การประมูลเริ่มขึ้นไม่นานหลังจากนั้น แจสเปอร์และแอนนาได้กลับไปยังห้องโถงงานเลี้ยง
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหัวหน้าใหญ่คนหนึ่งอย่างแซคคารี ลอว์ มีที่นั่งเป็นของตัวเอง ขณะที่คนหนุ่มสาวคนอื่น ๆ เช่น แจสเปอร์และแอนนารวมตัวกันในห้องโถงขณะที่รอให้การประมูลเริ่มขึ้น
โอกาสนี้เป็นการรวมตัวของเหล่าดารา ทุกคนจะส่องแสงด้วยความหรูหราของพวกเขาทั้งหมด
แม้แต่อากาศก็เต็มไปด้วยกลิ่นหอมละมุนของความมั่งคั่งและชื่อเสียง
แจสเปอร์ยังคงระมัดระวังเป็นปกติ เขาสังเกตเห็นเช่นกันว่ามิทช์ แลงดอนและเซน แลนแคสเตอร์นั่งอยู่ด้วยกัน เขาทั้งสองกำลังจ้องมาที่เขาไม่ละสายตาเท่าที่พวกเขาจะทำได้
แน่ชัดแล้วว่าการมีศัตรูคนเดียวกันทำให้พวกเขาบรรลุความเข้าใจหัวอกซึ่งกันและกัน
“เขาสองคนอยู่ด้วยกันได้อย่างไรคะ?” แอนนาถามพร้อมขมวดคิ้ว
ตามตรรกะเหตุผล เซนมีแค่พ่อของเขา บ๊อบ แลนแคสเตอร์ อย่างไรก็ตาม มิทช์นั้นแตกต่าง พ่อของเขาคือ เคนเนดี้ แลงดอน ในขณะที่ปู่ของเขาคือ วอลเลส แลงดอน พวกเขาทั้งคู่เป็นหัวหน้าสูงสุดในแต่ละสมาคมของตัวเอง
ตระกูลแลงดอนที่มีวอเลส แลงดอนอยู่ สามารถครองบัลลังก์ได้อย่างง่ายดายท่ามกลางสี่ตระกูลอันดับสูงสุดของเมืองฮาร์เบอร์
เพราะฉะนั้น เมื่ออิงตามเหตุผลนี้ เซนไม่มีสิทธิ์ที่จะนั่งข้างมิทช์ได้
“เขาสองคนก็เลวพอกัน พวกเขาก็ต่างพูดจาภาษาเดียวกันนั่นแหละ” แจสเปอร์กล่าว เขาไม่ได้ใส่ใจอีกแล้ว
เนื่องด้วยเขาเข้าร่วมพิธีกับแอนนา แจสเปอร์นั่งบนที่นั่งที่ถูกออกแบบสำหรับตระกูลลอว์ มันถูกจัดไว้ด้านหน้าสุดของห้องโถง
สี่แถวแรกถูกจองไว้สำหรับตระกูลลอว์ ตระกูลบอยลี่ ตระกูลแลงดอน และตระกูลเลนนอน
ที่นั่งที่เหลือถูกจัดสรรให้กับผู้ที่โดดเด่นและเหล่าตระกูลเศรษฐีคนอื่น ๆ ของเมืองฮาร์เบอร์ ที่นั่งถูกขยายไปด้านหลังตามลำดับของความมั่งคั่งและสถานะ
มีจำนวนเกือบหนึ่งร้อยโต๊ะ
นี่แสดงให้เห็นถึงจำนวนของเหล่าเศรษฐีในเมืองฮาร์เบอร์
ในที่แห่งนี้ ผู้ที่มีสินทรัพย์มูลค่าเพียงหนึ่งพันล้านดอลลาร์หรือน้อยกว่าถือว่าเป็นคนจน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ ไปให้สุด
ต่อหน่อยคร๊าฟ...
รออัพอยู่นะคะ เดือนเศษแล้ว จะมีต่อไหมคะ...