เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] นิยาย บท 56

SPIN-OFF บทที่ 56

ชาห์นกับแคลอฮันเดินจับมือกันเข้าไปในบ้าน

ห้องครัวและห้องนั่งเล่นแสนน่ารักที่มองเห็นได้ทั่วในครั้งเดียวต้อนรับทั้งสองคน

แสงแดดในยามเช้าส่องเข้ามาจนเต็มพื้นที่โล่งๆ ที่ยังไม่มีข้าวของใดๆ เพราะเป็นบ้านที่เพิ่งย้ายมาใหม่

แคลอฮันมองดูชาห์นกวาดสายตาไปทั่วบ้านนิ่งๆ แล้วกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ร้อนใจเล็กน้อย

“บ้านแคบใช่ไหมครับ? ถ้างั้นข้ามีบ้านพักตากอากาศที่อยู่แถวชานเมืองอีกหลังหนึ่ง…”

“ไม่ค่ะ ข้าชอบบ้านหลังนี้ค่ะแคลอฮัน”

“ค่อยยังชั่ว…”

แคลอฮันลูบหน้าอก

“เป็นเพราะรีบร้อนหาบ้านอย่างฉุกละหุก ในบ้านจึงยังไม่ค่อยมีอะไรเลยครับ เพราะฉะนั้นจากนี้ไป ชาห์นก็เติมเต็มบ้านด้วยของที่ชาห์นชอบ…ได้เลยนะครับ”

แคลอฮันพูดออกมาอย่างยากลำบาก ใบหน้าของเขาแดงขึ้นมาอีกครั้งด้วยความตื่นเต้น

“เดิมทีข้าไม่ได้ตั้งใจจะมอบกุญแจบ้านให้อย่างกะทันหันแบบนี้หรอกนะครับ ข้าตั้งใจว่าหลังจากเตรียมทุกอย่างเสร็จแล้วจนไม่เหลืออะไรให้ชาห์นต้องลำบาก ก็จะขอแต่งงานอย่างเป็นทางการ…อ๊ะ!”

แคลอฮันที่นึกถึงสิ่งที่ลืมไปขึ้นมาได้ระหว่างกำลังพูด เริ่มคุ้ยกระเป๋าที่วางอยู่บนพื้นอย่างบ้าคลั่ง

เขามั่นใจว่าเอามันใส่ไว้ตรงนี้นะ

บนปลายนิ้วที่ขยับอย่างร้อนใจพลันมีกล่องนุ่มๆ ใบเล็กติดขึ้นมา

“เจอแล้วครับ”

“คืออะไรเหรอคะ…?”

“ก็ไม่ใช่ของพิเศษอะไรหรอก…”

ของที่อยู่ด้านในกล่องคือแหวนทองคำบางๆ ที่มีอัญมณีสีม่วงฝังอยู่

แคลอฮันค่อยๆ สวมมันเข้าไปที่นิ้วนางของชาห์น

แหวนไม่ใหญ่เกินไป ไม่เล็กเกินไป สวมได้อย่างพอดิบพอดี

“ว้าว”

ดวงตาของชาห์นที่ไม่เคยนึกมาก่อนเลยว่าตนเองจะได้รับแหวนพลันเป็นประกายเหมือนเด็กน้อย

เมื่อเห็นภาพนั้น แคลอฮันก็ถูแหวนโดยไม่ได้พูดอะไร

“ไว้คราวหน้าข้าจะซื้อแหวนที่งดงามและดียิ่งกว่านี้ให้ชาห์นนะ”

พอได้เห็นชาห์นมีความสุขที่ได้รับของขวัญ เขาก็ยิ่งเกิดความโลภ

อยากจะมอบสิ่งที่ดียิ่งกว่านี้ให้นาง

“ในอนาคตไม่ว่าแคลอฮันจะมอบแหวนแบบไหนให้ข้า ข้าก็จะหวงแหนแหวนวงนี้ที่สุดอยู่ดีค่ะ”

ชาห์นส่ายหน้าพลางกล่าว

“ทั้งความตื่นเต้นตอนที่แคลอฮันขอข้าแต่งงาน ทั้งความอบอุ่นตอนที่เข้ามาในบ้านหลังนี้เป็นครั้งแรก แหวนวงนี้จะทำให้ข้านึกถึงเรื่องเหล่านั้นได้ในทุกครั้งที่ข้ามองมันค่ะ”

ชาห์นกวาดตามองภายในบ้านอีกครั้ง

จากนั้นสายตาของนางก็ไปหยุดอยู่ที่เก้าอี้ที่วางอยู่ข้างหน้าต่างนานเป็นพิเศษ

“วันที่พวกเราเข้ามาในบ้านหลังนี้ครั้งแรกถูกบรรจุไว้ในแหวนวงนี้ค่ะ”

“ชาห์น”

แคลอฮันร้องเรียกเบาๆ พร้อมกับที่จับศีรษะของนางมาให้หันมาอย่างอ่อนโยน

และก่อนที่นางจะได้รู้ตัวว่าตนเองถูกกอดอยู่ในอ้อมแขนของเขา ริมฝีปากก็แนบลงมา

ริมฝีปากที่เข้ามาใกล้อย่างกะทันหันร้อนจนน่าตกใจ

มันบดเบียดจนไม่เหลือช่องว่าง ก่อนจะผละออกไปเล็กน้อย แล้วบดขยี้ลงมาอีกครั้ง

“อืมม”

ความร้อนรุ่มที่พุ่งสูงขึ้นมาในพริบตาดั่งเปลวเพลิงที่ลามในหญ้าแห้ง ทำให้ชาห์นหายใจออกมาอย่างแรง แต่แคลอฮันก็กลืนกินมันไปทั้งหมด

ท่อนแขนอันแข็งแกร่งโอบร่างที่ซวนเซไปเล็กน้อยเพราะขาพลันไร้เรี่ยวแรงเข้ามาอย่างละโมบ

อีกนิด ใกล้เข้าไปอีกนิด

ลมหายใจที่สอดประสานกันทำให้ชาห์นรู้สึกมัวเมาจนมีแต่ความคิดที่อยากจะขยับเข้าไปใกล้เขาให้มากขึ้นเท่านั้น

ตึกตัก ตึกตัก

เสียงเต้นของหัวใจดังออกมาจากร่างที่แนบชิดกัน

แคลอฮันกล่าวขึ้นด้วยริมฝีปากที่ไม่ยอมผละออกจากกัน

“ใช่แล้วชาห์น จากนี้ไปที่นี่คือบ้านของพวกเรา”

ชาห์นพยักหน้าด้วยใบหน้าที่แดงก่ำไม่แพ้ลมหายใจอันร้อนรุ่น

นางชอบทุกอย่างที่อ้อมแขนของเขามอบให้

ความสุขอันล้นปรี่ทำให้ขอบตาที่เพิ่งจะแห้งไปกลับมาเปียกชื้นอีกครั้ง

แต่ก่อนที่น้ำตาจะไหลรินลงมา มือของแคลอฮันก็ช่วยเช็ดมันออกไปอย่างนุ่มนวล

“ข้ารักชาห์นนะ”

แคลอฮันกระซิบออกมาเสียงเบาก่อนที่จูบอันต่อเนื่องที่ยาวนานราวกับจะไม่แยกห่างกันจะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง

***

ช่วงเวลาที่แสนมีความสุขผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ชาห์นและแคลอฮันใช้เวลาในฤดูหนาวที่บ้านหลังใหม่ร่วมกันเป็นครั้งแรก

และในตอนที่สัมผัสได้ถึงสัญญาณช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิจากแสงแดดในยามเที่ยงวันของเมื่อวานนั้น

ข่าวการสวรรคตขององค์จักรพรรดิก็ถูกแจ้งมา

ในขณะที่แต่ละบ้านกำลังแขวนผ้าขาวเพื่อเป็นการแสดงความไว้อาลัย

บ้านหลังที่มีหลังคาสีแดงกลับมีบรรยากาศที่ต่างไปเล็กน้อย

แคลอฮันลูบซองจดหมายสีดำที่คนจากพระราชวังนำมาส่งให้เมื่อครู่นี้ด้วยสีหน้าสับสน

จดหมายที่ต่อให้ไม่เปิดออกดูก็ยังรู้ได้นั้น เป็นจดหมายแจ้งข่าวการสวรรคตที่ส่งมาจากองค์ชายรัชทายาทโยบาเนสที่กำลังจะขึ้นเป็นจักรพรรดิในอีกไม่ช้า

เขาไม่ได้ตัดความสัมพันธ์กับลอมบาร์เดียอย่างเป็นทางการ เพราะงั้นการได้รับจดหมายแจ้งข่าวจึงอยู่ในการคาดการณ์

แต่สิ่งที่ทำให้แคลอฮันรู้สึกวุ่นวายใจก็คือชื่อของผู้รับที่ถูกเขียนไว้หน้าจดหมาย

แคลอฮัน ลอมบาร์เดีย และภรรยา

ในเมื่อได้รับจดหมายแจ้งมาอย่างเป็นทางการ ชาห์นจึงจำเป็นต้องไปร่วมพิธีศพขององค์จักรพรรดิ

“นี่จะทำยังไงดี”

แคลอฮันลูบหน้าผากด้วยสีหน้าจนปัญญา

ขณะที่มองแผ่นหลังของชาห์นที่ขึ้นไปชั้นบนหลังจากบอกว่าต้องเตรียมชุดเดรสสำหรับใส่ไว้ทุกข์
ความกังวลของแคลอฮันก็ยังไม่หายไป
เขามั่นใจว่าคนอื่นๆ ในตระกูลลอมบาร์เดียก็จะต้องไปงานด้วย

นางเอียงขวดแก้วไปเหนือใบไม้ร่วงที่ยังเน่าเปื่อยไม่หมดในช่วงฤดูหนาว

พรู

เมล็ดของบอมเนียกระจัดกระจายไปทั่วสวนดอกไม้ของพระราชวังโฟอิรัค

หลังจากเก็บขวดที่เคยมีเมล็ดบอมเนียลงในกระเป๋า ชาห์นก็หมุนตัวกลับอย่างไม่ลังเล

รู้สึกปลอดโปร่งราวกับทำการบ้านที่สำคัญที่สุดเสร็จสิ้น

ชาห์นเดินกลับมายังรถม้าด้วยฝีเท้าเบาสบาย แล้วก็พบว่าแคลอฮันที่กลับมาแล้วกำลังตามหานางอยู่ด้วยใบหน้าซีดเผือด

“ชาห์น! ไปไหนมาครับ ข้าเป็นห่วงนะ”

“ข้ารู้สึกเหมือนเมารถม้านิดหน่อย ก็เลยไปเดินเล่นมาน่ะค่ะ เรียบร้อยแล้วเหรอคะแคลลี่”

“ครับ องค์รัชทายาทโยบาเนสเห็นหน้าข้าแล้ว พวกเรากลับกันได้แล้วละครับ”

แม้แต่ในขณะที่ตอบคำถาม มือของเขาก็ยังช่วยปัดเศษใบไม้ที่ติดอยู่บนชายชุดเดรสสีดำอย่างเป็นกังวล

“พวกเรารีบไปกันเถอะครับ”

แคลอฮันให้ชาห์นขึ้นไปบนรถม้าไปก่อน จากนั้นตามขึ้นไปนั่งลงด้านข้างนาง

“พอถึงบ้านแล้วก็อาบน้ำด้วยน้ำอุ่นๆ แล้วเปลี่ยนเป็นชุดที่ใส่สบายหน่อยนะครับ เดี๋ยวข้าจะทำชานมที่ชาห์นชอบไว้ให้”

“อย่าลืมใส่น้ำผึ้งให้ข้าเยอะๆ ด้วยนะแคลลี่”

“คิดว่าข้าไม่รู้ความชอบของชาห์นเหรอครับ? แล้วก็เดี๋ยวข้าจะนวดเท้าให้ชาห์นด้วยนะ วันนี้ชาห์นต้องใส่รองเท้าที่เดินไม่สบายทั้งวันเลยนี่นา”

“คอกับไหล่ด้วยนะคะ”

พอได้ยินชาห์นพูดราวกับบ่น ใบหน้าของแคลอฮันก็ฉาบย้อมไปด้วยความกังวลทันที

“ตายจริง ปวดมากหรือเปล่าครับ กลับถึงบ้านแล้วให้ข้าเรียกหมอดีไหมครับ”

“ไม่ใช่ ไม่ถึงขนาดนั้น…”

ชาห์นที่ส่ายหน้ายิ้มๆ จับมือของแคลอฮันพลางกล่าวว่า

“ข้าก็แค่รู้สึกอยากได้ความรักของแคลอฮันน่ะค่ะ”

“ชะ ชาห์น”

ทั้งที่ควรจะเคยชินได้แล้วแท้ๆ

การออดอ้อนของภรรยา ทำให้แคลอฮันเขินอายจนทำตัวไม่ถูก

เขาเคาะกำปั้นก๊อกก๊อกไปบนผนังในฝั่งที่สารถีนั่งอยู่

เป็นสัญญาณที่บอกให้ขับเร็วๆ หน่อย

“ฮ่าฮ่า!” ในที่สุดชาห์นก็ระเบิดหัวเราะออกมาเสียงดัง

แม้ใบหน้าของแคลอฮันจะยิ่งแดงขึ้น แต่มือที่สอดประสานกันอยู่นั้นกลับมั่นคงไม่ยอมปล่อย

“เฮ้อ”

ชาห์นถอนหายใจออกมาอย่างสดชื่นพลางพิงศีรษะลงบนหัวไหล่ของสามี

“รีบกลับกันเถอะค่ะ กลับบ้านของพวกเรา”

กลับไปยังที่พักอันเต็มไปด้วยช่วงเวลาอันเปี่ยมไปด้วยความสุขที่สุดในชีวิตของพวกเรา

ชาห์นค่อยๆ หลับตาลงด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]