ฝูหรงได้ยินก็ถอนหายใจโล่งอก
ขอโทษนี่เอง
ต่อมา นางได้สติเบิกตากว้างอย่างเหลือเชื้อ
ขอโทษ? !
ท่านอ๋องขอโทษคุณหนูของนางหรือ?
ฝูหรงตกใจอ้าปากค้าง แต่ซูหรูเสวี่ยกลับยกมุมปากยิ้มเยาะ แสร้งพูดอย่างตกใจว่า "ท่านอ๋องขอโทษข้าหรือ? พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกหรอ ทำให้ข้าตกใจที่ได้รับความเอ็นดู"
ลู่เป่ยหานกระตุกมุมปาก กำมือเป็นกำปั้น เห็นชัดว่ามีความโกรธอยากระบาย กลับปะทุออกมาไม่ได้
เขากัดฟันกรามแน่นพูดว่า "ข้ามีเรื่องจะคุยกับเจ้า"
“โอ้?”ซูหรูเสวี่ยยักคิ้ว “เรื่องอะไร?”
ลู่เป่ยหานสะกดความโกรธพูดว่า "จื่อเฉิงได้สติแล้ว ยากจะทนต่อความเจ็บปวด เจ้าไปช่วยเขาฝั่งเข็ม"
พูดอยู่ กลัวว่าซูหรูเสวี่ยไม่รับปาก เขาชิงข่มก่อน "เมื่อวานเจ้าทุบจื่อเฉิงบาดเจ็บ วันนี้ถือว่าความดีชั่วหักล้าง"
“จื่อเฉิงจิตใจดี กดเรื่องนี้ไว้ไม่ให้ข่าวรั่วไหล ไม่อย่างนั้นด้วยวิธีการของหวงกุ้ยเฟย เมื่อวานเจ้าทุบเขา เจ้าคงตายในคืนนั้นแล้ว!”
“จื่อเฉิงช่วยชีวิตเจ้าหนึ่งชีวิต ไม่ขอเจ้าตอบแทนดั่งสายธาร อย่างน้อยอาการที่ขาของเขา เจ้ารับปากว่ารักษาได้ในสี่เข็ม อย่างนั้นก็ไปรักษาให้เขา”
อันที่จริง เดิมนางก็คิดจะไปรักษาลู่จื่อเฉิงให้หาย
ถึงแม้ลู่เป่ยหานไม่มาขอร้องนาง ขอแค่อีกฝ่ายยอมรับฝีมือการแพทย์สูงส่งของนาง อาการป่วยของลู่จื่อเฉิงนอกจากนางแล้วไม่มีใครรักษาได้ นางก็ดีใจแล้ว!
แต่คำพูดตอนนี้ของลู่เป่ยหาน ฟังแล้วนางรู้สึกอึดอัดจริงๆ นางจึงพูดว่า "ท่านอ๋องพูดอย่างนี้คือกำลังยกย่องข้า"
“ความชังที่ไหฺวอ๋องมีต่อข้า ข้าล้วนเห็นในสายตา ท่านบอกว่าเพื่อข้าเขากดเรื่องนี้เอาไว้ แต่ข้ากลับรู้สึก เขาทำไปเพื่อท่านอ๋อง”
“ท่านอ๋องสูญเสียมารดาตั้งแต่เยาว์วัย ตั้งแต่เด็กถูกเลี้ยงในอ้อมอกหวงกุ้ยเฟย มีความสัมพันธ์อันดีกับไหฺวอ๋อง ข้าได้ยินว่าไหฺวอ๋องติดตามท่านออกรบ กลับมาขาพิการ หวงกุ้ยเฟยยังเพราะเรื่องนี้โกรธท่านอยู่นาน”
"ตอนนี้ความสัมพันธ์ของท่านกับพระสนมถึงทางตัน หากพระนางรู้ว่าไหฺวอ๋องได้รับบาดเจ็บในจวนอ๋อง ท่านอ๋องคงเลี่ยงความยุ่งยากไม่ได้กระมัง?"
สีหน้าของลู่เป่ยหานขรึมลงหลายส่วน
คิดไม่ถึงว่า ซูหรูเสวี่ยคนนี้ปราดเปรื่องกว่าที่เขาคิดไว้ คำพูดเหล่านี้ก็มิอาจขู่ให้นางได้
ซูหรูเสวี่ยยิ้มจางๆแล้วพูดว่า "ข้าไม่กลัวว่าเรื่องแพร่ออกไป ถึงอย่างไรตอนนี้มีเพียงข้าคนเดียวที่แก้พิษเย็นของไหฺวอ๋องได้ พระสนมจะอย่างไร จะจัดการข้าถึงตายได้หรือไม่ ส่วนจุดจบของท่านอ๋องเป็นเช่นไร ข้าก็ไม่กล้ารับประกันแล้ว”
นางไม่เพียงไม่ถูกข่มขู่ ถึงขนาดโต้กลับไปได้!
ลู่เป่ยหานหนักใจ
บุญคุณความแค้นระหว่างเขาและซูหรูเสวี่ยมีมากมาย ต่างฝ่ายต่างรังเกียจซึ้งกันและกัน หากนางไม่ไปรักษาลู่จื่อเฉิงตอนนี้ เขาก็ทำอะไรไม่ได้
ซูหรูเสวี่ยประเมินลู่เป่ยหานอยู่ตลอด เห็นเขาไม่ได้แข็งกระด้างเหมือนเมื่อครู่ นางถึงลุกขึ้นแล้วพูดว่า "ไปกันเถอะ"
ลู่เป่ยหานแปลกใจ "เจ้ายินดีไปรักษาเขา?"
เขายังคิดว่าหลังจากนางพ่นไฟจบก็ไม่ยินดีขยับตัวแล้ว
“เรื่องชีวิตคนสำคัญเท่าฟ้า ไหนเลยจะเพิกเฉยได้จริงๆ? ที่จริงเมื่อครู่หากท่านแสดงท่าทีดีหน่อย ตอนที่ท่านพูดข้าก็ไปกับท่านแล้ว”
ซูหรูเสวี่ยพูด "ข้าหักล้างคำพูดเหล่านั้นของท่าน ก็เพื่อให้ท่านจำเอาไว้ คนอื่นยินดีช่วยท่าน ท่านพูดขอบคุณก็จบแล้ว วางท่าทำไม? เวลาที่เราคุยกัน น้องชายท่านเจ็บจะตายอยู่ในห้อง ท่านมีความสุขหรือ?”
ลู่เป่ยหานเม้มริมฝีปากพูดไม่ออก
มิฉะนั้นเขามักจะรู้สึกเหมือนตัวเองติดค้างนาง
ซูหรูเสวี่ยได้ยินก็ยกมุมปากยิ้ม
ที่นางรอก็คือประโยคนี้แหละ!
ในที่สุดนางก็เข้าใจแล้วว่า ถึงแม้ลู่เป่ยหานมีตำแหน่งอ๋อง แต่ก็นับว่ามีเหตุผลอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นตนเองช่วยไหฺวอ๋อง งั้นก็คือเขาติดค้างน้ำใจนางใหญ่หลวง ด้วยนิสัยของเขา น้ำใจนี้ต้องคืนแน่นอน
ในที่สุดซูหรูเสวี่ยก็คว้าโอกาสไว้จึงพูดว่า "วันมะรืน ท่านอ๋องกลับบ้านไปพร้อมข้า"
ผู้หญิงในสมัยโบราณหลังจากแต่งงานสามวันก็ต้องกลับบ้านฝ่ายหญิงหนึ่งครั้ง และในวันที่กลับบ้านสามีอยู่เคียงข้างด้วยหรือไม่นั้นเกี่ยวพันถึงหน้าตาและตำแหน่งของผู้หญิง เหล่าผู้หญิงที่ไม่เป็นที่รัก วันกลับบ้านไม่มีคนเคียงข้าง ปลายทางก็คือทั้งบ้านแม่และบ้านสามีก็ไม่ให้ความสำคัญนาง
ซูหรูเสวี่ยยังจำได้ฝูหรงเคยพูดว่า ในจวนกั๋วกงพ่อของเจ้าของร่างเดิมกำลังหาเรื่องยกอนุภรรยาเป็นภรรยารอง ครั้งนี้ตนเองกลับบ้านหากมิอาจอาศัยอำนาจของลู่เป่ยหานสนับสนุน งั้นชีวิตหลังจากนี้ของมารดาในจวนจะทำอย่างไร?
ในเมื่อนางเกิดใหม่แล้ว ต่อไปนางก็คือซูหรูเสวี่ย ทั้งเกียรติและอัปยศของมารดาก็เกี่ยวพันกับนางแนบแน่น นางไม่อาจยืนมองมารดาสูญเสียตำแหน่งในจวนกั๋วกง
นางไม่รู้ว่าต่อไปยังต้องอยู่ในยุคผีนี้อีกนานแค่ไหน ฐานะลูกสาวสายตรงของจวนกั๋วกงก็เป็นหลักประกัน นางต้องรักษาไว้ให้ได้
ที่นางรับปากรักษาโรคไหฺวอ๋องก็เพราะ นางต้องการใช้เรื่องนี้ให้ลู่เป่ยหานติดค้างน้ำใจนาง
ปากนางจะพูดว่าช่วยชีวิตหนึ่งคนยิ่งกว่าสร้างเจดีย์เจ็ดชั้น แต่ไฉนเลยนางจะใจดีขนาดนั้น?
ทั้งหมดที่นางทำก็เพื่อตัวเองสามารถมีชีวิตที่ดีที่นี่
ลู่เป่ยหานเมื่อได้ยินคำขอของนาง ก็หยุดเดิน ขมวดคิ้วมองนาง "กลับบ้าน?"
ซูหรูเสวี่ยพยักหน้า "ทำไม? หรือท่านอ๋องไม่อยาก? แต่ท่านพูดเองให้ข้าขอร้องได้หนึ่งเรื่อง ข้าขอแล้วท่านไม่ร่วมมือ นี่มันคือการกลับกลอก"
"ข้าไม่ได้บอกว่าจะไม่ร่วมมือ" ลู่เป่ยหานว่า "ขอเพียงเจ้าไม่สร้างปัญหา กลับบ้านกับเจ้ามีอะไรที่ทำไม่ได้"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่เป็นหวางเฟยอัปลักษณ์ของท่านอ๋อง
คำโปรยก็นามสนุกแล้ว...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะะะะ...