เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย(มีEbook) นิยาย บท 145

ไม่กี่วันต่อมาเรือนรับรองคุณหนูใหญ่มู่ก็เสร็จเรียบร้อย ญาติพี่น้องล้วนมาแสดงความยินดีกันไม่ขาดสาย บัดนี้นางมิได้ชื่อจังเสี่ยวลิ่งอีกต่อไป บิดาของนางได้ทำการย้ายทะเบียนราษฏร์และแก้ไขชื่อของนางอย่างถูกต้องเป็น ‘มู่เยี่ยนฟาง’

ใจหนึ่งจงเหยียนก็ยินดียิ่งที่คู่หมั้นของตนกลายเป็นคุณหนูในตระกูลใหญ่ ทว่าใจหนึ่งก็อดหวั่นมิได้เพราะบิดาของนางเป็นถึงรองแม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นหมิง ตระกูลของนางก็มีขุนนางหลายคนประจำการในหลายกรมพวกเขาล้วนเป็นที่รู้จักในราชสำนัก ครอบครัวขุนนางมักให้แต่งกับขุนนาง ครอบครัวคหบดีก็มักจะให้แต่งกับคหบดี แม้จะอยากเกี่ยวดองกับขุนนางก็ต้องดูทรัพย์สินนั้นมากพอที่เหล่าขุนนางจะพึงพอใจด้วยหรือไม่? จงเหยียนหนักใจกับสถานะของฟางเอ๋อร์ในยามนี้ แม้ว่าเขาจะเป็นองครักษ์ขององค์ชายสิบห้าทว่าในเครือญาติกลับค้าขายแทบทั้งสิ้น

“จงเหยียนท่านสีหน้าไม่สู้ดีเลยนะเจ้าคะ?”

“ตั้งแต่เดินมา คุณชายทั้งหลายเข้ามาทักทายเจ้าอยู่ไม่ขาด เจ้ากลายเป็นคนมีชื่อเสียงของเมืองหลวงไปเสียแล้ว” สีหน้าของจงเหยียนบึ้งตึง นางกับเขาเดินเคียงคู่กันมาโดยมีสาวใช้ติดตามนางมาถึงสองคน ระหว่างนั้นก็มีคุณชายหลายตระกูลยิ้มกะลิ้มกะเหลี่ยเข้ามาโอภาปราศรัยกับนางด้วยท่าทางน่าหมั่นไส้

มู่เยี่ยนฟางเห็นคนรักกระเง้ากระงอดก็เอื้อมมือไปดึงแขนเสื้อเขาเบาๆ

“ท่านมีกลิ่นเปรี้ยวแล้วหรือนี่?”

“หึ! ยามนี้เจ้ากลายเป็นคุณหนูใหญ่มู่ไปแล้ว ข้าก็แค่องครักษ์เล็กๆ ในวังหลวงมาเดินกับเจ้าเช่นนี้ คุณชายตระกูลอื่นมาเห็นเช่นนี้เจ้ารู้สึกอายหรือไม่?”

“อายทำไมหรือเจ้าคะ? ข้ามิได้สนใจพวกเขาเสียหน่อย หากพวกเขาถามข้าก็บอกอยู่ตลอดนะว่าท่านเป็นคู่หมั้นของข้า”

ได้ยินถ้อยคำระรื่นหูเข้า จงเหยียนก็ค่อยยิ้มออกแต่เมื่อคิดถึงใบหน้าบิดาของนางในยามที่เห็นเขา ชายหนุ่มก็หน้าเจื่อนลง “แต่บิดาเจ้าน่ะสิ! เห็นข้าทีไรก็ไม่เคยยิ้มให้สักที”

“ท่านพ่อน่ะหรือ? ท่านก็เป็นแบบนั้นล่ะ ท่านแม่บอกว่าท่านพ่อข้าอาจจะยิ้มยากสักหน่อยแต่ใจดีนะเจ้าคะ” คุณหนูใหญ่มู่ที่เพิ่งกลับเข้าสู่ครอบครัวได้รับการเอาอกเอาใจอย่างยิ่งจากบิดามารดา เสื้อผ้า เครื่องประดับ อาหาร และสาวใช้ นางมีอย่างเพียบพร้อม ทำให้ชิงหลานที่ถูกนางลากไปอยู่ในจวนสกุลมู่ก็พลอยสบายไปด้วย

องค์ชายสิบห้าเห็นองครักษ์จงเป็นทุกข์จึงอาสานำหน้าพาคนของตนมาเยือนจวนสกุลมู่ คุณหนูมู่กับคุณหนูชิงแต่งกายงดงามมีความเป็นอยู่แสนสุขสบาย หมิงเฉิงอวี่เห็นแล้วทรงเบาพระทัยอย่างยิ่ง

“องค์ชาย ช่วยกระหม่อมด้วยเถิดพะยะค่ะ ทำอย่างไรจึงจะได้แต่งงานเสียที”

หมิงเฉิงอวี่ทรงส่ายพระพักตร์ “เรื่องของข้าก็ยังเอาตัวไม่รอดแล้วนี่จะไปช่วยเจ้าได้อย่างไร?”

จงเหยียนหมดสิ้นหนทางจึงนึกถึงคำของกังเฉินขึ้นมาได้ ในหมู่องครักษ์ วังหลวงผู้ใดเล่าจะมีสตรีเอาไว้ให้สำราญใจได้มากเท่ากังเฉิน ไม่ว่าในที่ลับหรือในที่แจ้งคนผู้นั้นล้วนมีเงาของหญิงงามคอยตามติด

“จะได้แต่งหรือไม่? ขึ้นอยู่กับความยินยอมพร้อมใจของเจ้ากับคุณหนูมู่”

“อย่างไรหรือ?”

กังเฉินป้องปากกระซิบกระซาบอยู่ครู่หนึ่งสีหน้าของจงเหยียนทั้งแดงทั้งขาวทั้งคล้ำสลับกันไปมา ครั้นสหายกล่าวจบเขาก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง

“เจ้าให้ข้าเอาชีวิตเข้ามาเสี่ยงเลยนะนั่น”

ที่ปรึกษาชั้นดีเชิดหน้า “ก็แล้วแต่เจ้า...หากจะรอไปเช่นนี้ก็ดูเอาเองเถิดว่าคุณชายแต่ละจวนล้วนมาเยือนเรือนสกุลมู่อยู่ไม่ขาด หมายมุ่งสิ่งใดเจ้าก็พอจะรู้อยู่ ในเมื่อนางเปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนาม ซ้ำบิดาของนางก็ยังไม่ยอมประกาศว่านางมีคู่หมั้นแล้วก็เหมือนกับยังมิได้ยอมรับในตัวเจ้า คุณชายทั้งหลายก็ดูเหมือนยังมีโอกาสจะได้เป็นเขยสกุลมู่อยู่”

คำพูดของกังเฉินไม่เกินเลยความจริง นับตั้งแต่นางกลายเป็นมู่เยี่ยนฟางจงเหยียนก็นอนไม่ค่อยหลับ เดิมทีเป็นครอบครัวเขาที่รังเกียจนางแต่ตอนนี้กลายเป็นครอบครัวนางที่อาจจะรังเกียจเขา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย(มีEbook)