“ขอบคุณสำหรับความใจกว้างของคุณนะครับ คุณชายแลงดอน”
แจสเปอร์ยิ้มเยาะขณะที่รับเช็คไป
มิทช์กัดฟันและยิ้มเยาะขณะที่มองไปที่แจสเปอร์และพูดว่า “อย่าได้ใจไปหน่อยเลย เมืองฮาร์เบอร์น่ะแคบ แต่มีเรื่องเกิดขึ้นทุกวัน เรา... มีโอกาสอีกหลายครั้งเพื่อที่จะสู้กัน!”
ด้วยเหตุนั้น มิทช์จากไปพร้อมกับเหล่าเทรดเดอร์ของเขา
“โธ่เอ้ย น่าเสียดายที่ไม่ได้เห็นมันคุกเข่าลง”
เฮนรี่มีท่าทีน่าเสียดาย เขาอาจจะนึกถึงมิทช์ในตอนนี้ แต่เขาอยากเห็นมิทช์คุกเข่ามากว่า
“มันอาจจะดีไม่น้อยในตอนนี้ที่เห็นเขาคุกเข่า แต่เราก็ไม่ได้อะไรจากเรื่องนี้ มีแต่จะเพิ่มตระกูลแลงดอนเป็นศัตรูเสียเปล่า” แจสเปอร์กล่าว
แอนนาพยักหน้าและพูดว่า “แจสเปอร์พูดถูก พ่อแม่ของเราอาจจะไม่สนใจถ้าหากลูกน้องของเราทะเลาะกันเอง แต่เราจะทำให้ตระกูลแลงดอนโกรธเอาได้ ถ้าเราบังคับเขาให้คุกเขา พวกเขาไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปแน่”
แจสเปอร์พัดด้วยเช็คในมือและพูดว่า “ถ้านายมองภาพที่ใหญ่กว่า มันไม่สำคัญเลยว่าเขาจะคุกเข่าหรือไม่ เราได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่านั้นในตอนนี้ 100 ดอลลาร์! นายคิดว่ามันจะง่ายแบบนี้ไหมที่จะหาเงินได้มากขนาดนี้?”
“ฉันคิดว่ามันค่อนข้างง่ายสำหรับนายนะ” เฮนรีพึมพำ
“เอาน่า ไปกันเถอะ” แจสเปอร์กล่าวขณะที่ยิ้ม
แจสเปอร์ได้วางแผนที่จะตรงกลับไปที่โรงแรม แต่หลังจากที่แอนนาได้รับสายจากแซคคารีที่กล่าวว่าเกิดรื่องแย่หลายอย่างกับธุรกิจของเธอในแวดวงบันเทิง แจสเปอร์จึงเปลี่ยนแผนและกลับไปที่บ้านของตระกูลลอว์แทน
แจสเปอร์คุ้นเคยกับครอบครัวของตระกูลลอว์เป็นอย่างมากในการเดินทางครั้งที่สองนี้
“แจสเปอร์ ไม่เจอกันนานเลยนะ”
แซคคารียิ้มอย่างอบอุ่นขณะที่จับมือของแจสเปอร์ และตบที่บ่า
เฮนรี่อารมณ์คุกรุ่นด้วยความอิจฉาขณะที่ดูเหตุการณ์นี้ เขาอาจจะเป็นลูกชายของแซคคารี แต่เขาแทบจะไม่ได้รับความโปรดปรานจากพ่อของเขาเลย
“สองวันครับ” แจสเปอร์กล่าวขณะที่ยิ้ม
“มา มาทานมื้อเย็นกันเถอะ” แซคคารีกล่าวขณะที่กวักมือ
ผู้อาวุโสลอว์ได้ไปเข้ารับการรักษาและไม่ได้อยู่ด้วยระหว่างมื้อเย็น
ขณะที่นั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะ แววตาของแซคคารีลุกวาวด้วยความอยากรู้ขณะที่เขาฟังเฮนรีและแอนนาพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้
“ฉันพอรู้เรื่องมาบ้างว่าเกิดอะไรขึ้นกับเดนสัน วินเทค โจและเคเดนเคยเสนอเรื่องนี้ตั้งแต่ปีที่แล้วที่เจ้าเข้าสู่ตลาดยุโรป และพวกเขาดำเนินการเสร็จไปหลายขั้นตอน”
“ผมรู้อยู่แล้วว่าพวกเขาจะสำเร็จ แต่ไม่คิดว่าพวกเขาจะทำสำเร็จไวขนาดนี้”
แซคคารีจ้องแจสเปอร์อย่างจริงจังและพูดว่า “นี่เธอคาดการณ์ผลลัพธ์นี้โดยแค่อ่านนิตยสารเพียงเล่มเดียวงั้นเหรอ?”
แจสเปอร์หัวเราะและพูดว่า “เอิ่ม ก็ไม่เชิงครับ ผมสนใจในสินทรัพย์ต่าง ๆ ของโจมาตลอด อาจจะเกิดคลื่นมูลค่าที่สูงขึ้นสำหรับพวกเขาในอนาคต”
“วันนี้มันก็แค่เรื่องบังเอิญครับ อีกอย่าง ผมไม่มั่นใจถ้าเดนสัน วินเทคจะเผยข่าวในวันนี้”
แซคคารีพยักหน้า พรสวรรค์ของแจสเปอร์จะเป็นปีศาจร้ายที่น่าสะพรึงกลัวถ้าเขาสามารถรู้ได้ถึงโอกาสอันยิ่งใหญ่ทางธุรกิจจากแค่นิตยสารเล่มเดียว
อย่างไรก็ตาม นี่ก็เพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์ว่าแจสเปอร์มีไหวพริบที่พิเศษทางธุรกิจ
มันควรถูกรับรู้ว่าในฐานะผู้นำตระกูลลอว์ เขาเข้าถึงข้อมูลภายในที่คนอื่นไม่มี อย่างไรก็ตาม แจสเปอร์ยังคงตั้งใจที่จะปกปิดข้อเท็จจริงด้วยความจริงที่ซ่อนเร้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ ไปให้สุด
รออัพอยู่นะคะ เดือนเศษแล้ว จะมีต่อไหมคะ...