เกิดใหม่ ไปให้สุด นิยาย บท 200

“เมื่อต้นปีนี้ เขาสร้างขุมทองคำก้อนแรกในตลาดฟิวเจอร์สในแผ่นดินใหญ่ จากนั้นเขาก็ทำเงินได้มากมายในตลาดน้ำมันดิบระหว่างประเทศ ฉันไม่เคยคิดว่านักลงทุนรายย่อยลึกลับที่กองทุนควอนตัมติดต่อครั้งล่าสุด จะเป็นเขาเหมือนกัน”

เมื่อเคนเนดี้และบ๊อบได้ยินเช่นนั้น พวกเขาต่างก็ประหลาดใจ

“คราวที่แล้ว เราประเมินเขาต่ำไป!” เคนเนดี้กล่าวอย่างสุดซึ้ง

“พวกคุณได้ข้อมูลเกี่ยวกับแจสเปอร์ในเวลาอันสั้นงั้นเหรอ?” บ๊อบหรี่ตาลง และพูดขณะระงับความตกใจ

โรเจอร์ยักไหล่และพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “คุณต้องเชื่อในความสามารถของกองทุนควอนตัม เรามีลูกค้ามากมายและข้อมูลทั่วโลก ตราบใดที่คุณมีเงินจ่าย ผมก็สามารถบอกคุณได้แม้แต่ว่า ชุดชั้นในที่ชายชั้นนำของสหรัฐอเมริกาใส่อยู่ตอนนี้สีอะไร”

“ฉันต้องไปที่คฤหาสน์ตระกูลลอว์ในตอนบ่าย ที่นั่น ฉันจะเฝ้าดูทุกการเคลื่อนไหวของพวกเขา และในอีกทางหนึ่ง ฉันก็ต้องเตรียมพร้อมตลอดเวลา ที่นี่…” เคนเนดี้มองดูโรเจอร์

“ไม่ต้องกังวลครับ” โรเจอร์พูดเรียบ ๆ

“คนของผมจากกองทุนควอนตัมจะเข้ารับช่วงต่อจากนี้เอง”

บ๊อบไม่พอใจที่เขาถูกผลักไส เขารีบถาม “แล้วผมล่ะ?”

“นายคอยจับตาดูอยู่เฉย ๆ”

บ๊อบถอนหายใจและทำตามที่เคนเนดี้บอกอย่างเงียบ ๆ

แม้ว่าจะผิดหวังในตัวบ๊อบ แต่เคนเนดี้ก็ไม่สามารถเตะเขาออกไปได้ในตอนนี้

ความร่วมมือกับกองทุนควอนตัม มันดีสำหรับตอนนี้ แต่เคนเนดี้รู้มากกว่าใคร ๆ ว่ากองทุนควอนตัมเป็นหมาป่าที่สามารถกลืนคนได้ทั้งตัว

เขาต้องไปที่คฤหาสน์ตระกูลลอว์ ดังนั้น จึงไม่มีใครคอยจับตาดูกองทุนควอนตัม เขาจะไม่สามารถสบายใจได้ด้วยวิธีนี้

บ๊อบเข้าใจความหมายของเคนเนดี้ และทำได้เพียงพยักหน้า

ราวกับว่าโรเจอร์ไม่รู้ว่าพวกเขากำลังสื่อสารเกี่ยวกับอะไร เขาพูดอย่างสุภาพว่า “ในตอนแรก ทีมและผม วางแผนที่จะร่วมมือกับรัฐบาลและผู้ใหญ่ของเมืองฮาร์เบอร์เพื่อกอบกู้ตลาด ครั้งนี้เราได้เตรียมเงินจำนวน 150,000 ล้านดอลลาร์ให้กับเมืองฮาร์เบอร์ เพิ่มเติมจากเงิน 50,000 ล้านดอลลาร์ของคุณครับ”

เขาชูสองนิ้ว “เรามีกองทุน 200,000 ล้าน แต่กองทุนช่วยเหลือตลาดของเมืองฮาร์เบอร์ มีเพียง 100,000 ล้านเท่านั้น นอกจากนี้ ผมมีทีมนักเทรดที่ดีที่สุดในโลก แล้วพวกเขาจะสู้กับผมได้ยังไง?”

เมื่อเคนเนดี้ได้ยินเรื่องนี้ เขาก็ลุกขึ้นและพูดว่า “โอเค เราจะทำตามแผนกัน ฉันจะไปที่คฤหาสน์ลอว์เดี๋ยวนี้ ใกล้จะถึงเวลาแล้ว ฉันต้องไปถึงก่อนที่ตลาดจะเริ่มในตอนบ่าย”

…

ก่อนที่ตลาดจะเริ่มในช่วงบ่าย บรรยากาศในคฤหาสน์ตระกูลลอว์ก็เริ่มคึกคัก

รถยนต์ที่เป็นตัวแทนของตระกูลคนระดับสูงชั้นยอดในเมืองฮาร์เบอร์ได้ขับเข้าไปในคฤหาสน์ตระกูลอว์ลอว์

ในเวลาเดียวกัน ความปลอดภัยก็เพิ่มขึ้นถึงขีดสุด เศรษฐีไม่เพียงแต่มีบอดี้การ์ดของตัวเองเท่านั้น แต่กองกำลังตำรวจที่ย้ายมาโดยรัฐบาลก็ลาดตระเวนไปรอบ ๆ ด้วย

ก่อนสิ้นสุดสงครามการเงิน สถานที่แห่งนี้จะเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดในเมืองฮาร์เบอร์

ในห้องนั่งเล่นของคฤหาสน์ตระกูลลอว์ แจสเปอร์ได้พบกับหัวหน้าตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดสี่ตระกูลในเมืองฮาร์เบอร์อย่างเป็นทางการ

เขาไม่มีอะไรจะพูดกับแซคคารีมากนัก

คนแรกที่ทักทายแจสเปอร์คือคลาร์ก

“หนุ่มน้อย ฉันเคยได้ยินเกี่ยวกับคุณ คิทก็เล่าเรื่องคุณให้ฉันฟัง คุณยอดเยี่ยมมาก งานนี้ฉันต้องหวังพึ่งคุณแล้วล่ะ” คลาร์กจับมือแจสเปอร์และพูด

แจสเปอร์พยักหน้าและกล่าวว่า “ไม่ต้องกังวลครับ คุณดูวัล ผมจะทำให้ดีที่สุด"

คลาร์กหัวเราะเสียงดังและพูดว่า “คุณไม่ต้องแบกรับภาระมากเกินไป ถ้าฟ้าจะถล่ม พวกคนเก่า ๆ ของพวกเราจะโอบอุ้มคุณไว้”

“ผมยังเด็กและร่างกายของผมยังแข็งแรงอยู่ ผมคิดว่าพวกคุณจะไม่ต้องโอบอุ้มผมหรอกครับ”

แจสเปอร์พูดให้เป็นเรื่องตลก

คลาร์กขมวดคิ้วและชี้ไปที่แจสเปอร์ ก่อนจะหันไปพูดกับสเปนเซอร์และเคนเนดี้ว่า “ฟังนะ ฉันบอกพวกคุณแล้วว่าแซคคารีจะไม่ทำผิดพลาด ชายหนุ่มคนนี้น่าสนใจมาก”

เคนเนเด้ยิ้มและมองแจสเปอร์ เขากล่าวว่า "เราฝากความหวังไว้กับนายแล้วนะ”

แจสเปอร์ตอบอย่างไม่ประจบหรือไม่ทะนงตัวว่า “ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุดครับ”

“บอกตามตรง ฉันค่อนข้างแปลกใจเมื่อรู้ว่าเป็นนาย” มีความหมายที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังสิ่งที่เคนเนดี้พูด และมันมีความสำคัญ

แจสเปอร์มองที่เคนเนดี้โดยไม่พูดอะไร

เคนเนดี้ตบไหล่แจสเปอร์อย่างชื่นชม เขายิ้มและพูดว่า “ลูกชายของฉันไม่ค่อยมีสติ มันจะเป็นประโยชน์สำหรับเขา ถ้านายสอนบทเรียนให้เขา”

แจสเปอร์ไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับสิ่งที่เคนเนดี้พูด

ในขณะนี้ บางทีเขากังวลว่าความเกลียดชังระหว่างทั้งสองคน จะส่งผลต่อแผนกอบกู้ตลาดหุ้น ดังนั้น คำพูดของเคนเนเด้จึงฟังดูสมเหตุสมผลทีเดียว

“ลูกชายของคุณและผม เรามีปัญหากัน แต่มันเป็นเรื่องระหว่างเราสองคน สถานการณ์ปัจจุบันสำคัญกว่าสำหรับในตอนนี้ครับ”

ทัศนคติของแจสเปอร์ทำให้เคนเนดี้ยิ้มด้วย 'ความพอใจ' เขากล่าวว่า "เราตั้งตารอดูความสามารถของคุณนะ"

ขณะที่พวกเขากำลังคุยกัน แซคเคาะประตูแล้วเข้ามา "ท่านครับ อีกสามนาทีตลาดจะเริ่มแล้วครับ"

มี 'ท่าน' มากมายในห้องนี้

อย่างไรก็ตาม ทุกคนรู้ว่าเขาหมายถึงแจสเปอร์

แจสเปอร์พยักหน้าและยื่นมือเป็นคำเชิญ จากนั้นก็พาผู้นำตระกูลเศรษฐีทั้งสี่เข้าไปในห้องนั่งเล่น

คลาร์ก แซคคารี เคนเนดี้ และสเปนเซอร์ มาถึงห้องนั่งเล่น และอากาศที่นั่นก็เข้มข้นขึ้นในทันที

แม้แต่แซคและคนที่ต้องการให้แจสเปอร์ล้มลงต่อหน้าอย่างเจคก็ยังรู้สึกประหม่ามากกว่าปกติ นับประสาอะไรกับบรรดาเทรดเดอร์

ชายสี่คนนี้เป็นผู้นำของสี่ตระกูลที่ร่ำรวยของเมืองฮาร์เบอร์

มันคงเป็นเรื่องยากมากที่จะพบพวกเขา แม้แต่คนเดียวในวันธรรมดา ๆ แต่ตอนนี้พวกเขามารวมกันอยู่ที่นี่

ทุกคนรู้สึกถึงความรุ่งโรจน์เมื่ออยู่ในห้องเดียวกับเศรษฐีผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งห่างไกลจากมวลชนและความเป็นจริง

เจคระงับความกังวลใจในหัวใจของเขา เขามองไปที่แจสเปอร์ซึ่งเป็นศูนย์กลางของความสนใจของทุกคนอย่างไม่พอใจนัก เขารู้สึกอิจฉาและโกรธมาก

ถ้าไม่ใช่เพราะคนบ้านนอกจากแผ่นดินใหญ่คนนี้ที่กำลังได้รับความสนใจ และการคุ้มกันจากผู้นำตระกูลที่ร่ำรวยทั้งสี่ มันก็คงจะเป็นเขา เจค คัลเลน!

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ เจคก็กำหมัดแน่นด้วยความโกรธ ดวงตาของเขาที่จ้องมาที่แจสเปอร์เริ่มมีกลิ่นไอความเป็นศัตรูมากขึ้นเรื่อย ๆ

“เทรดเดอร์เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเริ่มต้นของตลาดหุ้น”

แจสเปอร์ไม่สนใจว่าทั้งสี่ตระกูลที่ร่ำรวยและเจคกำลังคิดอะไรอยู่ เขาสั่งอย่างใจเย็นและไม่เร่งรีบ

หลังจากที่เขาพูดอย่างนั้น พ่อค้าหุ้นภายใต้คำสั่งของเขาก็เริ่มเตรียมการ ความเคร่งขรึมและความเคารพปรากฏขึ้นท่ามกลางบรรยากาศที่รุนแรงในห้องนั่งเล่น

หลังจากหันกลับมา แจสเปอร์ก็เห็นแอนนายื่นกาน้ำชาที่เธอเพิ่งชงให้

แอนนารู้ว่าแจสเปอร์ชอบดื่มชาและเขาจะดื่มชาทุกครั้งที่รู้สึกแบบนี้ เมื่อใดก็ตามที่เธอว่าง เธอจะทำให้เขา

นี่คือความเข้าใจที่ค่อย ๆ ซึมซับอย่างไม่รู้สึกตัวระหว่างพวกเขาสองคนหลังจากใช้เวลาสองสามวันนี้ร่วมกัน

แจสเปอร์ยิ้มให้แอนนาก่อนจะหันกลับมา และเงยหน้าขึ้นมองหน้าจอดิจิตอล ตอนนี้มันเป็นการนับถอยหลังสู่การเริ่มต้นของตลาดหุ้น

ในเวลาเดียวกันในวิลล่าอันเงียบสงบ

ทีมงานของเทรดเดอร์ถูกแทนที่โดยชาวคอเคเซียนผมบลอนด์ที่มีดวงตาสีฟ้า ในฐานะบุคคลที่มีอำนาจในการตัดสินใจ ชายผู้นั้นยืนอยู่ใต้หน้าจอดิจิตอลและเหยียดตัวอย่างเกียจคร้าน

“เตรียมตัวให้พร้อมนะเด็ก ๆ บ่ายนี้ ฉันต้องการกวาดล้างหุ้นฮาร์เบอร์ พรุ่งนี้นักลงทุนทั่วโลกจะรู้จักชื่อกองทุนควอนตัม พวกเราคือราชาแห่งโลกทุนนิยมแห่งนี้!”