เกิดใหม่ ไปให้สุด นิยาย บท 76

เนื่องจากหมู่บ้านที่ไม่ใหญ่มากนัก แจสเปอร์ใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีก็มาถึงบ้านของหัวหน้าหมู่บ้าน

บ้านมีสวนขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้า แจสเปอร์ยังไม่ได้ไปถึงประตูด้วยซ้ำ เขาได้ยินเสียงแหลม ๆ ของผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนก่นด่าด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

“เราเป็นมากกว่าเพื่อนบ้านนะ ชาร์ลี เราเป็นครอบครัว ฉันจะช่วยคุณตอนที่ครอบครัวคุณลำบาก มันเป็นแค่ปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วจู่ ๆ คุณก็มาที่นี่เพื่อหาเรื่องฉันงั้นเหรอ? ไม่คิดว่ามันจะดูงี่เง่าไปหน่อยเหรอ?”

“ถ้าให้จะให้พูด ก็คงจะเป็นความจนแหละมั้งที่สร้างปัญหามากมายขนาดนี้ จะเก็บที่ดินไว้ทำอะไร? มีปัญญาสร้างบ้านเหรอ? หรือถ้านายจะไม่เอาที่ดินแล้ว ก็ยกให้พวกเราก็ได้นิ”

“พูดถูก ฉันล่ะไม่เข้าจริง ๆ ว่าทำไมนายถึงคิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูกอยู่ ไม่ยอมยกที่ดินนั่นให้เราใช่ไหม? ก็ได้ งั้นเอาเงินที่เราให้ยืม 10,000 ดอลลาร์ คืนมาสิ!"

“ลูกชายของนายไม่ได้อาศัยอยู่ในเมืองหรอกเหรอ? นายมีเงินซื้อบ้านให้ลูกชาย แต่ไม่มีเงินชดใช้คืนให้เรา งั้นเหรอ?”

เสียงคำรามของผู้ชายก็ดังขึ้นท่ามกลางข้อกล่าวหาที่ลั่นไปทั่วห้อง

“ฉันยอมรับว่าฉันขอยืมเงินจากเธอ และสัญญาว่าฉันชดใช้ แต่นั่นไม่เกี่ยวอะไรกับที่ดินผืนนี้ ที่ดินนี้เป็นมรดกตกทอด ฉันให้เธอไม่ได้หรอก!”

“เหอะ” เสียงแหลมของหญิงสาวจากครั้งก่อนดังขึ้นอีกครั้ง “งั้นก็คืนเงินเรามาสิ! ไม่เคยเห็นใครไร้ยางอายอย่างนายมาก่อน ดันทุรังซื้อบ้านในเมืองทั้ง ๆ ที่นายมันจน นายไม่รู้สึกละอายที่แกล้งทำเป็นว่าตัวเองยิ่งใหญ่บ้างเหรอ?”

“นั่นแหละ! หยุดพร่ำเพ้อได้แล้ว ถ้ายอมยกที่ดินให้เรา นายอาจมีเวลาหาเงินมาใช้เรามากขึ้น หรือนายมีปัญญาคืนเงินเราตอนนี้เลยล่ะ”

“ทุกคนรู้ดีว่าครอบครัวของนายยากจนแค่ไหน นายไม่มีความสามารถอะไรเลยด้วยซ้ำ ฉันน่าจะรู้ว่านายเป็นแค่เศษขยะที่ไร้ประโยชน์”

“แค่นี้คงพอสำหรับเขาแล้วล่ะ ลูกชายของเขาก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่นิ? ฉันได้ยินมานานแล้วว่าซื้อบ้านให้เพราะแฟนของลูกชายอยากได้ ก่อนที่เธอจะยอมแต่งงานกับเขา”

“ตลกสิ้นดี พวกเขายากจนขนาดนี้ แล้วยังต้องการทำให้ลูกสาวของตระกูลอื่นแปดเปื้อนไปด้วยอีก นายได้อะไรตอบแทนจากการแบมือขอเงินและเอาซื้อบ้านมาล่ะ ก็หนี้สินไง ช่างเป็นพ่อที่ประเสริฐอะไรแบบนี้”

“คุณไม่เห็นหรือว่าพ่อกับลูกชายของครอบครัวนี้โง่แค่ไหน ใครจะไปรู้ บางทีผู้หญิงคนนั้นอาจยกเค้าทั้งบ้านไปแล้วก็ได้”

“ใช่ อายุอานามก็ปาไป 50 แล้ว แต่ยังไม่มีเงินสักแดงเดียวเลยงั้นเหรอ? ความละอายแก่ใจน่ะ มีบ้างไหม? คงจะมีแต่ครอบครัวคนตาบอดเท่านั้นสินะที่ยอมให้ลูกสาวมาแต่งงานกันนะ?”

ปัง!

ประตูสวนถูกแรงถีบกระแทกจนเปิดออก และเสียงก็ขัดจังหวะการโต้เถียงของคนเหล่านั้น

แจสเปอร์แสดงท่าทีเย็นชา ขณะที่จ้องมองไปที่คนอื่น ๆ เจ็ดถึงแปดคนในห้องนั้น

หากไม่นับหัวหน้าหมู๋บ้านและภรรยาที่อยู่ข้าง ๆ ที่เหลืออีกห้าคนก็เป็นครอบครัวของป้า

ณ ขณะนี้ พ่อของเขากำลังปกป้องครอบครัวเพียงลำพัง

การปรากฏตัวของแจสเปอร์ทำให้พวกเขาตกใจ แต่ป้าของเขารีบพูดด้วยน้ำเสียงแกมจิกกัด “ห้ะ นึกว่าคนใหญ่คนโตที่ไหนเสียอีก ก็แค่เด็กไร้ปัญญาของตาแก่ไร้ประโยชน์นี่”

หัวหน้าหมู่บ้านขมวดคิ้วและจ้องที่แจสเปอร์ก่อนจะหันไปหาชาร์ลี “ชาร์ลี ลูกชายของนายหยาบคายไปหน่อยละมั้ง ถีบประตูเขา เขาคิดว่าฉันเป็นอะไร?”

ชาร์ลีขมวดคิ้วขณะมองแจสเปอร์ “ลูกมาที่นี่ทำไม?”

ความสัมพันธ์ของแจสเปอร์และชาร์ลีคล้ายกับคู่อื่น ๆ ในประเทศ โดยที่พ่อจะเคร่งขรึมและเข้มงวดอย่างเกินความจำเป็น

ดังนั้น ลูกชายจึงอยากที่จะใช้เวลากับแม่มากกว่า และความทรงจำที่มีต่อพ่อของเขาส่วนใหญ่จะเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

ในชาติที่แล้ว จวบจนวาระสุดท้าย ความสัมพันธ์ระหว่างแจสเปอร์กับชาร์ลีค่อนข้างห่างไกล

อย่างไรก็ตาม แจสเปอร์ไม่เคยละเลยความรักที่ชาร์ลีมีต่อเขาเลย

พ่อของเขาไม่รู้ว่าจะแสดงความรู้สึกอย่างไรให้ดีที่สุด

เมื่อเพเนโลเป้เป็นคนก้าวร้าวและทำให้เขาอับอายขายหน้าบ่อยครั้ง เขามักจะเลือกที่จะนิ่งเงียบเพื่อไม่ให้แจสเปอร์ตกอยู่ในจุดที่ยากลำบาก

เมื่อเป็นเช่นนั้น ในหมู่บ้าน เขาเป็นลูกผู้ชาย เขาจึงต้องอดทนต่อคำพูดที่ดูถูกลูกสะใภ้ของเขา

หลังจากใช้ชีวิตมาสองครั้ง แจสเปอร์พบว่าตัวเองเต็มไปด้วยอารมณ์ ขณะที่พ่อของเขาแก่ลงเรื่อย ๆ

“แม่บอกว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นที่บ้าน ผมเลยกลับมา” แจสเปอร์ตอบ

“สิ่งนี้ไม่เกี่ยวกับแก อย่าเข้ามายุ่งกับเรื่องของคนอื่น” ชาร์ลีจ้องแซลลี่ ตามหลังด้วยการตำหนิที่บอกแจสเปอร์เกี่ยวกับเรื่องนี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ ไปให้สุด