เกิดใหม่ ไปให้สุด นิยาย บท 171

“ฮ่าฮ่าฮ่า นี่มันขำท้องแข็งเลยว่ะ ดูหน้าเจ้านั่นสิ มันดูเหมือนกับเพิ่งถูกลาถีบหน้ามาอย่างนั้นเแหละ ฮ่าฮ่าฮ่า…”

เมื่อเฮนรี่ ลอว์เริ่มจองหองพองขนขึ้น เขาไม่สนว่าเซนเป็นลูกชายของบ๊อบ แลนแคสเตอร์หรือเปล่า เขาด่าว่าเซนอย่างไม่สนหน้าไหน ๆ เลย

หลังจากที่ได้ยินสิ่งที่เขาพูด ท่าทีของทุกคนจึงแปลกไป พวกเขาอยากหัวเราะแต่ไม่กล้าพอ การกลั้นหัวเราะไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย

เซนรู้สึกโกรธแค้นมากจนแทบจะกระอักเลือด อย่างไรก็ตาม เขาไม่กล้าจะทำอะไรกับเฮนรี่ ลอว์ เขาทำได้แค่ข่มความโกรธเอาไว้ และจ้องไปยังทั้งเฮนรี่และแจสเปอร์ด้วยสายตาแห่งความโกรธแค้น

การประมูลที่ใกล้ดำเนินมาถึงตอนจบได้ยุติละครฉากเด็ดเอาไว้

อย่างไรก็ตาม ทุกคนรู้สึกกล่อยกับส่วนที่เหลือของการประมูล

พวกเขาเพิ่งจะรับชมแจสเปอร์ปะทะกับมิทช์และเซนในมหากาพย์สองการประลอง อย่างอื่นกลับจืดชืดไปเมื่อเทียบกับเรื่องนั้น

หลังจากที่การประมูลจบลง เจ้าภาพรีบลงจากเวทีขณะที่เหงื่อไหลไคลย้อย เขาลืมแม้กระทั่งกล่าวทักทายทุกคนในห้องโถง

การประมูลครั้งนี้ถือว่าเป็นรอยแผลที่บาดลึกลงไปในจิตใจ และคงลืมไม่ลงตราบที่เขายังมีชีวิตอยู่

เขาคงถูกลากออกไปได้ง่าย ๆ แม้ว่าเขาได้ทำเรื่องผิดพลาดเล็กน้อยขณะที่มุ่งมั่นเพื่อจะมีชีวิตรอดท่ามกลางเหล่าผู้นำเหล่านั้นถ็ตาม

โคตรจะขนพองสยองเกล้า

ทันทีที่ทุกคนคิดว่างานกาล่าการกุศลจบลงแล้ว ไมเคิล เลนเดินขึ้นบนเวทีด้วยรอยยิ้มกว้างบนใบหน้า

การปรากฏตัวของเขาเป็นเหตุให้เหล่าเศรษฐีและเศรษฐีนีเงียบลง พวกเขามองไปที่ไมเคิลด้วยความอยากรู้เห็นขณะเดียวกันก็สงสัยว่าเขากำลังจะทำอะไร

“ทุกท่าน ผมของใช้โอกาสนี้เพื่อเป็นการประกาศบางอย่าง”

ไมเคิลที่ยืนอยู่บนเวทียิ้มออกมา เขากวาดสายตาไปทั่วทั้งห้องโถงก่อนที่สายตาของเขาจะไปหยุดที่แจสเปอร์

คนจำนวนมากรับทราบรายละเอียดนี้ ทุกคนโฟกัสความสนใจไปที่แจสเปอร์

“วันนี้ ผมเพิ่งจะเซ็นข้อตกลงกับมิสเตอร์แจสเปอร์ เลน ผู้ที่มาจากแผ่นดินใหญ่ ตามหลักการของเราที่ยึดมั่นถือมั่นในเรื่องความยุติธรรมและคามขาวสะอาด ผมอยากจะให้ทุกคนรับรู้เรื่องนี้ไว้ล่วงหน้า”

“บริษัทย่อยภายใต้แกลดเนส อินเตอร์เนชั่นแนล คอเปอเรชั่น แกลดเนส เอ็นเตอร์เทนเมนต์ มูฟวี่ ถูกขายอย่างเป็นทางการให้กับมิสเตอร์แจสเปอร์ เลนในราคา 1.5 พันล้านฮาร์เบอร์ดอลลาร์ในวันนี้ และเขาจะเป็นหัวหน้าของแกลดเนส เอ็นเตอร์เทนเมนต์ มูฟวี่นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปครับ

“ผมเชื่อว่าภายใต้การนำของมิสเตอร์แจสเปอร์ เลน แกลดเนส เอ็นเตอร์เทนเมนต์ มูฟวี่บรรลุจุดที่สูงกว่าเดิมในอนาคตอย่างแน่นอน...”

ไมเคิลยังคงพูดต่อบนเวที อย่างไรก็ตาม คนที่อยู่ข้างล่างเวทีไม่ได้ให้ความสนใจกับสิ่งที่เขากำลังพูดอีกต่อไป

พวกเขาทั้งหมดต่างพากันตกตะลึงกับข่าวซึ่งทำให้พวกเขาถึงกับพูดไม่ออก

แกลดเนส เอ็นเตอร์เทนเมนต์ มูฟวี่เป็นที่รู้จักกันในนามบริษัทภาพยนตร์ในเมืองฮาร์เบอร์

แกลดเนส เอ็นเตอร์เทนเมนต์ มูฟวี่เป็นค่าคงตัวหนึ่งในอุตสาหกรรมนับตั้งแต่เมื่อภาพยนต์จากเมืองฮาร์เบอร์เริ่มเป็นที่นิยมเพิ่มขึ้น บริษัทเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของภาพยนตร์ที่เป็นที่นิยมจำนวนมาก ศิลปินจำนวนมากเซ็นสัญญาภายใต้บริษัทนี้เช่นกัน

แต่ถึงอย่างไร แกลดเนส เอ็นเตอร์เทนเมนต์ มูฟวี่ หนึ่งในบริษัทที่มีชื่อเสียงที่สุดในอุตสาหกรรมภาพยนตร์และความบันเทิง ในวันนี้จะถูกมอบให้กับชาวแผ่นดินใหญ่แบบนั้นงั้นเหรอ?

1.5 พันล้านฮาร์เบอร์ดอลลาร์!

นี่เป็นจุดราคาที่ยุติธรรมซึ่งเหมาะสมกับมูลค่าของบริษัท

คนที่ตั้งตัวได้ทันก็เรียกสติของพวกเขากลับคืนมาได้ในทันที มีแนวโน้มที่ว่าข้อตกลงที่แท้จริงนั้นอาจรวมถึงบางสิ่งที่มีค่ามากกว่า 1.5 พันล้านก็เป็นได้

อย่างไรก็ตาม ไมเคิลและแจสเปอร์ไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่มีใครเดาได้ว่าเงื่อนไขที่แท้จริงที่ถูกกำกับไว้ในข้อตกลงเป็นอย่างไร

“นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?!”

เซนตะโกนออกมาด้วยความตะลึง

“แกลดเนส เอ็นเตอร์เทนเมนต์ มูฟวี่ประกอบกิจการได้ดีมาโดยตลอด ไม่มีข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย ทำไมถึงขายทั้งอย่างนั้น?”

ตระกูลของเซนถือว่ามีส่วนเกี่ยวข้องมากที่สุดในอุตสาหกรรมความบันเทิงของเหล่าเศรษฐีอันดับต้น ๆ ของเมืองฮาร์เบอร์

แม้ว่าบ๊อบ แลนแคสเตอร์อยู่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แทนที่จะเป็นความบันเทิง เขามีชื่อเล่นว่า ‘นักคั่วเซเล็บหญิง’

ด้วยสินทรัพย์สุทธิส่วนตัวของเขา เขามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเหล่าหัวหน้าใหญ่ในอุตสาหกรรมความบันเทิงของเมืองฮาร์เบอร์

อย่างไรก็ตาม ตระกูลแลนแคสเตอร์ก็ไม่ได้รับข่าวสารใดที่เกี่ยวเนื่องกับการตัดสินใจของไมเคิลจะขายแกลดเนส เอ็นเตอร์เทนเมนต์ มูฟวี่ออกไป

มิทช์ชายตามองไปที่แจสเปอร์ “มันมาที่เมืองฮาร์เบอร์เพราะแกลดเนส เอ็นเตอร์เทนเมนต์ มูฟวี่งั้นเหรอ? มันอยากจะก้าวขาเข้าสู่อุตสาหกรรมความบันเทิงงั้นเหรอ? เขาถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา

เหล่าเศรษฐีส่วนใหญ่จากเมืองฮาร์เบอร์ได้มองไปที่แจสเปอร์ ผู้ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางความสนใจของทุกคน

ทันใดนั้น พวกเขาคิดได้ในทันทีว่าชายหนุ่มจากแผ่นดินใหญ่คนนี้จะเข้ามาครอบครองส่วนสำคัญของเมืองฮาร์เบอร์ในอนาคต

หลังจากที่ไมเคิลลงจากเวที เขาเดินไปหาแจสเปอร์ด้วยท่าทีเสน่หา เขามีรอยยิ้มที่สดใสบนใบหน้า

“การเดินหมากของคุณทำให้ผมประหลาดใจมาก มิสเตอร์เลน” แจสเปอร์กล่าว

ไมเคิลหัวเราะ “อุตสาหกรรมความบันเทิงนั้นต่างจากส่วนอื่น ๆ เหล่าหัวหน้าใหญ่ในอุตสาหกรรมความบันเทิงควรจะมีประวัติที่ดีเลิศ ในทางตรงกันข้าม เหล่าศิลปินที่สังกัดบริษัทจะสงสัยใน ‘ความสามารถ’ ของบอสเอาได้” เขากล่าว

แจสเปอร์ยักไหล่ “ไม่เป็นไรหรอกครับ ยังไงก็ตาม เมื่อข้อตกลงถูกทำขึ้นอย่างเป็นทางการ เราจะต้องประกาศมันออกสู่สาธารณะเช่นกัน ทั้งหมดนี้มันขึ้นอยู่กับเวลาเพียเท่านั้น” เขากล่าว

หลังจากข่าวเกี่ยวกับการเข้าซื้อแกลดเนส เอ็นเตอร์เทนเมนต์ มูฟวี่ของแจสเปอร์ถูกเผยแพร่ งานกาล่าการกุศลก็จบลงอย่างเป็นทางการ

เหล่าเศรษฐีค่อย ๆ ออกจากห้องโถงไป อย่างไรก็ตาม พวกเขาต่างมีหนึ่งชื่อติดปากทุกคนไป...แจสเปอร์ เลน!

ณ อีกด้านของประตูที่ตั้งในพื้นที่ที่ค่อนข้างลับตาคนของห้องโถง เคนเนดี้ แลงดอนและบ๊อบ แลนแคสเตอร์มองไปที่เซนและมิทช์ ซึ่งทั้งคู่มีท่าทีที่หดหู่ทางทางสีหน้าและแววตาที่เฉยเมย

“พวกแกทำให้ฉันผิดหวังที่สุด” เคนเนดี้สวดพวกเขาตรง ๆ ต่อหน้า

มิทช์มีท่าทีซึมกระทือ เขากัดฟันด้วยความโกรธ “ไอ้บ้านนอกนั่นร้ายกาจจริง ๆ!” เขาอุทาน

“ร้ายกาจงั้นเหรอ? ใครก็ตามที่ตามที่ทำงานใหญ่ได้ย่อมเป็นคนร้ายกาจ ถ้าแกไปอยู่ในระดับเดียวกับศัตรูไม่ได้ แกก็แค่ถูกพวกมันเหยียบย่ำ” เคนเนดี้กล่าวอย่างเย็นชา

เซนที่อยู่ข้าง ๆ ก้มหน้าลง เขาไม่กล้าที่จะพูดแม้แต่คำเดียว

บ๊อบ แลนแคสเตอร์ชายตามองลูกชายของเขาครู่หนึ่ง “พวกแกยังสู้มันไม่ได้หรอก” เขากล่าว

มิทช์ที่กำลังปฏิเสธที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ เถียงขึ้น “นี่มันแค่ความล้มเหลวครั้งเดียว! ในท้ายที่สุด ผมจะหาโอกาสทำลายมันให้ได้!”

“พอได้แล้ว” เคนเนดี้หมดความอดทนและตบเข้าไปที่หน้าเขา “มีธุรกิจหลายอย่างที่สำคัญกว่ากำลังมาถึงเร็ว ๆ นี้ เรื่องพวกนั้นจะช้ากว่านี้ไม่ได้แล้ว พวกแกสองคนควรกลับไปก่อน และอย่าทำอะไรโง่ ๆ อีกล่ะ!”

หลังจากนั้น เคนเนดี้และบ๊อบเดินออกจากโรงแรมและขึ้นรถโรลส์รอยซ์ที่จอดอยู่ข้างตึกไป พวกเขาเร่งรีบและมีบอดี้การ์ดนำทาง

ชายวัยกลางคนสวมสูทธุรกิจนั่งอยู่ภายในรถ เขาปล่อยออร่าที่เหนือชั้นกว่า

ชายวัยกลางคนมีร่างกายกำยำ ผมสีบลอนด์และตาสีฟ้า เขาต้องมาจากตะวันตกแน่นอน

เขากำลังควงแก้วไวน์ในมืออย่างช้า ๆ เมื่อทั้งสองขึ้นมาในรถ

หลังจากที่ปิดประตูรถ ชายคนนั้นมองไปที่ไวน์แดงที่หมุนวนไปตามส่วนโค้งเว้าของแก้ว เขาหัวเราะขึ้น “มิสเตอร์แลงดอน มิสเตอร์แลนแคสเตอร์ ดูเหมือนว่าลูกชายของพวกคุณยังคงไร้เดียงสาอยู่มากนะ” เขากล่าว

ความจริงแล้ว เรื่องที่ลูกชายจะได้เรื่องหรือไม่นับได้ว่าเป็นเรื่องส่วนตัว พวกเขาจะสอนและตำหนิเหล่าลูก ๆ ของพวกเขาเองได้ อย่างไรก็ตาม มันแตกต่างออกไปเมื่อมันกลับมาจากลมปากของคนอื่น

ดังนั้น เคนเนดี้ แลงดอนดูเหมือนจะอารมณ์ไม่ดีด้วยเช่นกัน “มิสเตอร์โรเจอร์ มาพูดถึงแผนของเราดีกว่า” เขาเอ่ยขึ้นเพื่อตบบท

“ตามที่เราได้หารือกันก่อนหน้านี้ กองทุนควอนตัมได้โน้มน้าวใจกลุ่มนายทุนของวอล สตรีทเรียบร้อยแล้ว พวกเขาทุกคนต่างสนใจในแผนการของเราเป็นอย่างมาก สิ่งที่คุณต้องทำก็คือให้ความร่วมมือกับเราในเมืองฮาร์เบอร์” โรเจอร์กล่าวอย่างเอาจริงเอาจัง

“ภาวะฟองสบู่ทางเศรษฐกิจอินเตอร์เน็ตของ ‘สหรัฐ’ กำลังแพร่กระจายออกไป เมื่อการแพร่กระจายนี้เกิดขึ้น เราจะลงมือทันที และในไม่ช้ามันก็จะกลาบเป็นงานเทศกาลที่เราจะกอบโกยเงินเป็นล้านล้านได้!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ ไปให้สุด