SPIN-OFF บทที่ 53
ชะงัก
การเคลื่อนไหวของแคลอฮันที่กำลังลูบหน้าตนเองอย่างเหนื่อยล้าพลันชะงักไปตรงกันข้ามกับเขาและลอเรนซ์ที่ตกหลุมรักการล่าสัตว์มาตั้งแต่อายุยังน้อย แคลอฮันมักจะร้องไห้ออกมาเพราะสงสารสัตว์ป่าพวกนั้น
การจะเป็นเจ้านายผู้มีอำนาจนำพาตระกูล แคลอฮันจบเห่ตั้งแต่นิสัยนั่นแล้ว
“แต่พูดไปถ้าเจ้ามีสมองและรู้จักวางตัวหน่อย ข้าก็คงต้องลำบากแล้วละ ต้องขอบคุณที่เจ้าทำให้ข้ามีเรื่องไปบอกคนในตระกูลว่าเจ้ากำลังมั่วอยู่กับนางชั้นต่ำนั่น พี่ชายขอบคุณมากเลยนะ แคลอฮัน”
“ท่านพี่…จะปล่อยข่าวลืองั้นเหรอครับ?”
“ใช่สิ ทำไมล่ะ เจ้าเองก็กลัวข่าวลือเหมือนกันสินะ?”
เบเจอร์หัวเราะคิกคัก
“ไม่สู้เป็นเหมือนท่านพี่ชานาเนสที่พาเวสตินกลับมายังดีซะกว่า อย่างน้อยถ้านางคนที่ชื่อชาห์นนั่นเป็นบุตรสาวของตระกูลขุนนางที่ตกต่ำสักหน่อย เจ้าอาจจะยังพอมีหวังก็ได้”
พอนึกถึงชาห์นที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ใช้นัยน์ตาสีเขียวจ้องมาที่ตนตรงๆ ใบหน้าของเบเจอร์ก็มีความรังเกียจผุดขึ้นมาจางๆ
“คนเร่ร่อนที่ไม่รู้ว่าเอาตัวไปเกลือกกลั้วที่ไหนยังไงมาบ้างเนี่ยนะ”“ท่านพี่”
ต่างจากที่คิดเสียที่ไหน แคลอฮันเงยหน้าขึ้นมาจากมือที่ปิดหน้าอยู่ช้าๆ
เบเจอร์รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เห็นใบหน้าซีดเผือดด้วยความกลัวที่จะโผล่มาหลังมือนั้นเป็นอย่างยิ่ง
แต่ทว่า
“ข้าต่างหากล่ะที่รู้สึกโล่งอกไปที”
แคลอฮันที่เงยหน้าขึ้นมากลับมีสีหน้าไร้อารมณ์
นัยน์ตาสีเขียวที่เผยออกมาโดยไร้จากเงาดำของมือบดบัง ตกกระทบกับแสงไฟในห้อง ส่องประกายเจิดจ้า
“เพราะว่าถ้าท่านพี่เป็นคนเฉลียวฉลาดกว่านี้สักหน่อย ก็คงไม่มาบอกข้าว่าจะใช้แผนการมักง่ายอย่างเช่นการปล่อยข่าวลือหรอกครับ”
“…ว่าไงนะ?”
“ถ้าข้าเป็นท่านพี่ละก็ คงจะเอาเงินก้อนใหญ่มาฟาดหัว แล้วก็สั่งให้หนีไปจากลอมบาร์เดียกับคนรักแล้วละครับ ไล่ไปให้ไกล ไกลเสียจนท่านพ่อไม่อาจตามหาพวกเราได้เจอ”
หัวไหล่ของเบเจอร์พลันชะงักไป
“ท่านพี่พลาดโอกาสที่จะกำจัดข้าออกไปจากเส้นทางของท่านพี่แล้วละครับ แต่ก็ช่วยไม่ได้นะครับ เพราะบุตรชายคนแรกของลอมบาร์เดียดันหัวสมองไม่ดีเท่าไร”
“แก แก ไอ้สารเลว!”
ตรงกันข้ามกับท่าทางที่ราวกับจะวิ่งเข้ามาคว้าคอเสื้อได้ทุกเมื่อ เบเจอร์กลับไม่ก้าวออกมาจากตรงที่ยืนอยู่แม้แต่ก้าวเดียว
เขาไม่กล้าสบตากับแคลอฮันที่กำลังมีท่าทางเยือกเย็น
เบเจอร์พยายามแสร้งทำเป็นไม่รู้สึกรู้สาอะไร และกล่าวเสียดสีออกมาแทน
“หึ คิดว่าถ้าเรื่องที่เจ้าสนิทสนมกับนางชั้นต่ำนั่นไปเข้าหูท่านพ่อขึ้นมาจะเกิดอะไรขึ้นล่ะ เจ้าคิดว่าเจ้าจะยังอวดดี ลอยหน้าลอยตาแบบตอนนี้ได้อยู่อีกหรือไง”
ถึงอีกฝ่ายจะแสร้งทำเป็นว่าไม่กลัวข่าวลือ แต่ในความจริงคงไม่เป็นเช่นนั้นหรอก
เบเจอร์คิดอย่างนั้น
แต่ทว่า บนใบหน้าไร้อารมณ์ของแคลอฮันที่จ้องมาที่เขาอย่างเปิดเผยกลับมีความเย้ยหยันผุดขึ้นมาชั่วแวบหนึ่ง
“ท่านพี่บอกว่าลอมบาร์เดียซื้อร้าน ‘คลื่นน้ำสีคราม’ ไว้แล้วไม่ใช่เหรอครับ”
“ใช่ ตัวข้าที่เป็นผู้ดูแลอสังหาริมทรัพท์ของลอมบาร์เดียเป็นผู้ไปติดต่อซื้อขายด้วยตัวเอง อีกไม่นานตึกรอบๆ แถวนั้นก็จะกลายเป็นของลอมบาร์เดียด้วยเหมือนกัน”
“แล้วท่านพี่คิดว่าคนที่ออกคำสั่งให้ทำเช่นนั้นคือใครกันล่ะครับ”
“ระ เรื่องนั้น…”
เป็นรูลลัก ลอมบาร์เดีย ผู้เป็นบิดาและเจ้าตระกูล
“ท่านพี่คิดว่าเรื่องที่ท่านพี่รู้ ท่านพ่อจะไม่รู้เหรอครับ”
ราวกับว่าไม่คุ้มค่าที่จะสนทนาด้วยอีกต่อไป แคลอฮันหมุนตัวกลับโดยทิ้งเบเจอร์ที่เอาแต่อ้าปากพะงาบๆ เหมือนปลาทองไว้ด้านหลัง
จากนั้นก็กล่าวขึ้นมาเสียงเบาโดยที่ยังจับลูกบิดของห้องรับแขกไว้ในมือ
“แล้วก็ช่วยอย่าพูดถึงชาห์นในด้านแบบนั้นอีกนะครับ ข้าขอร้อง”
ทั้งที่เขาพูดว่า ‘ขอร้อง’ ออกมาแท้ๆ แต่ไม่รู้ทำไม เบเจอร์จึงรู้สึกเหมือนได้ยินว่า ‘นี่คือคำสั่ง’
เบเจอร์ที่เหลือตัวคนเดียวในที่สุดยืนจังงังในห้องรับแขกของตนเองไปแบบนั้นอีกสักพัก
***
“ลุกดีกว่า”
ชาห์นที่หลับๆ ตื่นๆ มาตลอดทั้งคืนลุกจากเตียงนอนด้วยใบหน้าเหนื่อยล้า
นางมีเรื่องให้คิดทบทวนมากมายจึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะนอนไม่ค่อยหลับ
ชาห์นที่ลุกขึ้นมานั่งฟุบอยู่บนเตียงนอนใน มองดูท้องฟ้าที่เริ่มทอแสงสลัวๆ ทางด้านนอกพลางพึมพำขึ้นมา
“หรือว่าข้าควรจะกลับไปที่หมู่บ้านดีนะ”
นางเดินทางมาไกลแสนไกลด้วยความมุ่งมั่นว่าอยากจะพบแคลอฮัน แล้วมีชีวิตเหมือนในอนาคตที่เห็นในความฝัน
ตัวเขาที่กว่าจะได้พบกันนั้น เป็นคนที่นิสัยดีและน่ารักยิ่งกว่าที่ได้เห็นในฝันเสียอีก
ชาห์นจึงตกหลุมรักเขาอย่างไม่ต้องสงสัย
และนางก็รู้
ว่าแคลอฮันก็มีความรู้สึกแบบเดียวกันกับนาง
แต่นางกลับรู้สึกไม่มั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆ
“ต่อให้ไม่มีข้า แคลอฮันก็น่าจะมีความสุขได้มากพออยู่แล้ว”
ห้องอันมืดมิดชวนให้รู้สึกหนาวเป็นพิเศษ ชาห์นคู้ตัวลง
จากนั้นพึมพำอออกมาอีกครั้ง
“กลับไปดีไหมนะ”
ชาห์นจ้องไปนอกหน้าต่างอยู่อย่างนั้นครู่หนึ่ง ก่อนจะลุกขึ้น
นางอยากเดินสักหน่อย
แอ๊ด
ประตูห้องของชาห์นถูกเปิดออก
“…แคลอฮัน?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]
น่าสนุก...