เกิดใหม่เป็นหวางเฟยอัปลักษณ์ของท่านอ๋อง นิยาย บท 7

ซูหรูเสวี่ยได้ยินยิ้มแล้วพูดว่า"ขอบคุณท่านอ๋อง"

นางแค่เอ่ยขอบคุณ แต่ไม่ได้พูดว่าตัวเองจะไม่ก่อเรื่อง

ล้อกันเล่นรึไง วันกลับบ้านนางไม่หาเรื่องแล้วจะทำอะไร?

ซูหรูอวี้ลูกสาวอนุคนนี้ อาศัยตัวเองศิษย์สำนักเดียวกับลู่เป่ยหาน ลอบกัดลับหลังเจ้าของร่างเดิมมาแล้วเท่าไหร่? สุดท้ายเจ้าของร่างเดิมถูกแส้เฆี่ยนจนตาย ขาดการยุยงของซูหรูอวี้ไปไม่ได้

ตอนนี้ซูหรูเสวี่ยตั้งหน้าตั้งตาเฝ้ารอ ตอนนางพาลู่เป่ยหานกลับจวนกั๋วกง จะยั่วโมโหซูหรูอวี้ได้แค่ไหน

องครักษ์ข้างกายลู่เป่ยหานแอบมองซูหรูเสวี่ยเล็กน้อย เห็นนางยิ้มในใจก็รู้สึกหวาดผวา

เฮ้อ ต้องเป็นเพราะนางหน้าตาน่าเกลียด ยิ้มแล้วเหมือนผีแน่เลย

...

ที่ประทับของไหฺวอ๋อง

ลู่จื่อเฉิงกำลังนอนอยู่บ้านเก้าอี้ ใบหน้าซีดขาว ขาขวาที่ไม่ได้ฝั่งเข็มปวดอย่างรุนแรง

เขาเงยหน้ามองเห็นขึ้นซูหรูเสวี่ยเดินเข้ามาก็ตกใจ "ทำไมเจ้าไม่สวมผ้าคลุมหน้า!"

เจ้าของร่างเดิมหน้าตาน่าเกลียด หากต้องพบผู้คน แต่ไหนแต่ไรมาล้วนสวมผ้าคลุมหน้า ถึงขนาดจะไว้ปอยผมปิดบังหน้า

ในอดีตหากใครกล้าแตะต้องผ้าคลุมหน้าของนาง นางก็จะสู้ตายกับคนคนนั้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตัวเองถอดผ้าคลุมหน้าออกด้วยตนเอง นั่นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

ลู่เป่ยหานได้ยินลู่จื่อเฉิงพูดแบบนี้ ก็อึ้งไปเล็กน้อย

นางถึงกับยอมไม่สวมผ้าคลุมหน้าเชียวหรือ?

ซูหรูเสวี่ยกลับดูสงบ "ทำไม? ข้าไม่สวมผ้าคลุมหน้า ทำไหฺวอ๋องตกใจหรือ? งั้นขอโทษด้วย น่าเกลียดก็ต้องทนไว้"

พูดจบ นางเดินไปถึงข้างตัวไหฺวอ๋อง บีบขาของเขาแล้วพูดว่า "สวมผ้าคลุมหน้า ข้าจะฝั่งเข็มให้เจ้าได้อย่างไร? ยุ่งยากจะตาย?

ลู่จื่อเฉิงได้ยินถึงได้เม้มริมฝีปากด้วยความอึดอัด ไม่ส่งเสียงอีก

ซูหรูเสวี่ยว่า "ดูท่าผลลัพธ์จากครั้งก่อนไม่เลว วันนี้ก็ฝั่งเข็มที่สองแล้วกัน"

นางพูดอยู่ก็เหลือบมองฉินหรงข้างตัวไปที่ลู่เป่ยหานเอาแต่สำรวจนางอยู่แล้วก็ยิ้มเรียบๆ "ขอความกรุณาหลีกเลี่ยงสักครู่ เทคนิคการฝังเข็มของข้าเป็นความลับสุดยอด มิอาจเผยแพร่"

นางรู้จากความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมว่าฉินหรงคนนี้รู้ทักษะการแพทย์ หากนางอยู่ ตัวเองใช้วิธีพลังจิตเคล้นเข็มเล็กออกมา จะสามารถมองออกได้ง่าย

ฉินหรงขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์ แต่ช่วยไม่ได้ ตอนนี้เรื่องรักษาขาให้ไหฺวอ๋องถึงจะเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ดังนั้นถึงจะไม่พอใจแค่ไหน นางก็ทำได้เพียงถอยออกไป

ลู่เป่ยหานเป็นคนตาบอดทั้งซ้ายขวา จะอยู่ไม่อยู่ก็ไม่เป็นไร

ซูหรูเสวี่ยหยิบถุงฝังเข็มที่ตัวเองเตรียมไว้วางด้านข้าง เสแสร้งจับเข็มขึ้นมาเล่มหนึ่ง

ลู่จื่อเฉิงเห็นนางถือเข็ม ตัวก็เย็บเฉียบ "ครั้งนี้จะเจ็บเหมือนเมื่อวานไหม?"

พูดอยู่ เขาก็ปกป้องขาอย่างตึงเครียด “อย่างนั้นเจ้าอย่าเพิ่งรีบร้อน ให้เวลาข้าทำใจและเตรียมใจหน่อย "

เมื่อวานนี้เขาเจ็บเกือบตาย ยังดีตอนนั้นในปากยัดซาลาเปาลูกหนึ่งอยู่ ไม่งั้นเกรงว่าจะเจ็บจนกัดลิ้นตัวเองตายแล้ว

ซูหรูเสวี่ยยิ้ม "สบายใจได้ มีเพียงครั้งแรกที่เจ็บหน่อย หลังจากนั้นก็ไม่เจ็บแล้ว"

"มันเรียกว่าเจ็บนิดหน่อยที่ไหน..." ลู่จื่อเฉิงยังอยากบ่น แต่เห็นซูหรูเสวี่ยจริงจังทำหน้าจริงจัง เขาก็ไม่กล้าส่งเสียงอีก เอามือที่ปกป้องข้าออกอย่างหวาดกลัว

ซูหรูเสวี่ยเริ่มฝั่งเข็ม

ท่าทางนางจริงจัง เพราะพลังจิตจำเป็นต้องใช้สมาธิสูง ถึงจะทำออกมาได้ดี

พลังจิตติดอยู่กับเข็มเงิน แทงเข้าผิวหนังของลู่จื่อเฉิง ค่อยๆตามกล้ามเนื้อเข้าไปภายใน

ถึงแม้เขายังรังเกียจเรื่องที่ซูหรูเสวี่ยทำในอดีต แต่ตอนนี้ยังคงเพราะบุญคุณ พูดกับจากก้นบึ้งหัวใจว่า "ขอบคุณ"

ซูหรูเสวี่ยยิ้มจางๆ

ลู่จื่อเฉิงว่า "เจ้าเรียนทักษะการแพทย์มาจากใคร? ข้าจะไปกราบทูลเสร็จแม่ ประทานรางวัลอย่างงามให้พวกเจ้าอาจารย์และศิษย์ทั้งสองคน!"

ข้างนอก ลู่เป่ยหานและฉินหรงได้ยินเสียงร้องดีใจของลู่จื่อเฉิงก็เข้ามา มองซูหรูเสวี่ยแล้วพูดอย่างสืบเสาะ "ข้าก็อยากรู้เหมือนกัน อัจฉริยะระดับไหนสามารถสอนลูกศิษย์อย่างพระชายาออกมาได้"

ซูหรูเสวี่ยว่า "สำนักมีกฎ ออกประตูอยู่ข้างนอก ห้ามแจ้งชื่อเสียงอาจารย์ ทุกท่านโปรดอภัย"

พูดอยู่นางมองไปทางลู่จื่อเฉิง "หากพระสนมถามขึ้นมา ยังขอพระองค์บอกว่าโรคพิษเย็นนี้ฉินหรงเป็นคนรักษา ไม่เกี่ยวข้องกับข้า"

ลู่จื่อเฉิงรู้สึกแปลกใจ "เจ้ายกความดีและรางวัลให้คนอื่นง่ายๆแบบนี้หรือ? นี่เป็นโอกาสดีที่เจ้าจะกู้ชื่อเสียงได้เชียวนะ"

“ข้าช่วยเจ้า หากไปทูลขอรางวัล พระนางต้องรู้สึกข้าทำเพราะรางวัล คนข้างนอกก็คงคาดเดาแบบนี้ ในเมื่อในใจพวกเขา ข้าไม่ใช่คนดีอะไรอยู่แล้ว แล้วจะพูดว่ากอบกู้ชื่อเสียงได้อย่างไร?” ซูหรูเสวี่ยพูดอย่างเฉยเมย

คำเหล่านี้กลับทำให้ลู่จื่อเฉิงไม่รู้จะพูดต่ออย่างไรดี

ซูหรูเสวี่ยพูดอีกว่า "ยิ่งไปกว่านั้นข้าคนนี้ไม่ชอบโอ้อวด ช่วยแล้วก็คือช่วยแล้ว เจ้าและท่านอ๋องจำน้ำใจนี้ไว้ก็พอแล้ว ส่วนเรื่องชื่อเสียง คุณงามความดีและรางวัลตกไปอยู่ที่ใคร ข้าก็ไม่สนใจ"

ลู่จื่อเฉิงค่อนข้างแปลกใจ "คิดไม่ถึงจริงๆ เจ้าจะเป็นคนง่ายๆแบบนี้"

ซูหรูเสวี่ยยิ้มและพูดว่า "เรื่องที่เจ้าคิดไม่ถึงยังมีอยู่มากมาย"

ลู่เป่ยหานอยู่ข้างๆเงียบๆโดยไม่เอ่ยอะไร ในใจกลับรู้สึกซูหรูเสวี่ยมีเงื่อนงำบางอย่างอยู่

ไม่พูดถึงอดีตที่ไม่เคยได้ยินนางเรียนวิชาการแพทย์ อีกทั้งเรื่องนิสัยของนางที่ผ่านมา คนอื่นไม่ได้ดั่งใจนาง นางก็จะยกแส้ฟาดคน แล้วจู่ๆ จะมีลักษณะถ่อมตนอย่างตอนนี้ได้อย่างไร?

ลู่เป่ยหานคิดอยู่ อดถามไม่ได้ว่า "เจ้ายังมีแผนการอื่นอยู่ใช่หรือไม่"

ซูหรูเสวี่ยเห็นเขาสงสัย สีหน้าเย็นชาหลายส่วน "หากท่านอ๋องคิดเช่นนี้ งั้นโรคนี้ของไหฺวอ๋องข้าก็ไม่รักษาแล้ว ท่านอ๋องจะได้ไม่ต้องรู้สึกว่าข้ายังมีแผนอื่น ใช้การรักษาไหฺวอ๋องเป็นโล่ ความจริงแล้วอยากทำร้ายเขา ความผิดนี้ผู้หญิงตัวเล็กอย่างข้ารับไม่ไหว”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่เป็นหวางเฟยอัปลักษณ์ของท่านอ๋อง