นนานว่าคุณหนูชิงจะยอมปล่อยเขาไปหรือไม่? ที่สุดแล้วนางก็ยอมลุกจากเตียงของเขาเสียที!
เสี่ยวลิ่งรินน้ำชาให้กับคุณหนูและพ่อบ้าน ส่วนตัวนางหยิบขนมชิ้นแรกเข้าปากไปแล้วค่อยหันมารินน้ำชาใส่จอกตนเอง
“ขนมที่ฮูหยินกับอิ่งอิ่งกลิ่นก็หอม รสชาติก็อร่อย หากว่าเอาไปวางจำหน่ายตามร้านอาหารก็น่าจะขายดีนะเจ้าคะ”
“จริงของเจ้า...ขนมอบนี้อร่อยจริงเชียว เจิงอิ่งช่างมีฝีมือนัก เหล่าลู่ท่านคิดเห็นอย่างไรหรือ?”
เหล่าลู่ที่กำลังเคี้ยวขนมแทบจะสำลัก...คุณหนูร้ายกาจนัก! โยนเผือกร้อนใส่มือเขาจนได้ ลู่ฮั่นแทรกโบกไม้โบกมือไม่ออกความเห็น เขาชี้ที่ปากตนเองที่กำลังเคี้ยวขนมอยู่เต็มเป็นเชิงว่ายังไม่สะดวกที่จะให้ความคิดเห็น
“แสดงว่า เหล่าลู่รู้สึกอร่อยถูกปากมาทีเดียว หากเจิงอิ่งได้รู้นางคงจะดีใจยิ่งนักที่พ่อบ้านจวนเราชอบขนมฝีมือของนาง” เสียงของชิงหลานดังกว่าปกติราวกับจงใจให้คนที่อยู่ในห้องอีกคนได้ยินอย่างชัดเจน
เหล่าลู่หน้าแดงระเรื่อจนเสี่ยวลิ่งที่หันมามองรู้สึกแปลกใจ
“ขนมก็มิได้ร้อน น้ำชาก็ปกติ เหตุใดท่านจึงหน้าแดง?”
“เอ่อ!....อ่า! ข้ารู้สึกร้อน อีกสักครู่คงต้องไปเดินตรวจตราจวนแล้ว คุณหนูท่านรีบกินเถอะขอรับ! หากนอนดึกพรุ่งนี้จะพลอยอ่อนเพลีย”
“อ้อ! เหล่าลู่เป็นห่วงข้านี่เอง ได้ๆ เสี่ยวลิ่งรีบกินเร็วเข้า ข้าง่วงนอนแล้ว”
เสี่ยวลิ่งพยักเพยิดรีบคว้าขนมอีกชิ้นเข้าปาก ก่อนจะเทน้ำชาใส่จอกแล้วกระดกตามไปเพราะเริ่มติดคอ ชิงหลานเอื้อมมือมาลูบหลังนาง
“เจ้าค่อยๆ กินก็ได้! รีบขนาดนี้เดี๋ยวติดคอตายกันพอดี ดึกดื่นป่านนี้ท่านหมอฉินคงจะหลับแล้วจะไปรบกวนก็คงไม่ดี”
เมื่อสองนายบ่าวออกจากห้องไป ลู่ฮั่นถอนหายใจออกมาจากโล่งอก เขารีบเดินไปเปิดผ้าห่มนวมให้เจิงอิ่งออกมา แต่กลับพบว่านางนอนขดตัวหันข้างเข้าฝานิ่งๆ จึงเลื่อนมือไปตบต้นแขนนางเบาๆ สองสามครั้ง เมื่อเห็นนางไม่ตอบสนองเขาก็ตกใจจึงเอื้อมสองมือไปจับไหล่พลิกตัวนางให้นอนหงาย เหล่าลู่ที่โน้มร่างไปข้างหน้าไม่อาจดันร่างขึ้นได้ทัน ใบหน้าของเขากับเจิงอิ่งจึงอยู่ในระยะกระชั้นชิด ทั้งสองสบตากันครู่หนึ่ง เจิงอิ่งจึงยกสองมือขึ้นจับต้นแขนของเหล่าลู่
“ข้าเป็นตะคริวน่ะ ตอนนี้หายแล้ว ท่านปล่อยข้าเถอะ”
“อ้อ!” เหล่าลู่ร้องออกมาเพียงคำเดียวก็รีบผละออก ท่าทีของนางช่างไม่น่าไว้ใจเลยจริงๆ...ไม่แน่ว่าการเข้ามาหาเขาในห้องอาจจะเป็นหนึ่งในแผนของนาง!
“เจ้ารีบกลับห้องได้แล้ว! เดี๋ยวเสี่ยวลิ่งจะตามหา”
เจิงอิ่งรับคำแล้วรีบออกไปทันที ยามนี้สัญญาแต่งงานยังไม่ควรนำเอาออกมาใช้ นางคิดจะเก็บสิ่งนี้เอาไว้ก่อน หากถึงคราวคับขันจึงค่อยนำมันออกมาข่มขู่พ่อบ้าน ผู้นี้ก็แล้วกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย(มีEbook)