ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฉับ! ฉับ! ฉับ!
สองพี่น้องช่วยกันใช้กระบี่ปัดป้องลูกธนูที่ถูกยิงมาถี่ๆ พลันปรากฏเงาดำหลายสายวูบไปตามตามกำแพงจัดการเชือดคนพวกนั้นหล่นลงมาทีละคน
“ดีที่ข้าเอาแมวดำมาด้วยหลายตัว” ท่านอ๋องเก้าทรงหมายถึงองครักษ์เงาที่พระองค์มี คนพวกนี้ไม่ปรากฏตัวให้ผู้ใดเห็น พวกเขาล้วนมีวรยุทธ์ร้ายกาจและกล้าแข็งเกินกว่าองครักษ์วังหลวงและร่ำลือกันว่าเก่งกว่าองครักษ์เสื้อแพรเสียอีก แมวดำเหล่านี้จะมีเฉพาะบุคคลสำคัญในราชวงศ์และตระกูลใหญ่ที่เก่าแก่บางตระกูลเท่านั้น
“ด้านโน้นคงเก็บหมดแล้ว! เหลืออีกทางท่านระวังตัวด้วย!” หมิงเฉิงอวี่เป็นห่วงพี่ชายนัก เขานึกโทษตนเองที่ไม่รอบคอบและคาดไม่ถึงว่านี่เป็นกับดักของศัตรู
ชิงหลานชวนจินวั่งซู่ออกไปสืบข่าวข้างนอกเพราะมีสายสืบส่งข้อความมาว่าคนที่พบที่ซ่อนของอาลักษณ์อาวุโสคือคนของสำนักคุ้มภัยหงส์ไฟ ซึ่งรู้กันในหมู่คนไม่มากนักว่าอยู่ภายใต้การดูแลของตระกูลหลวนของฮองเฮาองค์ปัจจุบัน
“ข้ารู้สึกว่าเรื่องนี้มันราบรื่นผิดปกติ”
“ท่านได้กลิ่นเรื่องราวที่ซับซ้อนอีกแล้วหรือเจ้าคะ?”
“ตอนที่ข้าเขียนข่าวนี้ สิ่งที่ข้าคิดก็คือคนของสำนักคุ้มภัยหงส์ไฟบอกว่ามีคนแจ้งเบาะแส แวบแรกที่ข้าคิดก็คือคนแจ้งเบาะแสน่าจะใกล้ชิดกับอาลักษณ์อาวุโสผู้นั้น นั่นหมายถึงเขาต้องเป็นญาติของก้งหลันด้วย ต่อมาข้าก็คิดว่าหากเขาเป็นญาติกันเหตุใดต้องประสงค์ร้าย?”
“ดังนั้นท่านจึงเห็นว่าคนที่มาแจ้งเบาะแสน่าจะเป็นคนที่คิดจะใส่ร้าย ใต้เท้าจื้อ ซึ่งก็คือคนที่คิดทรยศจื้อซุ่นซีนั่นเอง”
แปะ! แปะ! แปะ!
“สมแล้วที่ข้ายกให้เจ้าเป็นรองหัวหน้าสำนักข่าวแห่งนี้”
“คุณชายจิน เราออกไปสืบเรื่องนี้กันเถอะ ข้าเองก็รู้สึกสงสัยเช่นกัน”
ทั้งสองจึงขี่ม้าคนละตัวหวังจะไปยังสำนักคุ้มภัยหงส์ไฟเพื่อสอบถามสักหน่อย เหล่าลู่กับเจิงอิ่งที่ตามมาคอยดูแลความปลอดภัยของชิงหลานก็ขี่ม้าคนละตัวตามท้าย ระหว่างที่กำลังควบม้าเลียบแม่น้ำใกล้ถึงสะพานปันเยว่กลับได้เห็นคนกลุ่มใหญ่กำลังต่อสู้กัน
“นั่นข่าวใหญ่เชียวนะ! พวกเจ้าระวังตัวกันด้วย!” จินวั่งซู่ร้องเตือนอย่างตื่นเต้นเพราะมีเหตุการณ์ชวนกังวลหลายอย่างพักนี้เขาเองไม่ว่าไปที่ใดก็พกกระบี่ไปด้วยทุกครั้ง
เจิงอิ่งเห็นกระบวนท่าการต่อสู้ของคนที่อยู่บนสะพานซึ่งเป็นตำแหน่งที่สูงสังเกตง่าย นางจึงจำได้ว่านั่นคือเพลงกระบี่ที่นางเองก็ใช้
“คุณชาย! คุณหนู! นั่นมันองครักษ์วังหลวงนี่เจ้าคะ!” เจิงอิ่งควบม้าพุ่งนำหน้าไปดูอย่างร้อนใจ หากนางจำไม่ผิดร่างที่ลอยละลิ่วขึ้นบนฟ้าเมื่อครู่ก็คือหัวหน้าองครักษ์กัง
“เจิงอิ่งระวังตัวด้วย!” เหล่าลู่เห็นภรรยาควบม้าพุ่งไปเช่นนั้นก็ตกใจจนรีบควบตามนางไปโดยมิได้หันมาสนใจจินวั่งซู่และชิงหลาน
“จริงด้วยคุณชายจิน! นั่น! องค์ชายสิบห้านี่?” สาวน้อยรีบควบม้าไปอย่างรวดเร็วจนจินวั่งซู่ต้องรีบตามไปติดๆ
“อะไรกัน? พวกเจ้ารีบร้อนกว่าข้าที่เห็นก่อนได้อย่างไรกัน?”
เจิงอิ่งจอดม้าไว้ห่างบริเวณต่อสู้พอประมาณก่อนจะชักกระบี่แล้วกระโจนพรวดคล้ายบินได้เหยียบไปบนศีรษะของคนร้ายและเหล่ามือปราบที่ต่อสู้กันไปจนถึงตัวองค์ชายอย่างรวดเร็ว
“หม่อมฉันมาแล้วเพคะ!” นางกราบทูลพร้อมตวัดกระบี่ฟาดฟันคนที่คิดจะพุ่งเข้ามาใกล้องค์ชายสิบห้าอย่างคล่องแคล่ว
“เจิ่งอิงจัดการคนที่สวมชุดขลิบสีเงินก่อน พวกมันคือสิบหกกระบี่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย(มีEbook)