เกิดใหม่ ไปให้สุด นิยาย บท 96

หลังทุกคนจากหลากหลายแวดวงธุรกิจมาถึง การประมูลจึงได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ

คนกลุ่มหนึ่งเดินจากด้านข้างของประตูมาโดยมีผู้นำของซิตี้ฮอลล์นำมา หลังจากนั้น พวกเขาพากันนั่งตรงที่นั่งที่ถูกแยกจากที่อื่นอย่างชัดเจน

ผู้นำจากหลากหลายแวดวงธุรกิจที่มายังงานประมูลเริ่มพบปะพูดคุยกัน พวกเขารู้ดีว่าคนที่เพิ่งเดินเข้ามานั้นคือ กลุ่มนักธุรกิจที่ทรงอิทธิพลจากเมืองฮาร์เบอร์

ผู้นำกลุ่มคือชายอายุราวหกสิบปี เขาสวมสูทและหลังค่อม อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาพูดออกมา บรรยากาศรอบ ๆ เต็มไปด้วยออร่าของชายที่ประสบความสำเร็จ และเขาดูเพียบพร้อมไปด้วยพรสวรรค์

ข้างกายเขา มีชายหนุ่มและหญิงสาว ชายคนนั้นกำลังเคี้ยวหมากฝรั่งดูท่าทางไม่เอาไหน

หญิงสาวคนนั้นสวยและดูมีเสน่ห์อย่างมาก ราวกับว่าเธอได้รับพรจากสรวงสวรรค์ จังหวะที่เธอปรากฏตัว ความสนใจของทุกผู้ทุกนามก็มุ่งไปหาเธอในทันที

หญิงสาวกำลังมองไปรอบ ๆ งานราวกับว่ากำลังมองหาใครสักคนอยู่

ทันใดนั้นเอง สายตาของเธอก็หยุดตรงแจสเปอร์ หล่อนยิ้มอย่างอ่อนหวาน ทักทายเขาจากที่ไกล ๆ

แจสเปอร์ยิ้มตอบกลับไปหาเธอ

“คุณสองคนรู้จักกันงั้นหรอ?”

เวนดี้อ่อนไหวเป็นอย่างมากโดยเฉพาะเรื่องนี้

“ก็ไม่เชิงครับ ผมเจอเธอแค่ครั้งเดียวเอง” แจสเปอร์ตอบกลับตรง ๆ

“สวยใช่ไหม?” เวนดี้ถามพร้อมกับยิ้ม

“ก็งั้น ๆ แหละครับ ผมไม่ได้รู้สึกอะไรตอนมองไปที่เธอ คนอื่นก็สวยแค่เปลือกนอกเมื่อเทียบกับคุณแล้ว”

เมื่อเวนดี้ได้คำตอบแบบนี้ มันเติมเต็มหัวใจดวงน้อยให้มีแรงเต้นต่อไป สุดท้ายเธอจึงยิ้มได้อย่างสบายใจ เธอรู้สึกพอใจกับปฏิภาณไหวพริบที่ดีของแจสเปอร์

เซย์เดนมองเข้าไปในตาของชายท่าทางสกปรกจากที่ไกล ๆ เมื่อเห็นพวกเขาทำท่าทาง ‘โอเค’ เขาถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนที่จะหันหลังกลับไปมองหาแจสเปอร์

เมื่อเห็นแจสเปอร์และเวนดี้หยอกล้อกันเชิงชู้สาว สายตาของเขาก็ฉายแววของความโมโหและเริ่มส่ายหัวไปมาพร้อมเยาะเย้ย

โฆษกเดินขึ้นเวทีท่ามกลางผู้คนที่เดินพลุกพล่านและเคาะไมโครโฟน หลังจากที่ทุกคนเงียบลงแล้ว เขากล่าวว่า “ยินดีต้อนรับทุกท่านครับ ผมคือผู้ดำเนินการประมูลในวันนี้”

“ยิ่งไปกว่านั้น การกลับมาของมหาเศรษฐีนักลงทุกจากเมืองฮาร์เบอร์ มิสเตอร์แซคคารี ลอว์ ลูกชายคนโตของเขา เฮนรี่ ลอว์ และลูกสาว แอนนา ลอว์จะร่วมรับชมจากทางด้านนี้ครับ”

หลังจากรู้ตัวตนของกลุ่มนักธุรกิจจากเมืองฮาร์เบอร์แล้ว ความโกลาหลจึงเริ่มขึ้นท่ามกลางกลุ่มเศรษฐีจากจังหวัด

ทุกคนรู้ว่านักธุรกิจจากเมืองฮาร์เบอร์มีอิทธิพลเป็นอย่างมาก แต่ไม่เคยรู้เลยว่าจะเป็นตระกูลหมายเลขหนึ่งที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองฮาร์เบอร์ ตระกูลลอว์นั่งเอง

พูดได้เลยว่าตระกูลลอว์คือหนึ่งในตระกูลที่เป็นมิตรที่สุดกับแผ่นดินใหญ่เมื่อเทียบกับเหล่าเศรษฐีแนวหน้าในเมืองฮาร์เบอร์อื่น ๆ แล้ว นายท่านอาวุโส ทอม ลอว์ และผู้นำของเมืองหลวงสนิทสนมกันเป็นอย่างมาก

พวกเขาไม่สามารถเทียบกับนายท่านอาวุโสลอว์ในด้านของสถานะและตำแหน่ง

โฆษกสงบสติอารมณ์ของทุกคน แล้วเขากล่าวว่า “เอาล่ะ เรามาเริ่มการประมูลตอนนี้เลยดีกว่า มีแค่สิ่งเดียวหนึ่งที่จะถูกนำประมูลครั้งนี้ และนั่นคือส่วนหนึ่งของที่ดินสิบหกเอเคอร์ฝั่งทิศใต้ของแม่น้ำเซาธ์เฟส ยิ่งไปกว่านั้น มันมาพร้อมกับสิทธ์ในการพัฒนาที่ดินฝั่งทิศใต้ของแม่น้ำเซาธ์เฟสทั้งหมดอีกด้วย”

รายละเอียดของที่ดินผืนนี้อยู่บนโต๊ะของทุกท่านเรียบร้อยแล้ว กระผมมั่นใจว่าทุกท่านได้ดูเรียบร้อยแล้วเช่นกัน เพราะฉะนั้น เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เรามาเริ่มกันเลย ราคาเริ่มต้นคือ 300 ล้านดอลลาร์ ทุกการเสนอราคาเพื่อเข้าร่วมประมูลในครั้งต่อ ๆ ไปจะเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่าหนึ่งล้านดอลลาร์”

“300 ล้านงั้นรึ?”

หลังจากที่โฆษกกล่าวเสร็จ ใครบางคนยกป้ายขึ้นทันที

ทุกคนในงานยิ้มอย่างตระหนักรู้ ทุกคนรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้วว่าพวกเขามาที่นี่เพียงเพื่อชมการประมูลเท่านั้น

ตัวละครหลักไม่เป็นตระกูลแฮงค์ก็เป็นตระกูลชูเลอร์

ความมั่งคั่งและอำนาจของคนที่เหลือล้วนต่ำกว่าสองตระกูลนี้เล็กน้อย

“400 ล้าน”

แน่นอนว่าเซย์เดนออกเสียงทันทีหลังจากนั้น

คนที่ประมูลราคาสามร้อยล้านยกธงขาวทันที

มันง่ายเกินไปที่จะประมูลในราคาเริ่มต้น ถ้าตระกูลแฮงค์เข้าร่วมแล้ว มันคงยากที่จะเสนอราคาต่อ

“ 500 ล้าน”

แจสเปอร์เริ่มยกป้ายเพื่อไม่ให้คนอื่นผิดหวัง

การประมูลเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นและทั้งสองก็ปะทะกันอย่างดุเดือด

ทุกคนเริ่มเฝ้าชมโชว์นี้ราวกับเด็กน้อยที่แสนเชื่อฟัง ในตอนนี้ไม่มีใครกล้ารบกวนการต่อสู้ระหว่างสองตระกูลนี้

เซย์เดนมองมาที่แจสเปอร์และยิ้มอย่างเยือกเย็น เขายึดมั่นคำสัญญาของนักธุรกิจจากเมืองฮาร์เบอร์ เพราะเหตุนั้น เขาจึงไม่กลัวเรื่องเงินอีก

“600 ล้าน”

เซย์เดนยกป้ายอีกครั้ง

“650 ล้าน”

“700 ล้าน!”

เซย์เดนชิงตัดหน้าทันที และหันหน้าไปยิ้มอย่างเยือกเย็นให้กับแจสเปอร์ เขาพูดขึ้น “ถ้าไม่เงินเหมือนคนอื่น ๆ อ่ะ ก็อย่าเข้ามาร่วมประมูลตั้งแต่แรกสิวะ ทำไมไม่มองดูสารรุปตัวเองเสียก่อน?”

“เขาจงใจยั่วโมโหคุณ” เวนดี้ดึงแขนเสื้อของแจสเปอร์

“ผมรู้” แจสเปอร์ตอบกลับอย่างเรียบเฉย

“ถ้างั้น เราควรทำไงดีล่ะ? ขีดจำกัดของเราคือ 900 ล้าน ดูท่าทางแล้ว ฉันไม่คิดว่าเขาจะยอมแพ้หรอกนะ”

“710 ล้าน” แจสเปอร์ยกป้ายของเขาอีกครั้ง

เซย์เดนค่อย ๆ ยืนขึ้นและชี้มายังแจสเปอร์ก่อนจะหัวเราะอย่างเยือกเย็น เขาพูดว่า “เงินแกหมดแล้วหรอ? เพิ่มขึ้นทีละสิบล้านมันจะไปสนุกตรงไหน? ฉันจะเสนอราคาหนึ่งพันล้าน!”

“สู้สิ ถ้าแกแน่จริง!”

หลังจากหนึ่งพันล้านถูกเสนอ เสียงอึกทึกก็เกิดขึ้นในฝูงชน

ราคานั้นสูงกว่าที่ทุกคนคาดการณ์เอาไว้

ทุกคนหันมามองแจสเปอร์

ไม่มีใครรู้เลยว่าเขาจะรู้สึกโกรธที่ราคาสูงเกินไปไหม

“เราจะทำยังไงกันดี?” เวนดี้ถามอย่างกังวล

ความรู้สึกของแจสเปอร์ไม่ได้เปลี่ยนไป เขาส่ายหัวและพูดว่า “ราคาสูงเกินเกณฑ์ของเราแล้ว”

“คุณเคยบอกว่าสิทธิ์ในการพัฒนาที่ดินสำคัญมาก...” เวนดี้กล่าวอย่างร้อนรน

“อย่ากังวลไป” แจสเปอร์แตะมือของเวนดี้ “ผมมีทางออก”

สุดท้ายแล้ว เวนดี้ก็สบายใจหลังจากที่แจสเปอร์กล่าวแบบนั้น

มันได้ถูกพิสูจน์แล้ว ตราบใดที่แจสเปอร์บอกว่าเขามีแผน เขาไม่เคยทำให้เธอผิดหวัง

“หนึ่งพันล้านครั้งที่สอง มีใครให้มากกว่านี้ไหมครับ?”

เสียงของโฆษกดังมาจากเวที

ทุกคนด้านล่างเวทีต่างเงียบ ไม่มีใครคาดหวังให้ตระกูลแฮงค์ชนะแบบได้เปรียบอย่างท่วมท้น พวกเขาคิดว่าได้เห็นการต่อสู้อันดุเดือดระหว่างยักษ์ใหญ่ทั้งสอง

เซย์เดนหัวเราเยาะอย่างบ้าคลั่งและชี้มาที่แจสเปอร์ “แกเจ๋งมากไม่ใช่หรอ? ยกป้ายขึ้นมาสิ! ยกป้ายขึ้นมาและสู้ราคากัน! ฉันฆ่าแกได้ด้วยเงินของฉันนี่แหละ! แกยังอ่อนเกินไปที่จะมาเล่นกับฉัน!”

เกือบทันที่ที่เซย์เดนพูดแบบนั้น เสียงของแจสเปอร์ก็ดังก้องฮอลล์

“1.2 พันล้าน”

เสียงเอ่ยออกมาได้แฝงไปด้วยความมั่นใจว่าไม่มีทางแพ้ใครหน้าไหนแน่

ทุกคนมองตากว้างไปที่เขา พวกเขาคิดว่าแจสเปอร์กำลังยอมรับความพ่ายแพ้ แต่เขาดันเสนออีก 200 ล้านเพื่อกดราคาไว้

“แจส ไม่ใช่ว่าเราจะปล่อยไปเหรอ?” เวนดี้ถามเสียงค่อย หล่อนสับสนกับสิ่งที่แจสเปอร์ทำอยู่ตอนนี้

“ก็ตระกูลแฮงค์รวยมากนิ งั้นมาทำให้พวกเขาจ่ายเพิ่มอีกสักร้อยหรือสองร้อยล้านดอลลาร์ดีกว่า” แจสเปอร์กล่าวและยิ้มอย่างอ่อนโยน

เวนดี้ดูงุนงง หล่อนมองเขาราวกับจะบอกเขาว่า “ไอ้ตัวแสบ” หล่อนไม่สามารถคุมริมฝีปากตัวเองให้ไม่ยิ้มได้ และมันกำลังบอกว่า ‘ฉันชอบแบบนี้’

แจสเปอร์มองไปที่เซย์เดนที่หยุดหัวเราไปกะทันหัน และตอนนี้เหมือนกับเป็ดที่ถูกบีบคออยู่ ยิ้มที่เยือกเย็นและสงบก็ปปรากฎขึ้นบนหน้า

ยิ้มตรงริมฝีกปากของแจสเปอร์กำลังจงใจยั่วยุเซย์เดนเหมือนกำลังเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเขาอยู่

สิ่งนี้ทำให้การกระทำเมื่อสักครู่ของเขาเป็นเหมือนกับตัวตลก

“1.2 พันล้าน! ครั้งที่หนึ่ง!” เสียงโฆษกดังขึ้น

มุมปากของเซย์เดนกระตุก เขายิ้มเยาะอย่างมุ่งร้ายและพูดว่า “อย่าได้ใจไปหน่อยเลย คิดว่าแกจะชนะด้วยเงินแค่นั้นงั้นเหรอ แกคิดว่ามีสิทธิอะไรที่จะเทียบกับความมั่งคั่งของตระกูลแฮงค์ได้กัน?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ ไปให้สุด