เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย(มีEbook) นิยาย บท 79

ล่วงเข้ายามเซิน (15.00-16.59 น.) ชิงหลานก็วางพู่กัน เสี่ยวลิ่งรีบเก็บอุปกรณ์วาดภาพที่ต้องทำความสะอาดออกไปนอกอาคาร ท่าทางบีบนวดมือ โยกศีรษะผ่อนคลายนั้นทำให้องค์ชายสิบห้าลุ้นว่านางจะยังเจ็บมืออยู่หรือไม่? ทว่ากลับไม่กล้าเอ่ยปากถามออกไป

“เสี่ยวลิ่งไปกันเถอะ ป่านนี้ศิษย์พี่คงรอแล้ว!”

“เจ้าค่ะ” เสี่ยวลิ่งรีบเก็บอุปกรณ์วาดภาพใส่กล่องแล้วเอาไปเก็บในตู้ นางหันไปหิ้วเอาปิ่นโตอาหาร ยืนเตรียมพร้อม

องค์ชายสิบห้าทรงลุกขึ้นยืนรอให้นางทั้งสองเตรียมตัวเสร็จเรียบร้อย

“วันนี้ข้าจะตามพวกเจ้าไปจวนสกุลชิงด้วย”

“ขออภัยเพคะองค์ชาย หม่อมฉันนัดหมายกับศิษย์พี่ไว้แล้ว องค์ชายจะทรงเปลี่ยนเป็นวันพรุ่งนี้ได้หรือไม่เพคะ?”

“ไม่ได้!” แค่ได้ยินคำว่า ‘ศิษย์พี่’ หมิงเฉิงอวี่ก็รู้สึกเหมือนมีความร้อนสายหนึ่งพุ่งปรี๊ดจากเท้าไปถึงศีรษะจึงเผลอร้องเสียงดังออกมา ครั้นคิดได้ก็รีบปรับท่าทีเสียใหม่ “ข้าหมายถึง ข้าเตรียมขนมสำหรับจะเอาไปฝากจังฮูหยินเอาไว้แล้ว หากเป็นพรุ่งนี้ก็อาจจะไม่อร่อยเท่าวันนี้”

ชิงหลานเผลอชักสีหน้า “เพคะ! ถ้าเช่นนั้นก็เสด็จไปที่จวนสกุลชิงเถิด ท่านแม่ของหม่อมฉันอยู่ที่จวนตลอดเวลา”

“ไม่ได้! ข้าอยากให้เจ้าพาข้าไป วันนี้จะไปกินข้าวเย็นที่จวนของเจ้า” องค์ชายยังคงยืนกรานเสียงแข็ง

ชิงหลานผงะ...องค์ชายคิดจะไปเสวยพระกระยาหารเย็นที่จวนของนาง อีกแล้ว ครั้งก่อนไม่เข็ดหรืออย่างไร?...นางรู้สึกว่าหมิงเฉิงอวี่ช่างรับมือได้ยากนัก!

“เช่นนั้น หม่อมฉันคงต้องขอประทานอนุญาตไปหาศิษย์พี่ที่เหลาสุราตามนัดเดิมเสียก่อนเพคะ ส่งเสี่ยวลิ่งให้กลับไปเตรียมอาหารที่จวนไว้เสียก่อน”

“ตามใจเจ้า” องค์ชายทรงเชิดพระพักตร์ไปด้านข้างเล็กน้อย ก่อนจะเสด็จนำหน้านางไปขึ้นม้าที่องครักษ์เตรียมไว้ให้ “เจ้ามาขี่ม้าตัวนี้สิ!”

คุณหนูชิงขึ้นม้าอีกตัวด้วยความคล่องแคล่ว เสี่ยวลิ่งที่ยืนอยู่ด้านหลังเงยหน้ามององครักษ์จงที่ยืนอยู่ข้างม้าอีกตัวแล้วสะบัดหน้า ทำเอาฝ่ายชายหน้าม้านเล็กน้อย กังเฉินหันมาเห็นท่าทางของคนทั้งสองก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะเอ่ยบอกนางให้ขึ้นรถม้า

“เสี่ยวลิ่ง เจ้าขึ้นรถม้าไปล่วงหน้าไปเตรียมรับเสด็จเถิด” กังเฉินรีบสั่งให้องครักษ์สี่คนอารักขารถม้าส่วนพระองค์พาสาวใช้ของคุณหนูชิงกลับจวนไปเสียก่อน

“เจ้าค่ะ” นางยินยอมให้กังเฉินจับมือนางข้างหนึ่งเพื่อพยุงขึ้นรถม้า แต่กลับไม่หันไปมองใบหน้านิ่งที่เริ่มคล้ำลงของจงเหยียน เมื่อเห็นสหายได้จับมือเสี่ยวลิ่ง องครักษ์จงก็รู้สึกร้อนใจขึ้นมาทันที

‘มิใช่ว่า...กังเฉินรู้สึกชอบนางด้วยหรอกนะ?’

องค์ชายทรงขี่ม้านำหน้าไปยังเหลาสุรา คุณชายน้อยจั๋วได้ยินเสี่ยวเอ้อเข้าไปรายงานก็รีบเดินออกมารอรับเสด็จ ก่อนจะผายมือเชิญองค์ชายเข้าไปนั่งด้านใน

“วันนี้คงนั่งร้านเจ้ามิได้ ข้ามีธุระต้องไปสกุลชิง เจ้ามีธุระอันใดกับชิงหลานก็รีบสักหน่อยเถอะเพราะข้าต้องรอนาง”

“พะยะค่ะ”

ชิงหลานที่ขี่ม้าตามหลังมา จั๋วเหรินหาวรีบเข้าไปใกล้ศิษย์น้องพลางยิ้มแย้มทักทาย “ข้าลับกระบี่รอให้เจ้ามาชมได้หลายเค่อแล้ว มาดูสิ!”

องครักษ์จงรีบมาจูงม้าให้คุณหนูชิง นางเดินตัวปลิวตามหลังคุณชายจั๋วเข้าไปในร้าน หมิงเฉิงอวี่อดรนทนไม่ไหวรีบลงจากหลังม้าส่งให้องครักษ์กังแล้วตนเองก็รีบเดินตามคนทั้งสองเข้าไป จงเหยียนรับอาสายืนดูแลม้าอยู่ข้างหน้าเหลา ทว่าสายตากลับมองตามหลังรถม้าที่ลับตาไป

กระบี่ที่จั๋วเหรินหาวเพิ่งสั่งตีมาใหม่วางอยู่บนโต๊ะ ชิงหลานมองเห็นกระบี่ก็รีบพุ่งเข้าไปหา ในชาติที่นางเป็นเผยมู่ซีนั้น นางชื่นชอบกระบี่อย่างมากทว่าห้องกระบี่สกุลชิงนางได้แต่ดูแต่ไม่อาจหยิบออกมาได้ตามใจเพราะฮูหยินเอกคอยจับจ้องอยู่ หากนางคิดจะเข้าไปก็ต้องประจบท่านย่าให้ดีเพื่อให้ท่านย่าพานางเข้าไป กระบี่ที่นางใช้เป็นกระบี่เลื่องชื่อที่ท่านย่าเอ่ยปากขอจากบิดาให้ กว่านางจะได้ ‘กระบี่ราตรี’ มา ถังฮูหยินก็ถ่วงเวลาอยู่ตั้งหลายวัน กระบี่เล่มนี้ร่ำลือกันว่าเป็นหนึ่งในกระบี่ไม่กี่เล่มที่จอมยุทธ์ลู่ผู้เชี่ยวชาญในการประดิษฐ์อาวุธอันดับหนึ่งในยุทธภพเป็นผู้ตีเอาไว้ ซึ่งนางรู้แล้วว่าจอมยุทธ์ลู่ในตำนานผู้นั้น มิใช่จอมยุทธ์ลู่ที่เป็นอาจารย์ของนาง!

“ศิษย์พี่! ลวดลายบนกระบี่สวยงามนัก เป็นฝีมือของช่างคนใด?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย(มีEbook)