นั่นอธิบายได้ว่าทำไมถึงแม้จะอยู่ในตัวจังหวัด แต่โชว์รูมของเบนท์ลีย์ก็แทบจะไม่มีคน
การมาถึงของแจสเปอร์และเวนดี้ได้รับความสนใจจากพนักงานขายสองสามคน แต่พวกเขาตัดสินใจปล่อยพวกเขาไว้ตามลำพัง เมื่อรู้ว่าทั้งสองเป็นเพียงวัยรุ่น
ท้ายที่สุดแล้ว แค่เชฟโรเลตธรรมดาก็แทบจะไม่มีใครสามารถซื้อได้ นับประสาอะไรกับเบนท์ลีย์ที่มีราคาสูงกว่าล้านดอลลาร์
แจสเปอร์ไม่ได้คิดแบบนั้น เพราะเขาเห็นเบนท์ลีย์ มัลซานที่เขาโหยหามาเป็นเวลานาน ในขณะที่เขาเดินผ่านประตู สิ่งหนึ่งที่ดีกว่าของแบรนด์อย่างเบนท์ลีย์และโรลส์รอยซ์คือการออกแบบที่คลาสสิกของพวกเขา
นั่นคือเหตุผลที่เบนท์ลีย์ไม่ได้ดูแตกต่างจากเมื่อ 20 ปีก่อนมากนัก
ตั้งแต่ไฟหน้าทรงกระบอกสุดคลาสสิกที่ไร้กาลเวลา ไปจนถึงกระจังหน้าไอดีอันทรงพลัง ไปจนถึงโลโก้ Bentley และสองปีกที่แสดงถึงเกียรติยศและความมั่งคั่ง นี่คือการออกแบบแบรนด์อันเป็นสัญลักษณ์ที่ผู้ชายทุกคนจะไม่มีวันลืม
“คุณสองคนสนใจที่จะซื้อมัลซานคันนี้ไหมคะ ดิฉันสามารถแนะนำให้คุณเพิ่มเติมเกี่ยวกับพวกนี้ได้นะคะ”
เสียงที่ขี้อายดังขึ้นจากข้าง ๆ แจสเปอร์หันหน้าไปและเห็นว่าเป็นเด็กผู้หญิงในชุดเครื่องแบบพนักงานขาย เธอดูเด็กและถือไม้ถูพื้นอยู่ในมือ ขณะทำความสะอาดสถานที่
เมื่อมองดูพนักงานขายที่มีอายุมากกว่าตั้งวงพูดคุยกันซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก แจสเปอร์ก็เข้าใจในทันทีว่าผู้หญิงคนนี้เพิ่งได้รับการจ้างงานและถูกสั่งให้มาทำงาน
“ใช่ครับ ผมมาดูรถ” แจสเปอร์ตอบ
ขณะที่ทั้งสองสนทนากัน ทันใดนั้นพนักงานขายซึ่งอยู่ไม่ไกลนักก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย “เธอไม่มีปัญญาที่จะมองหาโอกาสทางที่จะทำกำไรหรอกซีน่า ผู้ชายคนนั้นดูเหมือนจะอายุพอ ๆ กับเธอ เขาจะมีปัญญาซื้อเบนท์ลีย์เหรอ”
ซีน่าหน้าแดงและรวบรวมกำลังเพื่อพูด “เขาเป็นลูกค้าอยู่ดี ไม่ว่าเขาจะซื้อจากเราหรือไม่ซื้อ ฉันก็ควรทำในส่วนของฉันนะคะ”
“โธ่ เธอมันโง่” พนักงานขายอีกคนเย้ยหยันและพูดจาอย่างไม่ให้เกียรติ
“คนบ้านนอกก็เป็นคนบ้านนอกอยู่วันยังค่ำแหละเนอะ เธอจะไม่มีวันเทียบกับพวกเราชาวเมืองได้เลย เพราะเธอไม่มีสมอง”
คำพูดของผู้หญิงคนนั้นทำให้พนักงานคนอื่นหัวเราะคิกคัก
ซีน่าจับไม้ถูพื้นแน่นขึ้นเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะเยาะเย้ยซึ่งมุ่งเป้ามาที่เธอ เธอรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ และจ้องไปที่พื้นและไม่กล้าโต้กลับไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ ไปให้สุด
ต่อหน่อยคร๊าฟ...
รออัพอยู่นะคะ เดือนเศษแล้ว จะมีต่อไหมคะ...