เซนล้วงกระเป๋าสองข้างขณะที่เยาะเย้ยไปที่แจสเปอร์และพูดว่า “อะไรเหรอ? ไม่เคยเห็นวิวตอนกลางคืนที่สวยเท่าของเมืองฮาร์เบอร์มาก่อนเหรอ? ก็เลยมาเดินเล่นอยู่ที่นี่ใช่ไหม? เพื่อจะเรียนเกี่ยวกับรู้โลกให้มากขึ้น”
“อย่าพูดแบบนั้นสิ”
มิทช์จ้องไปที่แจสเปอร์และพูดอย่างเล่นลิ้น “นั่นจะลบหลู่แมลงสาบเอานา คนอย่างมันควรต้องเรียกว่า ไอ้หมาขี้เรื้อน”
“ก็นะ การปีนขึ้นต้นไม้ต้นใหญ่อย่างตระกูลลอว์ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย มันก็คงภูมิใจมากแหละ ก็คงเหมือนกับหมาที่สั่งตัวเองไม่ให้กระดิกหางเมือ่อยู่ต่อหน้าเจ้าของได้”
เซนหลุดหัวเราะออกมาและเห็นด้วย “คุณพูดถูก นายน้อยแลงดอน มันก็แค่หมาขี้เรื้อนตัวหนึ่งจริง ๆ ด้วย!”
แจสเปอร์รู้สึกไม่พอใจนักที่มิทช์และเซนทำตัวเหมือนพวกโรคจิตติดตามชีวิตของเขา
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าปริมาณความเกลียดชังทั้งครั้งใหม่และเก่าของพวกเขาได้เกินกว่าจุดของการประนีประนอมแล้ว
“วันนี้ผมน่าจะดูดวงก่อนออกจากบ้านแฮะ” แจสเปอร์ส่ายหัว
“พวกเรามากกว่าที่ควรเป็นคนพูดแบบนี้?”
เซนเย้ยหยัน “ซวยจริง ๆ ที่มาเห็นหมาอย่างแกในตอนที่ออกจากบ้าน”
“คุณต้องเข้าใจด้วยเช่นกัน เมืองอย่างแผ่นดินใหญ่แทบจะไม่ได้เหมือนเมืองฮาร์เบอร์เลย อย่างน้อย ถ้าได้เดินเล่นแถว ๆ อ่าววิคตอเรีย มันจะได้มีอะไรไว้อวดเพื่อนของมันตอนกลับไปบ้าง ”
มิทช์ล้อเลียนอย่างชัดเจน
ด้วยเหตุนั้น มิทช์หันไปหาแอนนา “เธอมาเดินเล่นกับคนแบบนี้ได้อย่างไร แอนนา? ถ้าข่าวนี้แพร่กระจายออกไป เธอจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกันล่ะ?”
แอนนารู้สึกรำคาญเป็นอย่างมากเมื่อต้องเจอกับมิทช์ เพราะฉะนั้นเธอตอบกลับคำพูดของเขาอย่างเยือกเย็น “นายเป็นคนที่มีสิทธิในการเลือกคู่เดินเล่นให้ฉันงั้นเหรอ? และดูท่าทางของนายสิ นายทั้งสองคนนั่นแหละ น่าขยะแขยงจริง ๆ”
“เธอรู้สึกขยะแขยงฉันงั้นเหรอ?!”
มิทช์เริ่มหัวเราะด้วยความรู้สึกโกรธเคืองขณะที่เข้าชี้ไปที่แจสเปอร์ “คนที่ประจบสอพลอและวางแผนเข้าไปในตระกูลของเธออย่างมันต่างหากที่น่าขยะแขยง!”
“อะไรมันดลใจในนายคิดว่าว่าเขากำลังประจบสอพลอเพื่อหาทางเข้ามาในตระกูลของฉันกัน?” แอนนาถามอย่างหยาบคาย
“ก็ดูมันสิ มันชัดเจนอยู่แล้ว ไม่ใช่เหรอ?”
มิทช์พูดอย่างมั่นใจ “แกควรจะไสหัวออกจากเมืองฮาร์เบอร์ไปซะ ถ้าแกยังมองว่าตัวเองเป็นลูกผู้ชายอยู่นะ แจสเปอร์! อย่ามายุ่งกับแอนนา ไม่อย่างนั้นเราจะไว้หน้าแกเลย!”
“พวกนายจะไว้หน้าฉันหรือไม่ แล้วเกี่ยวอย่างไรกับฉัน?” แจสเปอร์ถาม
มิทช์เย้ยหยันและตอบกลับอย่างน่าสมเพช “แกนี่มันแค่หมาขี้เรื้อนตัวหนึ่งจริง ๆ!”
“ไปกันเถอะค่ะ แจสเปอร์”
แอนนารู้สึกพอแล้วกับสองคนนั้นและดึงแจสเปอร์เพื่อจะเดินออกไป
“หยุดอยู่ตรงนั้นนะ”
มิทช์ขวางทางของเขาทั้งสองและเยาะเย้ยไปที่แจสเปอร์ “ฉันคิดว่าแกก็มีดีอยู่บ้างนะ ไอ้บ้านนอก แต่ที่แกทำอยู่ตอนนี้ทั้งหมดคือหลบอยู่ใต้กระโปรงผู้หญิงและวิ่งหนี แค่นั้นงั้นเหรอ?”
“แน่นอน มิสลอว์ ถ้าผมเป็นคุณ ผมจะคิดให้ดีนะ นายน้อยแลงดอนทำเงินได้ถึง 200 ล้านจากตลาดหุ้นในวันนี้ แล้วไอ้บ้านนอกข้าง ๆ คุณล่ะ มันทำได้ไหม?” เซนเยาะเย้ย
มิทช์รู้สึกพอใจกับสิ่งที่เซนพูดและเอามือทุบอกขณะที่จงใจพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “มันก็แค่ 200 ล้าน แค่มองจากแนวโน้มของหุ้น ฉันก็บอกได้เลยว่าดัชนีของหุ้นฮาร์เบอร์จะดิ่งลงไปอีก เพราะงั้นฉันถึงเตรียมเงินและเปิดพอร์ตสำหรับคำสั่งฝั่งขายไว้ การหาเงินก้อนแค่นั้นมันง่ายจะตาย”
ด้วยเหตุนั้น มิทช์หันไปหาแจสเปอร์และยิ้มเยาะในใจ “ถ้าฉันเป็นแก ฉันจะไสหัวไปซะตอนนี้ ไอ้บ้านนอกเอ๊ย เมืองฮาร์เบอร์ไม่ใช่ที่ของไอ้ขี้แพ้อย่างแก!”
ในตอนนั้น แจสเปอร์เพียงแต่หัวเราะอย่างไม่เห็นพ้อง “เงิน 200 ล้านนี่มากแล้วเหรอ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ ไปให้สุด
รออัพอยู่นะคะ เดือนเศษแล้ว จะมีต่อไหมคะ...