เกิดใหม่ ไปให้สุด นิยาย บท 105

ด้วยเหตุนั้น เมื่อเวลาผ่านไปเมื่อเขาสร้างปัญหานอกบ้าน และไม่กล้าที่จะเล่าเรื่องเหล่านั้นให้พ่อแม่ฟัง น้องสาวคือคนเดียวที่ช่วยเหลือเขาจัดการเรื่องเหล่านั้น

ในบางครั้ง เขาก็สงสัยว่าเธอคือพี่สาวและเขาคือน้องชายมากกว่า

ทุกอย่างในจังหวัดล้วนเสร็จสิ้นแล้ว และตอนนี้สิ่งที่เหลือให้เหล่าลูกน้องดูแล แน่นอนว่าดอว์สันจะจัดการเรื่องทั้งหมดเอง

เช่นนั้น แจสเปอร์จึงพาเฮนรี่เข้าเมือง

มันนานมาแล้วตั้งแต่พวกเขากลับมา ขณะที่แจสเปอร์และเวนดี้เดินผ่านประตู พวกเขาได้ยินเสียงคุณแม่ของแจสเปอร์ แซลลี่บ่นพวกเขาอยู่

“แม้ว่าจะยุ่งมาก พวกลูกต้องพักผ่อนและกินข้าวด้วยนะ ลูกสองคนไปไหนมาสองสามวันนี้? แม่เห็นไฟบ้านที่พวกลูกปิดอยู่ในตอนกลางคืน แม่ไม่เห็นลูกสองคนด้วยเหมือนกัน”

“เราไปในตัวจังหวัดสองสามวันนี้แหละแม่ เราอยู่กับพ่อของเวนดี้” แจสเปอร์ถอดเสื้อโค้ทและแขวนบนราวขณะที่ตอบกลับ

“ลูกไปพบพ่อแม่ของเธอมาเหรอ?” แซลลี่ดูมีความสุขบนใบหน้า

“ลูกเอาของฝากไปด้วยไหม?”

“ลูกทำตัวมีมารยาทใช่ไหม?”

“คุณพ่อของเวนดี้ชอบลูกรึเปล่า?”

คำถามย้ำ ๆ ของแซลลี่ทำให้เวนดี้เขินอาย เธอพูดขึ้น “คุณแซลลี่คะ มันแค่การพบกันธรรมดาค่ะ จุดประสงค์ของการพบกันก็ยังคงเป็นการร่วมมือทางธุรกิจ ไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดหรอกค่ะ”

“หนูเวนดี้ ไม่ต้องอายหรอกจ้ะ เรามาคุยกันเรื่องนี้ตอนคุณพ่อของแจสเปอร์กลับมาละกันนะ เราจะมาตัดสินใจเรื่องเวลาที่ผู้ใหญ่จะพบกัน” แซลลี่พูดบางอย่างที่น่าประหลาดใจ

แจสเปอร์ไม่รู้ว่าจะต้องหัวเราะหรือร้องไห้ดี “อะไรคือการพบกันของพ่อแม่หรอครับ? แม่ครับ อย่าเพิ่งขัดสิ!”

“กำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไรอยู่ เจ้าลูกชาย? ให้หนูเวนดี้อยู่กับลูกโดยไม่มีสถานะงั้นเหรอ? แม่ไม่ยอมหรอกนะ และผู้ใหญ่ควรจะเจอกันเมื่อถึงเวลา ตามธรรมเนียมของเราแล้ว ครอบครัวฝ่ายชายควรเป็นฝ่ายไปบ้านฝ่ายหญิงและเชิญมาที่บ้าน”

ยิ่งพูดถึงเรื่องนี้มากเท่าไหร่ แซลลี่ยิ่งมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น เธออยากโทรหาชาร์ลีตอนนี้ใจจะขาดเพื่อปรึกษาเรื่องการพบกันของผู้ใหญ่

เมื่อเจสเปอร์เห็นเวนดี้ที่กำลังเขินอายอยู่เหมือนกับหนูที่อยากจะซ่อนตัวเต็มที เขากระแอมอย่างแห้ง ๆ และเมื่อเขากำลังจะพูดอะไรสักอย่าง เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

คนที่โทรมาคือจอห์น เขาพูดว่ามันนานสักพักแล้วที่ไม่ได้เจอกัน เพราะเหตุนั้นเขาถึงอยากชวนแจสเปอร์ออกไปสังสรรค์

แจสเปอร์ได้ยินถึงปัญหาที่ซ่อนไว้ซึ่งจอห์นไม่ได้เอ่ยถึงระหว่างคุยสายอย่างตะกุกตะกัก

เพราะเหตุนั้น แจสเปอร์จึงตกลงโดยไม่ไตร่ตรอง

ก่อนหน้านั้นจอห์นช่วยเขาไว้มาก ดังนั้น ถ้าสามารถช่วยเขาตอนนี้ได้ เขาก็จะช่วยอย่างไม่ลังเล

เมื่อแซลลี่ได้ยินที่แจสเปอร์กำลังพูดคุยว่าเขาต้องไปข้างนอกแล้วหลังจากที่เพิ่งกลับบ้าน เธอทำหน้าเสียทันที

“ลูกนี่ยุ่งอยู่ตลอดเลยนะ ไม่มีแม้แต่เวลาที่จะกินข้าวที่บ้านบ้างหรอ หือ?”

แจสเปอร์กล่าวอย่างช่วยไม่ได้ว่า “มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนทางสังคมน่ะครับแม่ และผมปฏิเสธไม่ได้ด้วย แล้วจะกลับมาให้ไวนะครับ”

หลังจากพูดจบ เขาวิ่งออกไปภายใต้แววตาของเวนดี้ที่ปิดบังความขุ่นเคืองไว้

หลังจากที่แซลลี่บ่นได้ซักพัก เธอหันมาและยิ้มให้กับเวนดี้ และพูดว่า “หนูเวนดี้ อย่าไปสนใจเขาเลยนะ อยากกินอะไรหรอจ๊ะ? แม่จะไปซื้อวัตถุดิบเดี๋ยวนี้แหละ จะมาทำกับข้าวให้หนู”

เวนดี้ตอบกลับด้วยมารยาทอันน่ารักว่า “คุณแซลลี่คะ ไปด้วยกันนะคะ ฉันอยากเรียนรู้การทำอาหารจากคุณด้วยเหมือนกัน”

ยิ่งมองที่เวนดี้มากเท่าไหร่ แซลลี่ยิ่งเอ็นดูเวนดี้มากเท่านั้น หล่อนพูดอย่างไม่เร่งรีบว่า “ก็ได้จ่ะ เราไปซุปเปอร์มาเก็ตกัน ฉันคิดว่าคุณพ่อของแจสเปอร์คงจะกลับมาถึงตอนทำเราเสร็จแล้ว”

ยี่สิบนาทีผ่านไป แจสเปอร์มาถึงยังตำแหน่งที่นัดไว้

มันคือคาเฟ่

ปัจจุบันนี้ ถ้าใครต้องการรับประทานอาหารนอกบ้าน คงเป็นร้านอาหารติดดินหรือไม่ก็ร้านอาหารหรู ซึ่งไม่ได้มีตัวเลือกมากมายเท่าไหร่เหมือนในอนาคต

ด้วยเหตุนั้น การมีอยู่ของคาเฟ่จึงเป็นที่นิยมในหมู่คนทั่วไปเพราะมันดูมีสไตล์และราคาย่อมเยาสำหรับพวกเขา

หลังจากที่แจสเปอร์เจอห้องลับ แจสเปอร์ดันประตูเข้าไปเห็นจอห์นที่กำลังนั่งอยู่และดื่มคนเดียว

“เกิดอะไรขึ้น? ดูเหมือนจะโดนใครหักอกมาสิท่า”

จอห์นถอนหายใจและพูดว่า “พี่ชาย พี่ต้องช่วยฉันตอนนี้นะ ไม่อย่างงั้น ฉันจบเห่แน่”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ ไปให้สุด