กังซือเฉินและองครักษ์อีกส่วนหนึ่งรออยู่ที่ว่าการอำเภอเฉิน ข่าวที่เฉาอวิ๋นจือหลบหนีมาถึงอำเภอเฉินถูกส่งเข้าเมืองหลวงโดยพิราบสื่อสาร หมิงเฉิงอวี่ร้อนพระทัยนักจากที่คิดจะวางแผนรอชิงหลานอยู่ที่เมืองหลวงก็กลับเกรงว่านางจะเป็นอันตรายหากโจรกลุ่มนั้นเข้าไปในอำเภอเฉิน จึงเปลี่ยนพระทัยจากที่จะสั่งให้มือปราบเมืองหลวงยกพลออกมาสืบหาคนร้าย องค์ชายสิบห้าจึงแจ้งแก่อ๋องเก้าผู้เป็นพี่ชายว่าตนจะออกไปจับมือปราบเฉาด้วยตนเอง จากนั้นก็รีบนำองครักษ์และมือปราบเมืองหลวงบางส่วนเร่งรุดเดินทางมาอำเภอเฉิน สายข่าวรายงานว่าเฉาอวิ๋นจือมิได้เดินทางเพียงลำพังดูเหมือนจะมีชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งเดินทางเข้าไปสืบหามือปราบผู้นี้ในพื้นที่จากนั้นจึงนำตัวหนีเลียบตามแม่น้ำมา
“ร่องรอยสุดท้ายพวกเขาแวะที่ตำบลก่อนถึงอำเภอเฉินนี่เองพะยะค่ะ” หัวหน้ามือปราบหลิวถือสาส์นลับจากหน่วยสืบข่าวเอามาถวาย
หมิงเฉิงอวี่ทอดพระเนตรเส้นทางการหลบหนีที่ถูกวาดคร่าวในกระดาษแผ่นนั้นก่อนจะสั่งการให้อำเภอเฉินส่งคนออกป่าวประกาศในอำเภอและรอบๆ อำเภอให้ระมัดระวังการช่วยเหลือคนร้ายที่หลบหนี ขณะนั้นก็ถือโอกาสไปแจ้งข่าวที่จวนสกุลชิงด้วยตนเอง แม้จะรู้ว่ายามนี้ชิงหลานแข็งแรงขึ้นมาก ไม่พบกันเพียงครึ่งเดือนแต่ดูเหมือนร่างกายของนางโตขึ้นกว่าเมื่อก่อน เค้าหน้าก็อิ่มเอิบดูเป็นสาวน้อยแรกรุ่นที่แก้มใสระเรื่อ สายข่าวขององค์ชายรายงานว่านางฝึกวิทยายุทธ์ทุกเช้ามืด หมิงเฉิงอวี่ก็รู้สึกสบายพระทัยในระดับหนึ่งแต่ก็มิได้ไว้วางพระทัยนัก มาคราวนี้จึงทรงนำคนของตนมาคอยดูแลอยู่รอบนอกจวนนางอีกหลายคน
“ส่งรูปเหมือนคนผู้นี้ออกไปแจ้งทุกหมู่บ้าน เฉาอวิ๋นจือเป็นมือปราบมีฝีมือ คนที่ถูกส่งมาช่วยเขาก็น่าจะเป็นผู้มีวรยุทธ์ร้ายกาจเช่นกัน”
นายอำเภอเฉินกับหัวหน้ามือปราบหลิวจึงสั่งการให้มือปราบในอำเภอตรวจตราโดยรอบอย่างเข้มงวด กังเฉินกับจงเหยียนหันไปสำรวจองครักษ์และมือปราบที่ติดตามองค์ชายจากมาเมืองหลวง มือปราบผู้หนึ่งเห็นใบหน้าของกังซือเฉินก็นึกสงสัย
“หัวคิ้วของท่านไปโดนกิ่งไม้ที่ไหนฟาดมาหรือ? เส้นทางจากเมืองหลวงมาถึงอำเภอเฉินก็ราบรื่นดี ท่านไปได้แผลมาแต่เมื่อใด?”
กังซือเฉินยกมือขึ้นลูบรอบถูกปลายไม้ไผ่ดีดเป็นรอยขีดเลือดซึมพอสังเกตได้แต่ไม่ร้ายแรงนักแล้วหัวเราะกลบเกลื่อนเบาๆ “เป็นข้าเองที่เซ่อซ่าไปหน่อย ถูกกิ่งไผ่ดีดเอาตอนไปยิงกระต่ายน่ะ!”
องครักษ์กังผู้พี่ได้ยินก็ชักบังเหียนม้าเข้ามาใกล้ “ประมาทนักก็สมควรโดนแล้ว อันที่จริงน่าจะได้รอยแผลยาวกว่านี้ด้วยซ้ำ ฮ่าๆ”
กังซือเฉินชักสีหน้า “เป็นเพราะท่านนั่นล่ะที่ชักช้า หากมาช่วยข้าเร็วกว่านั้น สักหน่อยข้าคงไม่ต้องเสียโฉมแล้ว”
จงเหยียนที่อยู่ด้านหลังหัวเราะหึๆ “เจ้าได้เงินปลอบใจค่าบาดเจ็บไปมากแล้วนี่? ไม่ต้องโอดครวญแล้วกระมัง?”
“ข้าสมควรได้ต่างหาก! ท่านน่าจะลองดูบ้างนะว่าแรงดีดขนาดนี้เจ็บปวดแค่ไหน?” แม้แผลที่เห็นจะดูไม่ลึกและมีเลือดซึมออกมาเพียงเล็กน้อย ทว่ายามนี้กลับนูนบวมขึ้น
“เจ้าเอายาข้าไปทาสิ! พรุ่งนี้ก็หายปูดแล้ว!” สหายองครักษ์อีกผู้หนึ่งล้วงเอาขวดยาเล็กๆ ส่งมาให้ “ข้าเป็นเหมือนเจ้าบ่อย ท่านแม่จึงให้ข้าพกขวดยานี้มาด้วย”
กังซือเฉินกล่าวขอบใจ หลังจากที่ได้ทดสอบฝีมือพ่อบ้านตระกูลชิงแล้ว พวกเขาทั้งสามจึงได้รู้ว่าคนผู้นั้นร้ายกาจยิ่งนัก นี่แค่ใช้คันเบ็ดต่อสู้! หากเปลี่ยนเป็นกระบี่เห็นทีหน้าผากของเขาคงโดนเสียบเข้าไปแล้ว!
องค์ชายสิบห้าให้หัวหน้ามือปราบหลิวนำขบวนหลังคาดกันว่าชายฉกรรจ์กลุ่มนั้นน่าจะซ่อนอยู่ตำบลข้างหน้า เมื่อไปถึงทางแยกคนทั้งหมดก็แยกกันเป็นสามกลุ่มใหญ่เพื่อออกตรวจตราตามหมู่บ้าน
“หัวหน้าดูเหมือนมือปราบจะรู้ความเคลื่อนไหวของเรานะขอรับ! ตั้งด่านคอยตรวจตราเข้มงวดทีเดียว”
ผู้ที่ถูกเรียกว่าหัวหน้าหัวเราะหึๆ ในลำคอ “ปล่อยให้พวกมันตรวจเข้าไปเถอะ ข้ามีเส้นทางที่คาดไม่ถึงพาพวกเจ้าเข้าอำเภอได้อย่างสบาย เย็นนี้เราไปพักในโรงเตี๊ยมกัน ที่ที่ปลอดภัยที่สุดคือที่ที่อันตรายที่สุด!”
เฉาอวิ๋นจือมองผู้ที่นายท่านส่งมาช่วยตนด้วยความพอใจ “หัวหน้าเจ้าสมกับเป็นคนที่นายท่านไว้วางใจจริงๆ พาข้าเข้าไปนั่งดื่มสุราในอำเภอเฉินสักหน่อยเถิด หนีมานานล่ะข้าอยากดื่มสุราเลิศรสสักกา"
“ได้! มือปราบเฉา ข้าจะไม่ทำให้เจ้าผิดหวัง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย(มีEbook)