เกิดใหม่ ไปให้สุด นิยาย บท 123

กอร์ดอนชี้ไปที่ตำแหน่งทางการตลาดและขำ “ตลาดนี้มันผันผวนและกำลังเป็นขาลง ไอ้เวร แกยังจะมาบอกให้ฉันทำแบบนี้ต่อไปอย่างนั้นเหรอ?”

“ถ้าตลาดขาขึ้นวันนี้นะ ไอ้เด็กน้อย ฉันจะถอดกางเกงในแล้วกินมันด้วยเลย!”

“มิสเตอร์ลอว์ เราอาจจะไม่ใช่ที่หนึ่งในเมืองฮาร์เบอร์ แต่เรารับใช้ตระกูลคุณนางในอดีตมามากมาย เรามีช่วงเวลาที่น่ารื่นรมย์กับการทำงานร่วมกันก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้ ไอ้เด็กที่มาจากไหนก็ไม่รู้คนนี้กำลังพล่ามเรื่องไร้สาระมากมาย นี่เขากำลังเล่นสนุกผลาญเงินของตระกูลลอว์เป็นกระดาษอยู่เหรอ?

กอร์ดอนมองไปที่แซคคารีด้วยท่าทีที่เย็นชาขณะที่แซคคารียังคงนิ่งเงียบ

“แม้แต่เด็กสามขวบยังบอกได้เลยว่าถ้าเขาสวนทางกับตลาด คุณจะจบลงด้วยการขาดทุนหนึ่งพันล้านล้านดอลลาร์...”

“มิสเตอร์ลอว์” แจสเปอร์พูดเบา ๆ

แซกคารีมองไปที่เขา

“ผมแนะนำให้คุณยุติการร่วมงานทุกอย่างกับมิสเตอร์เลียมเดี๋ยวนี้!”

คำสั่งที่หนักแน่นและเย็นชาของแจสเปอร์เข้าไปในหูของกอร์ดอนอย่างชัดเจน

กอร์ดอนรู้สึกเดือดเป็นอย่างมาก ปอดของเขาแทบจะระเบิด เขาหลุดหัวเราะอย่างดูถูกออกมาว่า “ไอ้กร๊วกเอ้ย แกคิดว่าตัวเองเจ๋งมากเหรอ ห๊า? ไอ้เวร! แกคิดว่าแกเป็นใครกัน? ฉัน กอร์ดอน เลียม คือคนที่มีชื่อเสียงท่ามกลางหมู่เทรดเดอร์ในเมืองฮาร์เบอร์...”

“กอร์ดอน”

แซคคารีเลิกคิ้วขึ้นและมองไปที่กอร์ดอนซึ่งกำลังพล่ามไม่หยุด

“จากนี้เป็นต้นไป ตระกูลจะยุติทุกความร่วมมือกับนาย เพราะงั้นตอนนี้ช่วยหุบปากหน่อย เทรดเดอร์คนอื่นก็เช่นกัน ทำอย่างที่มิสเตอร์เลนบอกซะ ถ้ายังได้ยินคำพูดไรสาระอีกกว่านี้ ฉันจะแจ้งเรื่องนี้ให้เจ้านายของพวกคุณ แฮริสสัน เซจเลอร์ ซะ”

ท่าทีของแซคคารีนั้นชัดเจนมาก และคำพูดของเขาทำให้ทีมเทรดเดอร์เงียบลง

ทุกคนหันไปมองกอร์ดอน

ท่าทางของกอร์ดอนน่ากลัวและอึดอัดเป็นอย่างมาก

เขาไม่คิดเลยว่าแซคคารีจะบ้าและเสียสติไปแล้วจริง ๆ ที่ฟังคำสั่งของแจสเปอร์

กอร์ดอนเริ่มเบะปาก หลังจากนั้นก็เยาะเย้ยและพูดว่า “โอเค มิสเตอร์ลอว์ นั่นมันเงินของคุณ จะทำอะไรก็ทำไปละกัน!”

กอร์ดอนไม่ได้เสียสติไม่ว่าเขาจะโกรธมากแค่ไหนก็ตาม ในเมืองฮาร์เบอร์ มีแค่ไม่กี่คนที่กล้าต่อต้านตระกูลลอว์ ไม่ต้องพูดถึงแซคคารี ผู้นำตระกูลรุ่นที่สอง เลย!

กอร์ดอนไม่ได้เดินออกไปเช่นกัน ยังยืนอยู่ข้างเพื่อรอดู เขาอยากจะดูความตื่นเต้นบนใบหน้าของพวกเขาเมื่อแซคคารีเสียเงินในบัญชีไปทั้งหมด

“พวกคุณต้องการให้ผมออกคำสั่งก่อนหน้านี้ซ้ำไหม? แจสเปอร์กล่าวอย่างเยือกเย็น

พวกเทรดเดอร์หยุดพูดเรื่องไร้ส่ระและกลับไปทำงานทันที

เสี้ยววินาทีต่อมา คำสั่งซื้อประมาณมากเข้าช้อนดัชนีฮันเซลขึ้น

แม้ว่าจำนวนเกือบ 800 ล้าน นั้นเปรียบเหมือนน้ำหนึ่งหยดในมหาสมุทรสำหรับดัชนีหุ้นฮันเซลทั้งหมด เพราะฉะนั้นมันจึงไม่ได้เป็นสาเหตุให้ราคาแกว่งเลย

อย่างไรก็ตาม หลายคนคงสังเกตเห็นคำสั่งซื้อปริมาณมากและคงเยาะเย้ยไอ้โง่คนนี้ซึ่งมีเงินสำรองมากมายไว้สำหรับสวนทางตลาดเมื่อตลาดกำลังเป็นขาลง

ในขณะเดียวกัน ในออฟฟิศของแฮริงตัน แคปปิตอล บริษัทลงทุนทางการเงินอันดับหนึ่งของเมืองฮาร์เบอร์

“มีใครบางคนกำลังสวนทางตลาดและช้อนซื้ออย่างนั้นเหรอ?”

วอลเลส แลงดอน ชายผู้ที่ติดอันดับของคนที่รวยที่สุดในยุโรปเมื่อสี่ปีที่แล้ว เฝ้าดูแนวโน้มตลาดด้วยความสนใจอย่างมาก

แม้ว่าชายที่รวยที่สุดในยุโรปในตอนนี้เปลี่ยนเป็นโจ ซึ่งนามสกุลของเขาคือแลงดอนด้วนเช่นกัน ไม่มีใครกล้าดูแคลนความสามารถของวอลเลสเลย

“น่าสนใจดีนะ ฉันสงสัยว่าเป็นบริษัทไหนในเมืองฮาร์เบอร์นี้กันนะ? หรืออาจจะเป็น นักลงทุนต่างชาติก็ได้นะ?”

วอลเลสครุ่นคิดและยกโทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะทำงานขึ้นก่อนบ่นในสาย “นี่ฉันเอง ใครบางคนเริ่มการซื้อขายแล้ว อย่าเสียเวลาไปมากกว่านี้ ปล่อยข่าวไป มันจะต้องเป็นคืนที่หนักหนาแน่”

หลังจากพูดจบ วอลเลสวางสาย เอนหลังบนเก้าอี้ผู้บริหาร หรี่ตามองไปที่คำสั่งซื้อปริมาณมากที่ถูกฝังในทะเลอันกว้างใหญ่ของฐานข้อมูลธุรกรรมทางการเงิน

ในเวลาเดียวกันในการวิจัยของตระกูลลอว์

“เธอมั่นใจไหม?” แซคคารีถาม

แจสเปอร์คิดว่าเขากังวลอยู่ แต่พูดด้วยรอยยิ้มว่า “แน่นอนครับ”

แซคคารีพยักหน้าและพูดด้วยเสียงนุ่มลึก “เพราะว่าเธอมั่นใจมาก ฉันอาจจะนำเงินอีกสองพันล้านมาเพิ่มให้ภายในสิบนาที”

แม้ว่าแจสเปอร์ทราบดีว่าตระกูลลอว์ร่ำรวย เขายังคงรู้สึกอึ้งกับความใจกว้างของแซคคารี เขากำลังจะพูดบางอย่างในขณะที่ตลาดผันผวน

“มันสายไปแล้ว”

แจสเปอร์จ้องอย่างแน่วแน่ไปที่ตลาดและหัวเราะออกมาเสียงดัง “ตลาดได้เริ่มขึ้นแล้ว!”

ทันทีที่แจสเปอร์กล่าวแบบนั้น แซคคารีหันมาอย่างทันทีและเห็นว่าบริการภาคโทรคมนาคมกำลังนำกำไรอยู่ พวกเขากำลังใช้มันขับเคลื่อนภาคเทคโนโลยีไฟฟ้า จึงเป็นเหตุให้ราคาพุ่งสูงขึ้นทันที

การพุ่งสูงขึ้นของราคาหุ้นรายตัวขับเคลื่อนภาคส่วนนี้ และอีกหลากหลายภาคส่วนก็ถูกขับเคลื่อนด้วยเหมือนกันซึ่งเป็นเหตุให้ตลาดถีบตัวขึ้นทันที

ดัชนีฮันเซลกระโดดจาก 17,979 มากกว่าสิบจุด จากมุมมองของตลาดแล้ว มันเหมือนกับมังกรยักษ์กำลังนอนตีพุงอยู่นั้นชูหัวขึ้นเล็กน้อย

“เปิดทีวีช่องเศรษฐกิจเร็ว!” แจสเปอร์รีบพูด

ไม่เหลือคนใช้สักคนในห้องค้นคว้า ดังนั้นแซคคารีตอบรับทันทีหลังจากได้ยินที่แจสเปอร์กล่าว เขาแย่งหน้าที่ของคนใช้เปิดโทรทัศน์ เปลี่ยนช่องไปช่องเศรษฐกิจ

แม้ว่าแจสเปอร์จะไม่เข้าใจภาษาของเมืองฮาร์เบอร์ เขาพอจะจับจุดได้ว่าผู้ประกาศข่าวกำลังพูดอะไรโดยมองไปที่ภาพบนหน้าจอ

“เนสแดคสหรัฐและการแลกเปลี่ยนหุ้นนิวยอร์กได้ถึงจุดสูงสุดตลอดกาลแล้ว! อุตสาหกรรมอินเตอร์เน็ตร่วมลงทุนให้กับคลื่นที่พุ่งสูงขึ้นลูกนี้อย่างมาก”

“ตลาดหุ้นของทุกประเทศทั่วโลกได้โตขึ้นเนื่องจากอิทธิพลของตลาดหุ้นสหรัฐ...”

“ดัชนีฮันเซลของเมืองฮาร์เบอร์จะทะลุเป้าหนึ่ง 18,000 จุดโดยใช้ประโยชน์ของข่าวดีในตลาดหุ้นทั่วโลกหรือไม่?”

“เราได้เชิญนักวิเคราะห์หุ้นผู้เชี่ยวชายโดยเฉพาะ...”

ตลาดยังคงพุ่งทะยาน ตลาดการเงินของเมืองฮาร์เบอร์อ่อนไหวเป็นอย่างมาก ในช่วงเวลาสำคัญนี้ รัฐบาลชองเมืองฮาร์เบอร์ปล่อยข่าวบางอย่างออกมาทันที

“ด้วยการสนับสนุนจากแผ่นดินใหญ่ รัฐบาลฮาร์เบอร์ซิตี้จะเปิดตัวชุดนโยบายทางการเงินให้กับการพัฒนาตลาดหุ้น!”

ดัชนีฮันเซลที่สั่งสมโมเมนตัมมากพอแล้ว เริ่มที่จะทะลุเป้า 18,000 จุดอย่างไม่น่าเชื่อจากรายงานข่าวนี้

ทั้งผู้ที่ซื้อหุ้นแบบชอร์ตและแบบลองได้ลงราคาที่รุนแรงประมาณ 18,000 จุดและปริมาณทุนจำนวนมากหลั่งไหลเข้าสู่ตลาดดัชนีฮันเซลด้วยจำนวนสิบถึงหนึ่งร้อยล้านของการจัดซื้อขายต่อวินาที

เพราะข่าวดีเหล่านั้น แซคคารีจับหัวใจที่เต้นเร็วของเขาและมองไปที่หน้าจอ ราคาได้ทะลุหนึ่ง 18,000 จุดไปแล้ว!

“มังกรได้เชิดหัวขึ้นแล้ว!”

แจสเปอร์ก้มหน้า จิบชาบลูเมาธ์เทนและหัวเราะ

ตอนนี้ในวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ หน้าของกอร์ดอน ซึ่งเฝ้ารอที่จะเห็นแจสเปอร์ทำตัวงี่เง่าและแซคคารีเสียใจกับการตัดสินใจของเขา ถึงกับซีด

เขาจ้องอย่างจริงจังไปที่ตลาดราวกับวิญญาณได้ออกจากร่างเขาไปแล้ว

“มันเป็นไปได้ยังไง? มันแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น เขาซื้อได้สำเร็จและตลาดก็ขยับตัวขึ้นจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ? มันเป็นไปไม่ได้...”

“ไม่ใช่แค่เขาคืนทุนที่เสียไปเมื่อก่อนได้ แต่เขายังทำกำไรได้อีกตั้งหนึ่งร้อยล้าน!”

“เขาคาดการณ์ได้ยังไง?”

กอร์ดอนถึงกับเหงื่อตก ภายในสายตาของแจสเปอร์ที่ยังคงหัวเราะอย่างใจเย็นอยู่ตอนนี้...

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ ไปให้สุด