“คุณช่างสุภาพเหลือเกิน มิสเตอร์ลอว์ เป็นเกียรติอย่างมากที่ผมสามารถทำคุณเพลิดเพลินได้” เซย์เดนกล่าวอย่างอ่อนน้อมเป็นอย่างมาก แต่จิตใจของเขาพร้อมจะแหลกร้าวจากความโกรธและความอัปยศ
อย่างไรก็ตาม เขาไม่มีทางเลือกมากนัก นอกจากทำได้เพียงแค่อดทนไว้ ในตอนนี้ เขาไม่สามารถขัดใจมิสเตอร์ลอว์ได้
การประมูลกำลังจะเริ่มขึ้น และผลแห่งชัยชนะก็อยู่ตรงหน้าเขาแล้ว ดังนั้นต้องอดทนไว้
เซย์เดนสาบานด้วยใจจริงเลย ถ้าชนะการประมูลนี้ เขาจะคืนทุกความคับแค้นใจที่ได้รับในช่วงเวลานี้ให้กับแจสเปอร์เป็น 100 เท่า!
…
“เธอหมายความว่าตระกูลแฮงค์ได้ติดต่อกับนักธุรกิจจากเมืองฮาร์เบอร์ไว้แล้วงั้นหรือ?”
ดอว์สันมองไปที่แจสเปอร์อย่างร้อนรน และท่าทีของเขาดูจริงจังเกินกว่าจะล้อเล่นได้
แจสเปอร์พยักหน้าและพูดว่า “ทัศนคติของนักธุรกิจเมืองฮาร์เบอร์คนนี้มีผลกระทบโดยตรงกับความคิดของรัฐบาลตั้งแต่ที่เขาวางแผนการทำการลงทุน หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องจะลงทุนในที่ดินของเขาตามในภายหลัง ช่างเป็นเรื่องบังเอิญอะไรแบบนี้ที่เขาจะได้เจอกับการขยายตัวของเขตจังหวัดอย่างไม่ทันได้คาดคิด”
“ยิ่งไปกว่านั้น ตระกูลแฮงค์ได้แถลงการณ์พวกเขาตั้งใจที่เข้ามารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างในที่ดินและถือครองสิทธิ์ในการพัฒนาที่ดินหลายต่อหลายครั้ง ในอีกแง่หนึ่ง สิ่งนั้นทำให้ผู้คนถอยห่างออกจากเรื่องนี้ และอีกแง่หนึ่ง ผมเกรงว่าเรื่องนี้คงจะมีจุดประสงค์ในการปลุกปั่นและปิดปากชาวบ้านไม่ให้พูดถึงความจริงมากกว่า”
หลังจากได้ยินสิ่งที่แจสเปอร์กล่าว ดอว์สันถามว่า “ถ้าอย่างนั้น แผนของนายคืออะไร?”
“เราจะยกให้พวกมันไป” แจสเปอร์ยิ้มและกล่าว
“ยกให้พวกมันอย่างนั้นรึ?” ดอว์สันค่อย ๆ ยกคิ้วขึ้น
“ในการประมูลครั้งนี้ การสู้ซึ่ง ๆ หน้ากับตระกูลแฮงคส์คงไม่ใช่เรื่องที่ฉลาดเท่าไหร่นัก แต่มันจะเพิ่มภาระทางการเงินให้กับเราโดยใช้เหตุ ”
แจสเปอร์กล่าวอย่างตรงไปตรงมา เขามั่นใจเป็นอย่างมาก
“สิทธิ์ในการพัฒนาที่ดินทั้งหมดจะทำเงินได้ก็ต่อเมื่อนักธุรกิจจากทางฝั่งฮาร์เบอร์ตัดสินใจลงทุนที่ธนาคารทางใต้ของฝั่งเซาธ์เฟซ ยิ่งไปกว่านั้น นักลงทุนคนนั้นจะต้องเป็นผู้ที่อำนาจตัดสิจใจเด็ดขาด เพราะฉะนั้นถ้าเขาเปลี่ยนใจ มูลค่าความเสียหายที่ตระกูลแฮงค์ต้องพบเจอคงไม่ใช่น้อยเลยเชียวละ”
ดอว์สันเข้าใจสิ่งที่แจสเปอร์กำลังพูด เขาคาดการณ์ล่วงหน้าไปและถามว่า “นายมั่นใจใช่ไหมว่าจะโน้มน้าวนักธุรกิจคนนั้นได้?”
ทุกคนรู้ดีว่ากุญแจสำคัญของเรื่องนี้คือการตัดสินใจของนักธุรกิจคนนั้น
แจสเปอร์ระลึกย้อนไปถึงแนวโน้มเศรษฐกิจในเมืองฮาร์เบอร์ในชาติที่แล้ว หลังจากนั้นก็ยิ้มและพูดว่า “ในเมื่อถ้านักธุรกิจคนนั้นเต็มใจที่จะร่วมงานกับเรา แล้วสามารถทำกำไรได้มากกว่า ทำไมเขาจะไม่ยอมล่ะ?”
…
สองวันผ่านไวเหมือนกะพริบตา
วันนี้ ศาลากลางจังหวัดกลายเป็นสถานที่จัดงานชั่วคราวสำหรับการประมูล การจราจรบนถนนติดขัดอย่างมาก
เกือบทุกตระกูลที่ทรงอิทธิพลและเหล่ามหาเศรษฐีในจังหวัดที่ผู้คนรู้จักต่างอยู่ที่นี่
ทุกคนก็กำลังทำงานหาเลี้ยงชีพในที่เดียวกัน เพราะฉะนั้นเมื่อเจอหน้า พวกเขาจะทักทายแลกเปลี่ยนตามมารยาท
“มิสเตอร์ลอง มาไวจังเลยนะครับ”
ชายวัยกลางคนสวมสูทยิ้มและกล่าวกับชายอีกคนที่เพิ่งลงจากรถ
“ผมเหรอ? คุณบริหารธุรกิจยานี่ คุณสนใจในอสังหาริมทรัพย์ด้วยเหรอ?” มิสเตอร์ลองหยอกล้อ
“นี่ จะสนใจหรือไม่สนใจแล้วมันยังไงเล่า? มีคนตั้งมากมายอยู่ที่นี่ แต่เราทุกคนต่างรู้อยู่แล้วว่ายังไงก็แพ้”
“พูดถูกแล้ว” มิสเตอร์ลองถอนหายใจอย่างเศร้าสร้อย “สองตระกูลนี้มีเรื่องบาดหมางกันก่อนหน้านี้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะต่อหน้าหรือลับหลัง สองตระกูลนี้ก็พร้อมที่จะชิงดีชิงเด่นกันอยู่ตลอดอยู่แล้ว ครั้งที่แล้ว ตระกูลแฮงค์เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไป ครั้งนี้ฉันล่ะสงสัยจริง ๆ ว่าใครกันนะจะเป็นผู้ชนะ?”
“ทั้งสองตระกูลก็ทนเหม็นหน้ากันนาน เพราะแบบนี้ไง มันก็คุ้มตั๋วดีนะที่ทำให้พวกเราได้มานั่งดูโชว์ที่อลังการแบบนี้” ชายคนหนึ่งหัวเราะพร้อมกับกล่าว
ในเวลาเดียวกัน แจสเปอร์และเวนดี้ก็มาถึงลานจอดรถ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ ไปให้สุด
ต่อหน่อยคร๊าฟ...
รออัพอยู่นะคะ เดือนเศษแล้ว จะมีต่อไหมคะ...