เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย(มีEbook) นิยาย บท 84

จงเหยียนหน้าบึ้ง ไม่ยอมตอบคำถามของสหายซ้ำยังเม้มปากกำหมัดแน่น

“เจ้าไปกินข้าวเที่ยงเถอะ ยามนี้เหลือแต่เจ้าคนเดียวแล้วที่ยังมิได้กิน”

“ข้าไม่หิว!” องครักษ์จงเดินหลบกังเฉินออกไปยืนระบายอารมณ์อยู่สวนด้านข้าง เขาคว้ากระบี่ออกมาฟันต้นหญ้าที่สูงเกะกะอยู่ใกล้กำแพงวัดด้วยความโมโห ในเมื่อเสี่ยวลิ่งไม่สนใจเขา จงเหยียนก็คิดว่าจะไม่มองหน้านางอีก

“ในเมื่อเจ้าไม่สนใจข้า! ข้าก็จะไม่สนใจเจ้าเช่นกัน!”

เสี่ยวลิ่งที่เดินผ่านมาด้านหลังเห็นจงเหยียนยืนอยู่ท่ามกลางพงหญ้าแล้วยังใช้กระบี่ฟันพวกมันอย่างหงุดหงิดก็นึกสงสัย ปกตินางเห็นองครักษ์จงผู้นี้นิ่งเฉยเย็นชาอยู่เป็นนิจ เหตุใดวันนี้จึงดูสติหลุดจนน่ากลัว? นางยืนดูอยู่เป็นนาน เหมือนเขาจะพึมพำอยู่คนเดียวซ้ำๆ แต่นางไม่ได้ยินว่าเขาพูดว่าอะไร? นานเกือบสองเค่อ องครักษ์หนุ่มค่อยเก็บกระบี่แล้วหันหลัง...เขาตกใจที่เห็นเสี่ยวลิ่งยืนดูอยู่

“องครักษ์จง ท่านมีเรื่องไม่สบายใจหรือ?”

จงเหยียนหน้าตึง เขาเพิ่งสัญญากับตนเองว่าจะไม่มองหน้านางอีก แต่นี่นางกลับมายืนทำหน้าสีหน้าห่วงใยไต่ถาม องครักษ์หนุ่มเสมองไปทางอื่น...ในเมื่อนางไม่มีใจให้ เขาย่อมต้องรักษาหน้าตนเองเอาไว้ด้วยการตัดใจจากนางซะ!

เสี่ยวลิ่งเห็นเขาไม่พูดไม่จาซ้ำยังเดินหนีไปอีกทางก็รู้สึกไม่พอใจ ก่อนจะไปเมืองหลวงเขายังมาดักรออยากพูดคุยกับนาง แต่พอกลับมากลายเป็นอีกคนที่เย็นชา ซ้ำยังทำหน้าเหมือนนางติดหนี้เขาแล้วไม่ยอมจ่าย

“ท่านหยุดเดี๋ยวนี้!” นางวิ่งตามหลังจงเหยียนเต็มฝีเท้าจนไปยืนกางแขนขวางเขาเอาไว้ได้ องครักษ์จงหยุดยืนแต่กลับไม่ยอมมองหน้าคนตรงหน้า มือหนึ่งกำด้ามกระบี่แน่น อีกมือก็กำหมัด สีหน้าไม่สู้ดีนัก เสี่ยวลิ่งนึกโมโห...เป็นเขาที่ทำให้นางต้องขายหน้าคนทั้งอำเภอ นี่เขาไม่รู้หรือไรว่าจนป่านนี้ทั้งตลาดยังคนนินทาเรื่องนางไม่เลิก

“ข้าถามท่าน เหตุใดจึงไม่ตอบข้าดีๆ? ทำราวกับข้าเป็นคนน่ารังเกียจนัก ทีข้าถูกผู้อื่นหัวเราะเยาะเพราะท่าน ข้าก็ยังหน้าด้านหน้าทนความอดสูมาได้”

จงเหยียนตกตะลึง เมื่อถูกนางตวาดด้วยความโมโห เขายังไม่ทันได้ตอบอันใด เสี่ยวลิ่งก็วิ่งกลับไปยังวิหารเก้าเทพ พลันได้สติก็คิดทบทวนคำพูดของนาง แต่คิดเท่าใดก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี จึงได้แต่เดินเหม่อกลับไปยังอาคารที่องค์ชายสิบห้ายังทรงงานอยู่

“เจ้าไม่หิวจริงๆ หรือ?” กังเฉินหันมากระซิบถามสหายรัก “สีหน้าของเจ้าดูไม่สู้ดี ซีดเซียวเหมือนจะเป็นลมอยู่รอมร่อ”

“กังเฉินเจ้าเคยได้ยินเรื่องซุบซิบในอำเภอนี้เกี่ยวกับเสี่ยวลิ่งหรือไม่?”

“เรื่องของนางกับเจ้าน่ะหรือ? ข้าเพิ่งได้ยินวันที่พวกเรากลับมาจากเมืองหลวงนั่นล่ะ”

องครักษ์จงผงะเล็กน้อย “คนในตลาดพูดกันว่าอย่างไรหรือ?”

“พวกเขาพูดกันว่าเจ้ากับนางเคยขี่ม้าตัวเดียวกัน ที่แท้เป็นการหลอกให้นางมีความหวัง สุดท้ายเจ้าก็มิได้จริงจังเพราะนางเป็นแค่สาวใช้ ตอนนี้นางถูกเจ้าทอดทิ้งกลายเป็นสตรีมีตำหนิ แต่เดิมอายุของนางก็เลยวัยจะออกเรือนยังมามีเรื่องของเจ้าอีก จากนี้คงไม่มีบุรุษใดมองนางแล้ว”

“บัดซบ! ผู้ใดกล้าพูดเช่นนั้น?”

“เขาพูดกันทั้งตลาด เย็นนี้เจ้าลองไปร้านน้ำชากับข้าดีหรือไม่? จะได้ยินกับหูดูกับตาตนเอง”

“ยามนี้นางก็มีกังซือเฉินมาสนใจแล้วนี่? จะหาว่าไม่มีบุรุษกล้ามาสนใจได้อย่างไร?”

กังเฉินเห็นว่าสหายของตนยังเสแสร้งทำทีเหมือนไม่เกี่ยวข้องกับเสี่ยวลิ่งจึงคิดจะทำให้จงเหยียนแสดงตัวสักหน่อย คนผู้นี้ปกติทำตัวเย็นชาไม่สนใจผู้ใด คราวนี้กลับดูหงุดหงิดวุ่นวายใจเพราะสาวใช้สกุลชิง กังเฉินนึกอยากจะเห็นสหายร้อนรนดูสักครั้ง

“มิใช่แค่น้องชายข้าหรอกที่มาตีสนิทกับนาง เมื่อวานข้าแวะไปร้านน้ำชามา ได้ยินว่าคุณชายนิ่งเองก็สนใจในตัวนางเช่นกัน เขาเอ่ยกับสหายร่วมโต๊ะว่าอยากจะสู่ขอนางไปเป็นอนุภรรยาเพราะเห็นว่านางขยันขันแข็ง ข้าได้ยินเต็มสองหู”

“บุตรคหบดีนิ่งน่ะหรือ?”

“ใช่!...แต่จะว่าไปก็ดีเหมือนกันนะ ข้าได้ยินมาว่าคุณชายนิ่งผู้นี้ยังไม่ตบแต่ง ฮูหยินเอก ตระกูลนิ่งได้รับการยกย่องจากคนที่นี่ว่ามีคุณธรรมและน้ำใจ หากว่านางได้เข้าไปเป็นอนุภรรยาคนแรกก็คงจะได้รับการดูแลอย่างดี ไม่ต้องลำบากอีกต่อไป”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย(มีEbook)