เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย(มีEbook) นิยาย บท 82

“ใช่! วิชากระบี่ที่เจ้ากำลังเรียนอยู่ก็เป็นวิชาของสกุลลู่”

ชิงหลานคิดถึงกระบี่ราตรีที่นางเคยครอบครองในชาติที่เป็นเผยมู่ซีทันที “อาจารย์ปู่เป็นผู้ตีกระบี่ทิวาราตรีนี่! เช่นนั้นวิชากระบี่นี้ก็ควรใช้กับกระบี่ที่ท่านตีขึ้นใช่หรือไม่?”

“เจ้ารู้จักกระบี่คู่นี้ด้วยหรือ?” เผยมู่ซีเกือบจะเอ่ยออกไปว่า ‘มันคือกระบี่ของข้า!’ แต่แล้วก็ยั้งใจไว้ทัน จึงได้แต่บิดเบือนไปว่านางเคยเห็นในตำรา

“กระบี่ทิวาราตรีในยามนี้อาจารย์ปู่ของเจ้าไม่รู้ว่าผู้ใดครอบครอง? เพราะหลังตีกระบี่เสร็จได้สองปีเห็นว่าเอาไปฝากไว้กับคนสนิทผู้หนึ่ง ภายหลังครอบครัวนั้นถูกลอบเผาเรือนและกระบี่ทั้งสองก็หายสาบสูญไป หากว่าเจ้าสำเร็จวิชากระบี่แล้วมีกระบี่ทั้งสองในครอบครองล่ะก็ เจ้าก็ย่อมจะเป็นกระบี่มือหนึ่งในยุทธภพได้ไม่ยาก”

“ข้าได้ยินว่ากระบี่ทิวาราตรีเป็นกระบี่ชั้นเยี่ยมที่ไม่อาจจะทำลายได้ง่ายๆ นับเป็นศาสตราวุธที่คนทั้งยุทธจักรอยากจะได้”

“ถูกต้อง! ข้าเองก็อยากจะเห็นกระบี่ของท่านอาจารย์เช่นกัน”

เผยมู่ซีตื่นเต้นดีใจนักที่นางได้กลายเป็นศิษย์ของจอมยุทธ์ลู่บุรุษในตำนานผู้นั้น แม้ว่าอาจารย์ปู่ของนางจะมิใช่ยอดยุทธ์แต่วิชาค่ายกลและการสร้างอาวุธนับได้ว่าเป็นหนึ่งในใต้หล้า กระบี่ราตรีที่นางเคยครอบครอง นางต้องหาทางกลับไปเอามาให้จงได้ ‘ในเมื่อข้าได้ร่ำเรียนวิชากระบี่ทิวาราตรีแล้ว หากได้ใช้กระบี่ราตรีย่อมยากจะมีผู้ต้านทาน’

“หลานเอ๋อร์ เรื่องที่ข้าเป็นเหล่าลู่เจ้าจงเก็บเป็นความลับอย่าให้ผู้ใดรู้เป็นอันขาดเพราะนี่คือความปลอดภัยของพวกเจ้าและของข้าด้วย”

“เจ้าค่ะท่านอาจารย์”

“รีบกลับห้องนอนเจ้าเถอะ ต่อไปหากข้ามิได้สวมหน้ากากดำ อย่าเรียกข้าว่าอาจารย์ ข้าอยู่ที่นี่ยังเป็นเหล่าลู่บ่าวรับใช้ของสกุลชิงเช่นเดิม”

เช้าตรู่วันต่อมาด้วยความเห่อพู่กันกล่องใหม่ ชิงหลานจึงรีบลุกขึ้นมาฝึกกระบี่เร็วกว่าเดิมแล้วก็เข้าไปห้องหนังสือเพื่อลองพู่กันใหม่ด้วยการร่างภาพเลียนแบบจิตรกรดังอีกภาพหนึ่ง เสี่ยวลิ่งเกรงว่าคุณหนูจะไปวัดสายนางจึงรีบเข้ามาเตือนให้คุณหนูเตรียมตัว ส่วนนางก็ไปเตรียมอาหารกลางวันใส่ปิ่นโต

ชิงหลานแปลกใจที่เห็นเพียงองครักษ์ประจำพระองค์สองคนยืนเฝ้าอยู่ใต้วิหารเก้าเทพแต่ก็รู้สึกดีที่ไม่ต้องเผชิญหน้ากับองค์ชายสิบห้าให้อึดอัด ตราบใดที่นางยังไม่รู้ตัวฆาตกรที่ทำให้เผยมู่ซีต้องตายอย่างน่าอนาถ นางคงไม่อาจไว้วางใจในตัวหมิงเฉิงอวี่ผู้นั้น

“ท่าทางองค์ชายจะไปตรวจท้องที่อีกแล้วกระมังเจ้าคะ? จะว่าไปองค์ชายก็มีราชกิจเยอะแยะเสียจริง ข้านึกว่าเป็นองค์ชายแล้วไม่ต้องทำงานให้เหนื่อยยากเสียอีก”

“เรื่องนี้มันก็ขึ้นอยู่กับว่าคนผู้นั้นอยากเป็นองค์ชายเช่นใด? อยากอยู่เฉยๆ กินเบี้ยหวัดจากวังหลวงไปวันๆ ก็ทำได้หรือจะเป็นผู้มีความผิดชอบต่อบ้านเมืองก็ทำได้เช่นกัน” แม้เผยมู่ซีจะเห็นด้วยกับเสี่ยวลิ่งว่าองค์ชายสิบห้ามีภารกิจไม่น้อย เห็นทีจะเป็นผู้มีความสามารถได้รับความไว้วางพระทัยจากฮ่องเต้ แต่ตราบใดที่เรื่องเก่าของนางยังไม่กระจ่าง นางก็ยังไม่อาจนับเขาเป็นคนดี...ราชสำนักเต็มไปด้วยเรื่องลึกลับ ล่อลวง อำพรางวางแผน และซับซ้อนยากเกินจะเข้าใจ!

ตกบ่ายจิตรกรหลูก็เรียกนางไปเขาแถวเพื่อรับเงินค่าจ้างตามบัญชีที่องค์ชายได้ตรวจผลงานแล้ว ครั้งนี้งานของเผยมู่ซีสำเร็จไปมากกว่าจิตรกรทุกคน ค่าจ้างของนางจึงหนักเต็มถุง เสี่ยวลิ่งที่เห็นก้อนตำลึงจำนวนมากเป็นครั้งแรกถึงกับอ้าปากค้างร้องอุทานเสียงดัง

“คุณหนูเจ้าคะ! ค่าจ้างของท่านได้เยอะเช่นนี้พวกเราไม่ต้องทำงานได้อีกเป็นปีเลยนะเจ้าคะ”

ชิงหลานหันไปยิ้มน้อยๆ “ส่วนหนึ่งยังต้องไปใช้หนี้ที่ติดค้างน้ำใจผู้อื่นด้วย เจ้าอย่าลืมเสียสิ!”

เสี่ยวลิ่งได้ยินก็หน้าสลดลง นางจำได้ว่าจังฮูหยินจดค่ายาที่หมอฉินสมควรได้ไว้ในบัญชีเป็นเงินตั้งหลายตำลึง คราวก่อนที่ได้เงินค่าวาดภาพฝาผนังจากคุณหนูไป ฮูหยินก็เอาไปมอบให้ท่านหมอก่อนหนึ่งตำลึง ยังมีน้ำใจจากพ่อค้าแม่ค้าในตลาดที่เคยให้อาหารมาโดยมิได้คิดเงินหลายคราว คนเหล่านั้นรู้ว่าจังฮูหยินลำบากจึงได้มอบสิ่งของให้แต่นางกลับเอ่ยว่าขอจดบัญชีมาชดใช้ในภายหลัง และก็ได้ทำตามคำสัตย์นั้นทุกประการ

“แต่เงินส่วนนี้ข้าจะซื้อเสื้อผ้าให้เจ้ากับเหล่าลู่อีกคนละสามชุด คราวก่อนได้เพียงคนละสองชุด เจ้ามาวัดกับข้าทุกวันผู้คนก็จดจำเสื้อผ้าเจ้าได้หมดแล้ว”

เสี่ยวลิ่งหน้าบานขึ้นในทันที “ดีเจ้าค่ะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย(มีEbook)