เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย(มีEbook) นิยาย บท 80

องค์ชายทอดพระเนตรปลาเปรี้ยวหวานตัวใหญ่ในจานบนโต๊ะกับหมูผัดผักก็แปลกพระทัย พระเนตรของพระองค์เต็มไปด้วยคำถาม ต้นพระขนงเลิกขึ้นเล็กน้อย จังฮูหยินเห็นเช่นนั้นจึงรีบอธิบาย

“วันนี้เหล่าลู่ตกปลาตัวใหญ่ได้มาสองตัวเพคะ หม่อมฉันก็เลยทำปลาเปรี้ยวสำหรับถวายองค์ชายและอีกตัวก็ให้คนตกได้ ส่วนผักพวกนี้เสี่ยวลิ่งเป็นคนปลูกไว้หลังเรือน หม่อมฉันซื้อเนื้อวัวมาเมื่อเช้าจึงได้คิดทำผัดผักให้พระองค์ได้ทรงลองเสวยเพคะ คราวก่อนมิได้เตรียมตัวขอประทานอภัย”

หมิงเฉิงอวี่ทรงหันไปทางชิงหลานเห็นนางก้มหน้าเม้มปากก็พอจะทราบว่าคราวก่อนคงเป็นเพราะนางไม่อยากให้ตนมาเยือนที่จวนนี้อีกจึงได้คิดกลั่นแกล้ง

“อืม...ปลาเปรี้ยวหวานของท่านกลิ่นหอมดีเหลือเกิน ข้าลงมือก่อนก็แล้วกัน สำหรับอาหารมื้อนี้ข้าต้องตอบแทนอย่างเหมาะสมแน่”

“ขอบพระทัยเพคะ”

ชิงหลานแอบเอื้อมมือไปจับหัวเข่ามารดาบีบเบาๆ เป็นเชิงถามว่าเหตุใดจึงต้องทำอาหารต้อนรับอย่างดีเลิศเช่นนี้? จังฮูหยินตบหลังมือบุตรสาวเบาๆ ให้นางรู้ว่านี่คือสิ่งที่สมควรทำแล้ว

องค์ชายสิบห้าเพลิดเพลินในรสชาติของอาหารยิ่ง เผยมู่ซีเองเมื่อได้ชิมรสชาติปลาเปรี้ยวหวานก็ติดใจรีบกินจนลืมความขุ่นข้องหมองใจในตัวคนเบื้องหน้าไปชั่วขณะ ครั้นเห็นว่าบุตรสาวอร่อยกับอาหารตรงหน้า จังฮูหยินจึงค่อยสบายใจขึ้น แม้จะยังไม่แน่ใจว่าองค์ชายทรงประสงค์สิ่งใดแต่อย่างน้อยดูออกว่าทรงมิได้คิดร้ายกับนางและบุตรสาวเท่านั้นก็พอแล้ว!

“กินอิ่มแล้วเจ้าพาข้าไปเดินเล่นรอบจวนหน่อยสิ”

ชิงหลานรับคำแล้วลุกขึ้นผายมือเชิญเสด็จ องค์ชายผงกพระเศียรก่อนจะเดินเคียงคู่กับร่างเล็กที่ศีรษะอยู่ระดับไหล่ของพระองค์ ระหว่างรับประทานอาหารหมิงเฉิงอวี่ที่ประทับฝั่งตรงข้ามกับนางบนโต๊ะเสวยได้เห็นใบหน้าของนางอย่างชัดเจนแล้ว ใบหน้าของนางอิ่มเอิบผ่องใส ผิวพรรณที่เคยซูบซีดเริ่มเต่งตึงขึ้น นางอายุสิบสี่ปีย่างเข้าสิบห้า หากแต่ท่วงท่าและการพูดจาดูเหมือนสตรีที่อายุมากกว่านั้นหลายปีนัก นางมักจะรักษาระยะห่างกับพระองค์ไว้อย่างเหมาะสม จะว่าไปจริงๆ แล้วดูห่างเหินเสียมากกว่า ดวงตาของนางในยามเผลอก็มักจะแสดงความชิงชังพระองค์

‘ชิงหลาน เหตุใดเจ้าจึงจงเกลียดจงชังข้าเยี่ยงนี้?’

องค์ชายหมิงเฉิงอวี่เดินอยู่ข้างนางทั้งยังทรงพยายามครุ่นคิดว่าตนเองเคยเจอนางมาก่อนหรือไม่? หรือพระองค์เคยทำสิ่งใดเกี่ยวข้องกับสกุลชิงมาก่อน จนกลายเป็นสาเหตุให้เกิดความเกลียดชังขึ้นมาได้? หากแต่ทบทวนแล้วกลับไม่พบว่าตนเองเคยเกี่ยวข้องกับนางแต่อย่างใด? หรือแม้แต่สกุลจังของมารดาของนางพระองค์ก็ไม่เคยเกี่ยวข้องมาก่อน...

“โอ๊ะ!” พระบาทขององค์ชายสะดุดพื้นไม้บนทางเดินที่เด้งขึ้นมา ร่างพระองค์จึงเซไปชนไหล่บางของนาง

ชิงหลานหันมาจับแขนขององค์ชายเอาไว้ “ทางเดินตรงนี้เคยถูกฝนที่มาพายุซัดเมื่อปีสองปีก่อนเจ้าค่ะ จวนใหญ่ไม่ยอมส่งคนมาซ่อม ดังนั้นจึงอยู่ในสภาพเช่นนี้ หมิงเฉิงอวี่ทรงก้มลงทอดพระเนตรแผ่นไม้ที่ผุและเงยพระพักตร์ขึ้นมองหลังคาทางเดินที่เป็นรูโหว่ขนาดใหญ่ ต่อจากจุดที่พระองค์และชิงหลานยืนอยู่ ทางเดินข้างหน้าล้วนผุพังต้องเดินระวังทั้งสิ้น

“เสด็จลงไปเดินข้างล่างเถิดเพคะ ข้างบนนี้ไม่เหมาะแล้ว”

“ข้ามีของจะให้เจ้าอยู่ในรถม้า พวกเราไปกันเถิด” ไม่รอให้นางตอบรับองค์ชายสิบห้าทรงสาวพระบาทเดินนำหน้าไปยังจุดที่รถม้าจอดอยู่ องครักษ์ที่มองเห็น องค์ชายเสด็จก็รีบยืนแถวเรียงหน้ากระดานกันทันที

“เจ้าขึ้นไปหยิบกล่องไม้บนรถมาให้ข้าที!”

“พะยะค่ะ”

ชิงหลานเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าองค์ชาย พระองค์มิได้ทรงลืมสิ่งที่นางต้องการ...นางตื่นเต้นยิ่งนักกล่องพู่กันของสำนักพู่กันทองที่นางอยากได้นักหนา แม้ชาติที่นางเป็นเผยมู่ซีนางจะมีกล่องพู่กันของสำนักนี้อยู่แล้วแต่เมื่อเป็นชิงหลานไม่อาจจะกลับไปเอามาใช้ได้

ใจหนึ่งของเผยมู่ซีก็รู้สึกระแวงองค์ชายสิบห้า ศัตรูเข้ามาตีสนิทชิงหลานเช่นนี้...เกี่ยวพันกับใต้เท้าชิงใช่หรือไม่? ตอนเที่ยงวันที่นางพักรับประทานอาหารได้เดินไปหลังอาคารใหญ่ในวัด องครักษ์สองคนคุยกันเรื่องที่บิดาของชิงหลานได้รับพระราชทานตำแหน่งเป็นเจ้ากรมกลาโหมซึ่งเป็นสิ่งที่เกินความคาดหมายของขุนนางส่วนใหญ่ กรมกลาโหมมีความสำคัญอย่างยิ่งในการดูแลกองทัพ เผยมู่ซีใคร่อยากจะรู้นักว่าชิงเว่ยผู้นี้เก่งกาจเช่นใดจึงได้เป็นเจ้ากรมกลาโหม? และองค์ชายสิบห้าเกี่ยวพันกับใต้เท้าชิงมากน้อยเพียงใด?

องค์ชายรับกล่องไม้นั้นมาแล้วยื่นต่อให้คุณหนูชิง “ของที่ข้าบอกว่าจะให้เอามาฝากเจ้า คิดเสียว่าเป็นของขวัญวันเกิดก็แล้วกัน”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย(มีEbook)