กอร์ดอนชี้ไปที่ตำแหน่งทางการตลาดและขำ “ตลาดนี้มันผันผวนและกำลังเป็นขาลง ไอ้เวร แกยังจะมาบอกให้ฉันทำแบบนี้ต่อไปอย่างนั้นเหรอ?”
“ถ้าตลาดขาขึ้นวันนี้นะ ไอ้เด็กน้อย ฉันจะถอดกางเกงในแล้วกินมันด้วยเลย!”
“มิสเตอร์ลอว์ เราอาจจะไม่ใช่ที่หนึ่งในเมืองฮาร์เบอร์ แต่เรารับใช้ตระกูลคุณนางในอดีตมามากมาย เรามีช่วงเวลาที่น่ารื่นรมย์กับการทำงานร่วมกันก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้ ไอ้เด็กที่มาจากไหนก็ไม่รู้คนนี้กำลังพล่ามเรื่องไร้สาระมากมาย นี่เขากำลังเล่นสนุกผลาญเงินของตระกูลลอว์เป็นกระดาษอยู่เหรอ?
กอร์ดอนมองไปที่แซคคารีด้วยท่าทีที่เย็นชาขณะที่แซคคารียังคงนิ่งเงียบ
“แม้แต่เด็กสามขวบยังบอกได้เลยว่าถ้าเขาสวนทางกับตลาด คุณจะจบลงด้วยการขาดทุนหนึ่งพันล้านล้านดอลลาร์...”
“มิสเตอร์ลอว์” แจสเปอร์พูดเบา ๆ
แซกคารีมองไปที่เขา
“ผมแนะนำให้คุณยุติการร่วมงานทุกอย่างกับมิสเตอร์เลียมเดี๋ยวนี้!”
คำสั่งที่หนักแน่นและเย็นชาของแจสเปอร์เข้าไปในหูของกอร์ดอนอย่างชัดเจน
กอร์ดอนรู้สึกเดือดเป็นอย่างมาก ปอดของเขาแทบจะระเบิด เขาหลุดหัวเราะอย่างดูถูกออกมาว่า “ไอ้กร๊วกเอ้ย แกคิดว่าตัวเองเจ๋งมากเหรอ ห๊า? ไอ้เวร! แกคิดว่าแกเป็นใครกัน? ฉัน กอร์ดอน เลียม คือคนที่มีชื่อเสียงท่ามกลางหมู่เทรดเดอร์ในเมืองฮาร์เบอร์...”
“กอร์ดอน”
แซคคารีเลิกคิ้วขึ้นและมองไปที่กอร์ดอนซึ่งกำลังพล่ามไม่หยุด
“จากนี้เป็นต้นไป ตระกูลจะยุติทุกความร่วมมือกับนาย เพราะงั้นตอนนี้ช่วยหุบปากหน่อย เทรดเดอร์คนอื่นก็เช่นกัน ทำอย่างที่มิสเตอร์เลนบอกซะ ถ้ายังได้ยินคำพูดไรสาระอีกกว่านี้ ฉันจะแจ้งเรื่องนี้ให้เจ้านายของพวกคุณ แฮริสสัน เซจเลอร์ ซะ”
ท่าทีของแซคคารีนั้นชัดเจนมาก และคำพูดของเขาทำให้ทีมเทรดเดอร์เงียบลง
ทุกคนหันไปมองกอร์ดอน
ท่าทางของกอร์ดอนน่ากลัวและอึดอัดเป็นอย่างมาก
เขาไม่คิดเลยว่าแซคคารีจะบ้าและเสียสติไปแล้วจริง ๆ ที่ฟังคำสั่งของแจสเปอร์
กอร์ดอนเริ่มเบะปาก หลังจากนั้นก็เยาะเย้ยและพูดว่า “โอเค มิสเตอร์ลอว์ นั่นมันเงินของคุณ จะทำอะไรก็ทำไปละกัน!”
กอร์ดอนไม่ได้เสียสติไม่ว่าเขาจะโกรธมากแค่ไหนก็ตาม ในเมืองฮาร์เบอร์ มีแค่ไม่กี่คนที่กล้าต่อต้านตระกูลลอว์ ไม่ต้องพูดถึงแซคคารี ผู้นำตระกูลรุ่นที่สอง เลย!
กอร์ดอนไม่ได้เดินออกไปเช่นกัน ยังยืนอยู่ข้างเพื่อรอดู เขาอยากจะดูความตื่นเต้นบนใบหน้าของพวกเขาเมื่อแซคคารีเสียเงินในบัญชีไปทั้งหมด
“พวกคุณต้องการให้ผมออกคำสั่งก่อนหน้านี้ซ้ำไหม? แจสเปอร์กล่าวอย่างเยือกเย็น
พวกเทรดเดอร์หยุดพูดเรื่องไร้ส่ระและกลับไปทำงานทันที
เสี้ยววินาทีต่อมา คำสั่งซื้อประมาณมากเข้าช้อนดัชนีฮันเซลขึ้น
แม้ว่าจำนวนเกือบ 800 ล้าน นั้นเปรียบเหมือนน้ำหนึ่งหยดในมหาสมุทรสำหรับดัชนีหุ้นฮันเซลทั้งหมด เพราะฉะนั้นมันจึงไม่ได้เป็นสาเหตุให้ราคาแกว่งเลย
อย่างไรก็ตาม หลายคนคงสังเกตเห็นคำสั่งซื้อปริมาณมากและคงเยาะเย้ยไอ้โง่คนนี้ซึ่งมีเงินสำรองมากมายไว้สำหรับสวนทางตลาดเมื่อตลาดกำลังเป็นขาลง
ในขณะเดียวกัน ในออฟฟิศของแฮริงตัน แคปปิตอล บริษัทลงทุนทางการเงินอันดับหนึ่งของเมืองฮาร์เบอร์
“มีใครบางคนกำลังสวนทางตลาดและช้อนซื้ออย่างนั้นเหรอ?”
วอลเลส แลงดอน ชายผู้ที่ติดอันดับของคนที่รวยที่สุดในยุโรปเมื่อสี่ปีที่แล้ว เฝ้าดูแนวโน้มตลาดด้วยความสนใจอย่างมาก
แม้ว่าชายที่รวยที่สุดในยุโรปในตอนนี้เปลี่ยนเป็นโจ ซึ่งนามสกุลของเขาคือแลงดอนด้วนเช่นกัน ไม่มีใครกล้าดูแคลนความสามารถของวอลเลสเลย
“น่าสนใจดีนะ ฉันสงสัยว่าเป็นบริษัทไหนในเมืองฮาร์เบอร์นี้กันนะ? หรืออาจจะเป็น นักลงทุนต่างชาติก็ได้นะ?”
วอลเลสครุ่นคิดและยกโทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะทำงานขึ้นก่อนบ่นในสาย “นี่ฉันเอง ใครบางคนเริ่มการซื้อขายแล้ว อย่าเสียเวลาไปมากกว่านี้ ปล่อยข่าวไป มันจะต้องเป็นคืนที่หนักหนาแน่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ ไปให้สุด
ต่อหน่อยคร๊าฟ...
รออัพอยู่นะคะ เดือนเศษแล้ว จะมีต่อไหมคะ...