เกิดใหม่ ไปให้สุด นิยาย บท 154

“คุณลุงลอว์ แกลดเนส เอ็นเตอร์เทนเมนต์กำลังจะขายจริง ๆ เหรอ?” แจสเปอร์ถาม

แซคคารีพยักหน้าและพูดว่า “หัวหน้าของพวกเขา ไมเคิล เลน เป็นเพื่อนเก่าฉัน”

“แกลดเนส เอ็นเตอร์เทนเมนต์ มูฟวี่ เป็นสาขานึงของบริษัทของเขา แกลดเนส อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์เปอเรชั่น มันทำได้ค่อนข้างดีเลยเมื่อหลายปีก่อน และบริษัททำรายได้ค่อนข้างน้อยในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ อย่างไรก็ตาม ภาพยนตร์ของฮาร์เบอร์ซิตี้ได้เสียความนิยมไปในปีปัจจุบัน”

“ซึ่งเหตุผลว่าทำไมเขาตัดสินใจเปลี่ยนจุดโฟกัสขจากอุตสาหกรรมภาพยนต์ไปเป็นการบริหารสินทรัพย์ทางการเงินและไปสู่นานาชาติ นั่นเป็นเหตุว่าทำไมเขาต้องการสร้างงานบันเทิงของบริษัทและขายมันไป”

แจสเปอร์คิดกับตัวเองว่าผู้นำของแกลดเนส เอ็นเตอร์เทนเมนต์ มูฟวี่ ไมเคิล เลน เป็นคนมีวิสัยทัศน์

ในชาติก่อน ภาพยนตร์ของฮาร์เบอร์ซิตี้ขึ้นไปยังจุดสูงสุดในยุค 90 ภาพยนตร์เกี่ยวกับนักเลง ภาพยนตร์เกี่ยวกับการพนัน และภาพยนต์ที่แสดงโดยสตีเฟ่น โคล ได้แต่งแต้มคนหนุ่มสาวรุ่นนั้นให้มีสีสัน

อย่างไรก็ตาม ชื่อเสียงของพวกเขาเริ่มจากไปตั้งแต่ปี 2000 และยาวไปจนถึงปี 2020

อย่างไรก็ตาม ไมเคิล เลนก็ไม่ได้ขายบริษัทในอดีตชาติของเขา

“เขาจะขายมันเท่าไหร่หรอครับ” แจสเปอร์ถาม

แซคคารีขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะที่พูดว่า “มันค่อนข้างพูดยากนะ แต่พูดตามตรงคือ ถ้าแกลดเนส เอ็นเตอร์เทนเมนต์ มูฟวี่ ไม่ได้ตรงความต้องการของเธอทั้งหมด ฉันคงจะกำจัดพวกเขาในทันที”

“อย่างแรกคือ ไมเคิลกำลังมองหาผู้มีกำลังซื้อสักคนเพื่อซื้อหุ้นของบริษัทอื่น ๆ ผ่านการขายหุ้นของบริษัทของเขาเอง”

“ถ้าเธอกำลังมองหาการซื้อด้วยเงินสด เขาต้องเรียกไม่ต่ำกว่าสองพันล้านดอลลาร์สำหรับทั้งบริษัท”

แจสเปอร์เข้าใจแล้วว่าทำไมแกลดเนส เอ็นเตอร์เทนเมนต์ถึงไม่เคยขายได้ในอดีตชาติของเขาหลังจากได้ยินสิ่งที่แซคคารีกล่าว

ไมเคิล เลน ถูกกลิ่นของเงินจูงจมูกอยู่นั่นเอง

เขาไม่อาจคิดได้ว่าสองพันล้านดอลลาร์นั้นมากขนาดไหน แจสเปอร์ใช้เงินแค่สิบล้านดอลลาร์เพื่อเป็นเจ้าของการควบคุมส่วนแบ่งของเทอริโซน

แม้ว่า เทอริโซนเป็นองค์กรหนี่งระดับรากหญ้าซึ่งยังคนไกลจากการถูกพัฒนาให้เต็มศักยภาพของมัน

ในความมุมมองของแจสเปอร์ แกลดเนส เอ็นเตอร์เทนเมนต์มูฟวี่มีมูลค่าไม่เกินหนึ่งพันห้าร้อยล้านแม่ว่ามันยังคงถือลิขสิทธิ์ของภาพยนตร์หลาย ๆ เรื่องและมีทรัพยากรทางภาพยนตร์อีกจำนวนมาก

มันคงเป็นแค่เรื่องประหลาดเท่านั้นถ้าใครสักคนตัดสินใจซื้อมันจริง ๆ

ไม่แปลกใจเลยว่าแกลดเนส เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมพานี ไม่ถูกขายในอดีตชาติของเขา

“แกลดเนส อินเตอร์เนชั่นแนล มีมูลค่าแค่ห้าหันล้านดอลลาร์ของบริษัทติดหนึ่งในอันดับ การเรียกราคาสองพันล้านดอลลาร์เพื่อบริษัทภาพยนต์สาขาย่อย มันเป็นการปล้นตอนกลางวันแสก ๆ เท่านั้น” แอนนากล่าวขณะขมวดคิ้ว

“คุณจะมองแบบนั้นไม่ได้นะ” แจสเปอร์กล่าวพร้อมกับส่ายหัว

“ราคาของหลายสิ่งไม่สามารถวัดได้แค่ใช้ราคาตลาดนะ ถ้าคุณเจอสิ่งที่ชอบ มันก็ไม่สำคัญเลยถ้าคุณจ่ายราคาของสูงกว่าเล็กน้อย แต่ถ้าเป็นสิ่งที่ไม่ชอบ คุณคงไม่ซื้อมันแม้ว่าราคาต่ำกว่าราคาตลาดของมันก็ตาม”

แซคคารียิ้ม “ฟังดูสมเหตุสมผลนะ ถ้าเรานึกถึงอิทธิพลที่แกลดเนส เอ็นเตอร์เทนเมนต์ มูฟวี่มี คงไม่น่าแปลกใจที่มีการเพิ่มราคา”

“ถึงอย่างนั้น แม้ว่าภาพยนตร์ของเมืองฮาร์เบอร์ไม่เป็นที่นิยมอย่างที่เคยเป็น ตลาดสำหรับพวกมันก็ยังคงอยู่ ขณะที่เป็นหนึ่งในห้าบริษัทอันดับสูงสุดในอุตสาหกรรม แค่เวลาและค่าแรงที่คุณจะประหยัดได้ในกระบวณการนี้นั้นมหาศาล”

“เมื่อพูดแบบนั้นแล้ว ผมจะฟุ่มเฟือยโดยไร้เหตุผลไม่ได้ คุณลุงลอว์ ได้โปรดช่วยผมนัดเจอกับมิสเตอร์ เลน ผมอยากจะคุยกับเขา” แจสเปอร์กล่าว

แซคคารีพยักหน้า “ถ้าเธอคิดว่าควรจะต้องมีการพบปะกัน ฉันก็มากกว่าเต็มใจที่จะพาเธอทั้งสองมาเจอกัน เอาแบบนี้เป็นไง? ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ของเมืองฮาร์เบอร์จะเข้าร่วมงานการกุศลในวันพรุ่งนี้เพื่อแสดงความช่วยเหลือ เธอมากับแอนนาก็ได้นะ”

“งานการกุศลเหรอครับ?”

คลื่นความรู้สึกได้ชะล้างแจสเปอร์

เขาได้เห็นเหล่าผู้ประกอบการเข้าร่วมงานการกุศลต่าง ๆ ในอดีตชาติแล้ว

พวกเขาส่วนใหญ่เพียงแค่จัดหาสิ่งของต่าง ๆ เพื่อมาประมูลและบริจาคเงินที่ได้แก่ผู้ที่ต้องการมัน

ถ้าพูดตรง ๆ มันเป็นสถานที่ที่พวกเศรษฐีจะรวมตัวกันและใช้จ่ายเงินบางส่วนเพื่อสร้างชื่อเสียงที่ดีให้กับตัวพวกเขาเอง

งานประมูลการกุศลเช่นนี้มีอยู่ทั่วโลก แต่ผู้ประกอบการของเมืองฮาร์เบอร์ชอบเป็นพิเศษที่จะใช้วิธีนี้เพื่อโอ้อวด

เขาไม่เคยจินตนาการเลยว่ากำลังจะเข้าร่วมงานประมูลการกุศลแบบนี้อีกครั้งหลังจากที่กลับมาเกิดใหม่

“เกิดอะไรขึ้น?” แซคคารีถามหลังจากสังเกตเห็นท่าทีแปลก ๆ บนหน้าของแจสเปอร์

เขาคิดว่าแจสเปอร์ไม่ชอบงานแบบนี้เป็นแน่

“ไม่มีอะไรครับ ผมแค่แปลกใจเพราะไม่เคยร่วมงานแบบนี้เลย” แจสเปอร์กล่าวขณะที่ยิ้ม

แซคคารีหัวเราะและพูดว่า “มันแค่เป็นที่ที่เราคุยกัน เจอเพื่อนใหม่ และขยายแวดวงทางสังคมของเรา เราซื้อเครื่องประดับเล็กน้อยด้วยเช่นกันซึ่งจะไม่ถูกพบเห็นอีกเพื่อสร้างชื่อเสียงที่ดีสำหรับตัวพวกเราเอง”

“เฮนรี่คุ้นเคยกับที่แบบนี้ ฉันจะให้เขาพาเธอได้ด้วย”

เฮนรี่ยิ้มเยาะขณะที่พูดว่า “มันก็แค่ที่ให้นายมาโอ้อวด ว่านายเจ๋งเรื่องไหน”

แซคคารีจ้องที่เฮนรี่ซึ่งได้ลืมจุดยืนของเขาไปขณะหนึ่ง เขาสั่งให้ปิดปากเงียบและหยุดล้อเล่นทันที

“เอาล่ะ ฉันแน่ใจว่าไปให้ตรงเวลาในวันมะรืนนะ” แจสเปอร์กล่าว

เมื่อแจสเปอร์กล่าวลาตระกูลลอว์เสร็จ เฮนรี่เป็นคนขับส่งเขากลับโรงแรม

อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้ เฮนรี่ไม่เกี่ยงในการทำหน้าที่อีกแล้ว

หลังจากที่โม้ระหว่างทางกลับโรงแรม เฮนรี่รีบออกไปทันทีที่ส่งแจสเปอร์ลงรถ มันเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าจากทิศทางที่เขากำลังขับไปนั้น ไม่ใช่ทางกลับบ้าน เขาอาจจะมุ่งหน้าไปที่ไหนสักที่เพื่อทำเรื่องสนุก ๆ

แจสเปอร์จึงไม่ถูกรบกวน

เมื่อกลับเข้าห้อง เขาสนทนาเกี่ยวกับแผนบริษัทกับแจ็คและฮัดสันอย่างปกติ เมื่อคุยกับจบ ก็เลยเที่ยงคืนไปแล้ว

แจสเปอร์โทรหาเวนดี้เมื่อการประชุมจบลง

“คุณยังไม่นอนใช่มั้ย?” แจสเปอร์ถาม

“ฉันกำลังรอคุณโทรมาอยู่ค่ะ” เวนดี้กล่าว น้ำเสียงของเธอสุภาพเหมือนเช่นเคย

แจสเปอร์ยิ้มและถามว่า “เกิดอะไรขึ้นมากไหมในบริษัทช่วงสองสามวันนี้?”

“ทุกอย่างปกติดีค่ะ แต่พยายามเรียนรู้เรื่องการเงินนี่สิคะยากจัง มันซับซ้อนมาก ๆ” เวนดี้กล่าวอย่างคอตกขณะที่ล้มตัวลงนอนบนเตียง

“ทุกขั้นตอนต้องใช่เวลาครับ อย่ากระตือรือร้นเกินไปเพื่อความสำเร็จและค่อย ๆ ทำไป ผมจ่ายไม่ไหวหรอกนะถ้าคุณล้มหมอนนอนเสื่อไป” แจสเปอร์กล่าวพร้อมกับยิ้ม

เวนดี้โกรธและพูดว่า “คุณกังวลว่าฉันจะล้มป่วยเพราะความเหนื่อยงั้นเหรอ? ดูคุณสิ ใช้เวลานานมากกับการเดินทางไปเมืองฮาร์เบอร์และก็ไม่ได้กลับมาเร็วกว่านี้”

“ผมยังมีเรื่องที่ต้องทำน่ะ ผมจะกลับไปทันทีที่เสร็จธุระนะ” แจสเปอร์กล่าว

เวนดี้หันข้างและพูดว่า “โอ้ ก็ได้ค่ะ คุณพ่อต้องการให้ฉันบอกกับคุณว่าให้มาเยี่ยมเขาเมื่อคุณกลับถึงเมืองนะคะ ฉันคิดว่ามีความคืบหน้าบางอย่างกับบริษัทบันเทิงในเมืองด้วยและเขาต้องการให้คุณไปคุยกับเขา”

“ผมจะจัดการเรื่องนั้นเมื่อผมกลับไปนะ มีปัญหาเร่งด่วนกว่าที่เมืองฮาร์เบอร์ครับ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ ไปให้สุด