องค์ชายสิบห้าพระพักตร์ไม่สู้ดีเมื่อได้ยินว่ากังซือเฉินได้รับเชิญจากคุณหนูชิงให้ไปรับประทานอาหารที่จวน องครักษ์กังผู้พี่รู้สึกถึงความกริ้วเป็นระลอกแผ่ออกจากพระวรกาย ทุกคราวที่องค์ชายเสด็จไปเสวยพระกระยาหารที่จวนสกุลชิงเป็นเพราะทรงบังคับเจ้าของเรือนทั้งสิ้น จะมิให้อิจฉากังซือเฉินในยามนี้น่าจะยากยิ่ง องครักษ์กังผู้พี่นึกอยากจะหันไปห้ามญาติผู้น้องมิให้กราบทูลสิ่งใดต่อ ทว่าไม่ทันเสียแล้ว!
“หม่อมฉันอยากทูลขอว่าต่อไปให้หม่อมฉันอารักขาคุณหนูชิงโดยเปิดเผยได้หรือไม่พะยะค่ะ?”
“เพราะเหตุใด?”
“เมื่อวานเพียงแค่หม่อมฉันไปช่วยนางถือของจากตลาดและเดินไปส่งถึงจวน คุณหนูชิงก็เชิญหม่อมฉันเข้าจวนและเลี้ยงอาหารอร่อยๆ หม่อมฉันแล้วพะยะค่ะ”
องค์ชายพระพักตร์คล้ำมืดลงไปหลายส่วน ‘ข้ายังต้องบีบบังคับจึงจะได้ไปกินข้าวที่จวนนั้น แต่เจ้า...แค่ไปช่วยนางถือของก็ได้รับเชิญแล้วงั้นหรือ?’
องครักษ์กังผู้พี่เหมือนจะเดาพระทัยองค์ชายถูก ในใจก็นึกเกรงองค์ชายจะกริ้วและสั่งลงโทษญาติผู้น้อง
“ไม่ได้! เจ้าแค่ตามดูแลนางห่างๆ ก็พอ”
กังซือเฉินไม่เข้าใจว่าเหตุใดองค์ชายจึงต้องให้ตนลอบดูแลคุณหนูชิง? การอารักขาโดยเปิดเผยไม่ดีหรือไรกัน? ได้แต่คิดและสงสัยแต่ไม่กล้าเอ่ยออกมา....
มิใช่มีเพียงองค์ชายเท่านั้นที่รู้สึกหงุดหงิดแต่องครักษ์จงที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็รู้สึกอยากจะชกหน้าเจ้าแซ่กังผู้น้องสักหมัด...ปิ่นที่เตรียมไว้ให้นางยังอยู่ในอกเสื้อ เขายังไม่มีโอกาสได้ปรับความเข้าใจกับนางสักนิด แต่กังซือเฉินกลับได้ไปเดินเที่ยวตลาด ช่วยนางซื้อถือของ ซ้ำยังกินอาหารอยู่ในจวนสกุลชิงอีก!
องครักษ์กังผู้น้องออกมาวิหารเก้าเทพหวังจะมาหาเสี่ยวลิ่งเพื่อตกลงกับนางเรื่องอาหาร สองนายบ่าวกำลังทำงานอยู่หน้าผนังวิหารอย่างคร่ำเคร่งจึงยังไม่สะดวกจะหันมาพูดคุยกับองครักษ์หนุ่ม
“เช่นนั้นข้าจะรอให้เจ้าเสร็จงานก่อนก็แล้ว”
เสี่ยวลิ่งยกมือขึ้นโบกเป็นเชิงให้รอตอนที่นางเสร็จงานแล้วค่อยมาคุยกัน พักใหญ่องค์ชายสิบห้าเสด็จออกมาทอดพระเนตรจิตรกรที่ทำงานในวิหารเก้าเทพทีละชั้นอย่างพินิจพิเคราะห์ จงเหยียนที่เดินตามมาข้างหลังมองเห็นกังซือเฉินนั่งเฝ้าอยู่ไม่ไกลเสี่ยวลิ่งก็หน้าคล้ำลงไปทันควัน
“กังเฉิน น้องชายของเจ้าดูเหมือนจะติดใจจวนสกุลชิงนะ” น้ำเสียงของ จงเหยียนดูขบเขี้ยวเคี้ยวฟันจนองครักษ์จังผู้พี่นึกเป็นห่วงญาติผู้น้อง
‘ซือเฉินนะซือเฉิน เจ้าสร้างศัตรูคราวเดียวถึงสองคนโดยไม่รู้ตัวเช่นนี้ ข้าคงต้องเตือนเจ้าสักหน่อยแล้ว’
องค์ชายสิบห้าเดินตรวจตราผลงานของจิตรกรทุกคนเรียบร้อยแล้วก็ไปหยุดยืนอยู่ด้านหลังชิงหลานเป็นคนสุดท้าย ทรงข่มใจไม่พูดคุยกับนางแม้สักประโยค จากนั้นก็สะบัดชายพระภูษาจากไป
เผยมู่ซีหันหลังมามองหมิงเฉิงอวี่แวบหนึ่ง ตลอดเวลาที่เขายืนอยู่ข้างหลังนางทำให้กดดันยิ่ง เขาไม่พูดไม่จาเอาแต่ถอนหายใจยืนเฝ้าดูนางอยู่นานคล้ายมีเรื่องหงุดหงิดเสียเหลือเกิน
‘ไปเสียได้ก็ดี จู่ๆ ก็มาทำตัวกดดันข้า พิลึกคนเสียจริง!’
แม้นางจะรู้สึกแปลกๆ อยู่สักหน่อยแต่ก็รู้สึกโล่งใจที่เขายอมไปเสียที จนช่วงพักกลางวัน องครักษ์กังผู้น้องก็เข้ามาประจบประแจงพวกนางทั้งสอง
“เจ้าอยากได้อาหารที่จวนของข้าหรือ?”
“ใช่ๆ ข้าขอแบ่งซื้อได้หรือไม่? มิใช่ว่าดูถูกจวนเจ้าหรอกนะ แต่ข้าติดใจรสมือของจังฮูหยินจริงๆ ข้าอยากจะให้เจ้าทำอาหารมาเผื่อพวกข้าสำหรับกินตอนเที่ยงวัน”
“ได้สิๆ แต่ราคาอาหารขึ้นกับวัตถุดิบนะ”
“เรื่องราคาไม่มีปัญหา”
เสี่ยวลิ่งได้ยินคำว่า ‘ซื้อ’ ก็หูผึ่ง นางมองเห็นโอกาสสร้างรายได้จึงรีบหลบไปตกลงราคากับกังซือเฉิน โดยมีชิงหลานยืนยิ้มรออยู่ห่างๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย(มีEbook)