หลังทุกคนจากหลากหลายแวดวงธุรกิจมาถึง การประมูลจึงได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
คนกลุ่มหนึ่งเดินจากด้านข้างของประตูมาโดยมีผู้นำของซิตี้ฮอลล์นำมา หลังจากนั้น พวกเขาพากันนั่งตรงที่นั่งที่ถูกแยกจากที่อื่นอย่างชัดเจน
ผู้นำจากหลากหลายแวดวงธุรกิจที่มายังงานประมูลเริ่มพบปะพูดคุยกัน พวกเขารู้ดีว่าคนที่เพิ่งเดินเข้ามานั้นคือ กลุ่มนักธุรกิจที่ทรงอิทธิพลจากเมืองฮาร์เบอร์
ผู้นำกลุ่มคือชายอายุราวหกสิบปี เขาสวมสูทและหลังค่อม อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาพูดออกมา บรรยากาศรอบ ๆ เต็มไปด้วยออร่าของชายที่ประสบความสำเร็จ และเขาดูเพียบพร้อมไปด้วยพรสวรรค์
ข้างกายเขา มีชายหนุ่มและหญิงสาว ชายคนนั้นกำลังเคี้ยวหมากฝรั่งดูท่าทางไม่เอาไหน
หญิงสาวคนนั้นสวยและดูมีเสน่ห์อย่างมาก ราวกับว่าเธอได้รับพรจากสรวงสวรรค์ จังหวะที่เธอปรากฏตัว ความสนใจของทุกผู้ทุกนามก็มุ่งไปหาเธอในทันที
หญิงสาวกำลังมองไปรอบ ๆ งานราวกับว่ากำลังมองหาใครสักคนอยู่
ทันใดนั้นเอง สายตาของเธอก็หยุดตรงแจสเปอร์ หล่อนยิ้มอย่างอ่อนหวาน ทักทายเขาจากที่ไกล ๆ
แจสเปอร์ยิ้มตอบกลับไปหาเธอ
“คุณสองคนรู้จักกันงั้นหรอ?”
เวนดี้อ่อนไหวเป็นอย่างมากโดยเฉพาะเรื่องนี้
“ก็ไม่เชิงครับ ผมเจอเธอแค่ครั้งเดียวเอง” แจสเปอร์ตอบกลับตรง ๆ
“สวยใช่ไหม?” เวนดี้ถามพร้อมกับยิ้ม
“ก็งั้น ๆ แหละครับ ผมไม่ได้รู้สึกอะไรตอนมองไปที่เธอ คนอื่นก็สวยแค่เปลือกนอกเมื่อเทียบกับคุณแล้ว”
เมื่อเวนดี้ได้คำตอบแบบนี้ มันเติมเต็มหัวใจดวงน้อยให้มีแรงเต้นต่อไป สุดท้ายเธอจึงยิ้มได้อย่างสบายใจ เธอรู้สึกพอใจกับปฏิภาณไหวพริบที่ดีของแจสเปอร์
เซย์เดนมองเข้าไปในตาของชายท่าทางสกปรกจากที่ไกล ๆ เมื่อเห็นพวกเขาทำท่าทาง ‘โอเค’ เขาถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนที่จะหันหลังกลับไปมองหาแจสเปอร์
เมื่อเห็นแจสเปอร์และเวนดี้หยอกล้อกันเชิงชู้สาว สายตาของเขาก็ฉายแววของความโมโหและเริ่มส่ายหัวไปมาพร้อมเยาะเย้ย
โฆษกเดินขึ้นเวทีท่ามกลางผู้คนที่เดินพลุกพล่านและเคาะไมโครโฟน หลังจากที่ทุกคนเงียบลงแล้ว เขากล่าวว่า “ยินดีต้อนรับทุกท่านครับ ผมคือผู้ดำเนินการประมูลในวันนี้”
“ยิ่งไปกว่านั้น การกลับมาของมหาเศรษฐีนักลงทุกจากเมืองฮาร์เบอร์ มิสเตอร์แซคคารี ลอว์ ลูกชายคนโตของเขา เฮนรี่ ลอว์ และลูกสาว แอนนา ลอว์จะร่วมรับชมจากทางด้านนี้ครับ”
หลังจากรู้ตัวตนของกลุ่มนักธุรกิจจากเมืองฮาร์เบอร์แล้ว ความโกลาหลจึงเริ่มขึ้นท่ามกลางกลุ่มเศรษฐีจากจังหวัด
ทุกคนรู้ว่านักธุรกิจจากเมืองฮาร์เบอร์มีอิทธิพลเป็นอย่างมาก แต่ไม่เคยรู้เลยว่าจะเป็นตระกูลหมายเลขหนึ่งที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองฮาร์เบอร์ ตระกูลลอว์นั่งเอง
พูดได้เลยว่าตระกูลลอว์คือหนึ่งในตระกูลที่เป็นมิตรที่สุดกับแผ่นดินใหญ่เมื่อเทียบกับเหล่าเศรษฐีแนวหน้าในเมืองฮาร์เบอร์อื่น ๆ แล้ว นายท่านอาวุโส ทอม ลอว์ และผู้นำของเมืองหลวงสนิทสนมกันเป็นอย่างมาก
พวกเขาไม่สามารถเทียบกับนายท่านอาวุโสลอว์ในด้านของสถานะและตำแหน่ง
โฆษกสงบสติอารมณ์ของทุกคน แล้วเขากล่าวว่า “เอาล่ะ เรามาเริ่มการประมูลตอนนี้เลยดีกว่า มีแค่สิ่งเดียวหนึ่งที่จะถูกนำประมูลครั้งนี้ และนั่นคือส่วนหนึ่งของที่ดินสิบหกเอเคอร์ฝั่งทิศใต้ของแม่น้ำเซาธ์เฟส ยิ่งไปกว่านั้น มันมาพร้อมกับสิทธ์ในการพัฒนาที่ดินฝั่งทิศใต้ของแม่น้ำเซาธ์เฟสทั้งหมดอีกด้วย”
รายละเอียดของที่ดินผืนนี้อยู่บนโต๊ะของทุกท่านเรียบร้อยแล้ว กระผมมั่นใจว่าทุกท่านได้ดูเรียบร้อยแล้วเช่นกัน เพราะฉะนั้น เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เรามาเริ่มกันเลย ราคาเริ่มต้นคือ 300 ล้านดอลลาร์ ทุกการเสนอราคาเพื่อเข้าร่วมประมูลในครั้งต่อ ๆ ไปจะเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่าหนึ่งล้านดอลลาร์”
“300 ล้านงั้นรึ?”
หลังจากที่โฆษกกล่าวเสร็จ ใครบางคนยกป้ายขึ้นทันที
ทุกคนในงานยิ้มอย่างตระหนักรู้ ทุกคนรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้วว่าพวกเขามาที่นี่เพียงเพื่อชมการประมูลเท่านั้น
ตัวละครหลักไม่เป็นตระกูลแฮงค์ก็เป็นตระกูลชูเลอร์
ความมั่งคั่งและอำนาจของคนที่เหลือล้วนต่ำกว่าสองตระกูลนี้เล็กน้อย
“400 ล้าน”
แน่นอนว่าเซย์เดนออกเสียงทันทีหลังจากนั้น
คนที่ประมูลราคาสามร้อยล้านยกธงขาวทันที
มันง่ายเกินไปที่จะประมูลในราคาเริ่มต้น ถ้าตระกูลแฮงค์เข้าร่วมแล้ว มันคงยากที่จะเสนอราคาต่อ
“ 500 ล้าน”
แจสเปอร์เริ่มยกป้ายเพื่อไม่ให้คนอื่นผิดหวัง
การประมูลเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นและทั้งสองก็ปะทะกันอย่างดุเดือด
ทุกคนเริ่มเฝ้าชมโชว์นี้ราวกับเด็กน้อยที่แสนเชื่อฟัง ในตอนนี้ไม่มีใครกล้ารบกวนการต่อสู้ระหว่างสองตระกูลนี้
เซย์เดนมองมาที่แจสเปอร์และยิ้มอย่างเยือกเย็น เขายึดมั่นคำสัญญาของนักธุรกิจจากเมืองฮาร์เบอร์ เพราะเหตุนั้น เขาจึงไม่กลัวเรื่องเงินอีก
“600 ล้าน”
เซย์เดนยกป้ายอีกครั้ง
“650 ล้าน”
“700 ล้าน!”
เซย์เดนชิงตัดหน้าทันที และหันหน้าไปยิ้มอย่างเยือกเย็นให้กับแจสเปอร์ เขาพูดขึ้น “ถ้าไม่เงินเหมือนคนอื่น ๆ อ่ะ ก็อย่าเข้ามาร่วมประมูลตั้งแต่แรกสิวะ ทำไมไม่มองดูสารรุปตัวเองเสียก่อน?”
“เขาจงใจยั่วโมโหคุณ” เวนดี้ดึงแขนเสื้อของแจสเปอร์
“ผมรู้” แจสเปอร์ตอบกลับอย่างเรียบเฉย
“ถ้างั้น เราควรทำไงดีล่ะ? ขีดจำกัดของเราคือ 900 ล้าน ดูท่าทางแล้ว ฉันไม่คิดว่าเขาจะยอมแพ้หรอกนะ”
“710 ล้าน” แจสเปอร์ยกป้ายของเขาอีกครั้ง
เซย์เดนค่อย ๆ ยืนขึ้นและชี้มายังแจสเปอร์ก่อนจะหัวเราะอย่างเยือกเย็น เขาพูดว่า “เงินแกหมดแล้วหรอ? เพิ่มขึ้นทีละสิบล้านมันจะไปสนุกตรงไหน? ฉันจะเสนอราคาหนึ่งพันล้าน!”
“สู้สิ ถ้าแกแน่จริง!”
หลังจากหนึ่งพันล้านถูกเสนอ เสียงอึกทึกก็เกิดขึ้นในฝูงชน
ราคานั้นสูงกว่าที่ทุกคนคาดการณ์เอาไว้
ทุกคนหันมามองแจสเปอร์
ไม่มีใครรู้เลยว่าเขาจะรู้สึกโกรธที่ราคาสูงเกินไปไหม
“เราจะทำยังไงกันดี?” เวนดี้ถามอย่างกังวล
ความรู้สึกของแจสเปอร์ไม่ได้เปลี่ยนไป เขาส่ายหัวและพูดว่า “ราคาสูงเกินเกณฑ์ของเราแล้ว”
“คุณเคยบอกว่าสิทธิ์ในการพัฒนาที่ดินสำคัญมาก...” เวนดี้กล่าวอย่างร้อนรน
“อย่ากังวลไป” แจสเปอร์แตะมือของเวนดี้ “ผมมีทางออก”
สุดท้ายแล้ว เวนดี้ก็สบายใจหลังจากที่แจสเปอร์กล่าวแบบนั้น
มันได้ถูกพิสูจน์แล้ว ตราบใดที่แจสเปอร์บอกว่าเขามีแผน เขาไม่เคยทำให้เธอผิดหวัง
“หนึ่งพันล้านครั้งที่สอง มีใครให้มากกว่านี้ไหมครับ?”
เสียงของโฆษกดังมาจากเวที
ทุกคนด้านล่างเวทีต่างเงียบ ไม่มีใครคาดหวังให้ตระกูลแฮงค์ชนะแบบได้เปรียบอย่างท่วมท้น พวกเขาคิดว่าได้เห็นการต่อสู้อันดุเดือดระหว่างยักษ์ใหญ่ทั้งสอง
เซย์เดนหัวเราเยาะอย่างบ้าคลั่งและชี้มาที่แจสเปอร์ “แกเจ๋งมากไม่ใช่หรอ? ยกป้ายขึ้นมาสิ! ยกป้ายขึ้นมาและสู้ราคากัน! ฉันฆ่าแกได้ด้วยเงินของฉันนี่แหละ! แกยังอ่อนเกินไปที่จะมาเล่นกับฉัน!”
เกือบทันที่ที่เซย์เดนพูดแบบนั้น เสียงของแจสเปอร์ก็ดังก้องฮอลล์
“1.2 พันล้าน”
เสียงเอ่ยออกมาได้แฝงไปด้วยความมั่นใจว่าไม่มีทางแพ้ใครหน้าไหนแน่
ทุกคนมองตากว้างไปที่เขา พวกเขาคิดว่าแจสเปอร์กำลังยอมรับความพ่ายแพ้ แต่เขาดันเสนออีก 200 ล้านเพื่อกดราคาไว้
“แจส ไม่ใช่ว่าเราจะปล่อยไปเหรอ?” เวนดี้ถามเสียงค่อย หล่อนสับสนกับสิ่งที่แจสเปอร์ทำอยู่ตอนนี้
“ก็ตระกูลแฮงค์รวยมากนิ งั้นมาทำให้พวกเขาจ่ายเพิ่มอีกสักร้อยหรือสองร้อยล้านดอลลาร์ดีกว่า” แจสเปอร์กล่าวและยิ้มอย่างอ่อนโยน
เวนดี้ดูงุนงง หล่อนมองเขาราวกับจะบอกเขาว่า “ไอ้ตัวแสบ” หล่อนไม่สามารถคุมริมฝีปากตัวเองให้ไม่ยิ้มได้ และมันกำลังบอกว่า ‘ฉันชอบแบบนี้’
แจสเปอร์มองไปที่เซย์เดนที่หยุดหัวเราไปกะทันหัน และตอนนี้เหมือนกับเป็ดที่ถูกบีบคออยู่ ยิ้มที่เยือกเย็นและสงบก็ปปรากฎขึ้นบนหน้า
ยิ้มตรงริมฝีกปากของแจสเปอร์กำลังจงใจยั่วยุเซย์เดนเหมือนกำลังเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเขาอยู่
สิ่งนี้ทำให้การกระทำเมื่อสักครู่ของเขาเป็นเหมือนกับตัวตลก
“1.2 พันล้าน! ครั้งที่หนึ่ง!” เสียงโฆษกดังขึ้น
มุมปากของเซย์เดนกระตุก เขายิ้มเยาะอย่างมุ่งร้ายและพูดว่า “อย่าได้ใจไปหน่อยเลย คิดว่าแกจะชนะด้วยเงินแค่นั้นงั้นเหรอ แกคิดว่ามีสิทธิอะไรที่จะเทียบกับความมั่งคั่งของตระกูลแฮงค์ได้กัน?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ ไปให้สุด
รออัพอยู่นะคะ เดือนเศษแล้ว จะมีต่อไหมคะ...