ร่างสูงขององครักษ์จงเดินตามหลังเสี่ยวลิ่งไปถึงหน้าห้องครัว
“เสี่ยวลิ่งหยุดก่อน!”
ร่างบางชะงักก่อนจะหันมาประจันหน้า “ท่านต้องการอะไร?”
“ข้ารู้เรื่องที่คนซุบซิบนินทาเจ้าแล้ว ข้าขอโทษที่ทำให้เจ้าต้องได้รับความ อับอาย”
“ท่านรู้แล้วก็ดี! ข้าต้องหลบหน้าผู้คนก็เพราะท่าน ไม่กล้าไปตลาดก็เพราะท่าน เดือดร้อนถึงเหล่าลู่กับคุณหนูที่ต้องไปหาซื้อของแทนข้า”
สีหน้าของจงเหยียนเจื่อนลง เขาล้วงมือเข้าไปหยิบเอาปิ่นปักผมที่ห่อกระดาษในอกเสื้อออกมาถือไว้ “ข้าไม่ได้ตั้งใจจะให้เจ้าได้รับความเสียหายเช่นนี้”
เสี่ยวลิ่งได้ยินคำว่าไม่ได้ตั้งใจก็รู้สึกแน่นหน้าอก...นางเป็นแค่สาวใช้คนอย่างเขาที่เป็นถึงองครักษ์ขององค์ชายคงมิได้คิดจริงจังกับนางอยู่แล้ว
“ในเมื่อท่านไม่ได้ตั้งใจ ต่อไปก็ไม่ต้องมาใกล้ข้าอีก อีกไม่นานผู้คนคงเลิกพูดกันไปเอง”
“เจ้าห้ามข้ามิให้มาเข้าใกล้คงกลัวว่ากังเฉินกับคุณชายนิ่งจะเข้าใจผิดสินะ”
เสี่ยวลิ่งกำมือแน่น “ไม่ว่าผู้ใดข้าก็ไม่อยากให้เขาเข้าใจผิดทั้งนั้น”
ใบหน้าของจงเหยียนตึงขึ้นในทันที “จริงสิ! เจ้ากับกังเฉินสนิทสนมกันถึงขนาดทำอาหารไปฝากเขาทุกวัน ส่วนคุณชายนิ่งก็เที่ยวป่าวประกาศว่าอยากแต่งเจ้าเข้าคฤหาสน์ ตัวเลือกเจ้ามากมายเช่นนี้เรื่องนินทาที่มีกับข้าก็คงไม่อยากได้ยินให้ระคายหู”
“ข้าจะสนิทกับผู้ใดเกี่ยวอะไรกับท่าน?”
“เกี่ยวสิ! ยามนี้ข้าได้บอกคุณชายนิ่งผู้นั้นไปแล้วว่าเจ้าเป็นคนของข้า และข้าก็จะไปบอกกังเฉินด้วยว่าห้ามมาวุ่นวายกับเจ้า”
เสี่ยวลิ่งผงะ “ท่านจะบ้าไปแล้วหรือ?”
“ผู้อื่นล้วนกล่าวกันว่าข้าหลอกลวงและทิ้งเจ้าไป ความจริงหาได้เป็นเช่นนั้นไม่?” จงเหยียนจ้องหน้านางนิ่ง
“ท่านพูดออกไปเช่นนั้น พรุ่งนี้ข้าจะมองหน้าผู้คนอย่างไรเล่า?”
จงเหยียนจับมือข้างหนึ่งของเสี่ยวลิ่งขึ้น วางปิ่นปักผมลงในมือ “ต่อไปให้เจ้าปักปิ่นที่ข้าให้ทุกวัน จากนี้ไปเจ้าเป็นคนของข้าแล้ว”
เสี่ยวลิ่งกำลังจะเอะอะโวยวายใส่จงเหยียนแต่เขากลับหันหลังเดินไปเสียก่อน นางกำลังจะก้าวเท้าตาม เสียงเหล่าลู่ก็ร้องเรียกจากในครัวให้นางไปช่วยลำเลียงอาหารที่อุ่นเสร็จแล้วออกไปถวายองค์ชาย เสี่ยวลิ่งจำต้องเก็บห่อกระดาษใส่ปิ่นเข้าในอกเสื้อแล้วก้าวเท้าเข้าไปในครัว
องค์ชายทรงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เมื่อตนเองได้รับเชิญเข้าจวนสกุลชิง ชิงหลานที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามถอนหายใจด้วยความหงุดหงิด
‘ไหนว่าแค่จะแวะมาส่งหน้าจวน สุดท้ายก็หาทางมากินอาหารของท่านแม่ข้าจนได้ ช่างเป็นองค์ชายที่เห็นแก่กินนัก’
เมื่อเสวยเสร็จ หมิงเฉิงอวี่ก็รีบทวงถึงภาพเหมือนที่ชิงหลานรับปากว่าจะวาดไว้ให้ นางจำต้องนำเสด็จองค์ชายไปดูภาพที่นางร่างเอาไว้ในห้องหนังสือตามลำพังชิงหลานร่างภาพครึ่งตัวขององค์ชายทิ้งเอาไว้ เมื่อพระองค์ทอดพระเนตรก็ทรงพยักพระพักตร์พอพระทัย
“ข้าเคยเห็นเพียงเจ้าวาดภาพทิวทัศน์ ไม่คิดว่าวาดภาพคนก็ทำได้สวยงาม หากงานที่วัดเสร็จแล้วเจ้าอยากตามไปทำงานที่เมืองหลวงกับข้าหรือไม่?”
ชิงหลานสะดุ้ง ศัตรูของนางคิดอยากจะให้นางตามไปอยู่ใกล้ๆ เห็นทีต้องหาทางปฏิเสธให้ดี “หม่อมฉันต้องปรึกษาอาจารย์จ้าวเสียก่อน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย(มีEbook)