เห็นทิศทางที่เซียวหรานกำลังเดินไป เหล่าทายาทเศรษฐีพลันเงียบปากลงกันอย่างหน้าแหก สีหน้าเหมือนแข่งกันตกตะลึง
ณ ตอนนี้ เพลงที่สองของงานก็เริ่มถูกบรรเลงขึ้น ผู้คนที่ล้อมรอบเหลิงหยุนฉีค่อยๆแยกย้ายกันไปไม่น้อย คนส่วนใหญ่เริ่มเต้นกันที่ฟลอร์เต้นรำ ใครจะคาดคิดว่าทันใดนั้น ผู้ช่วยของเฉียวหยู่โม่ หลัวจิ้นก็ถือโทรศัพท์เดินมา ก่อนจะยื่นให้เฉียวหยู่โม่อย่างนอบน้อม “คุณชายเฉียว โทรศัพท์ครับ”
เฉียวหยู่โม่ปรายตามองสายเรียกเข้าแวบหนึ่ง คือเบอร์โทรจากฝั่งอเมริกา
เหลิงหยุนฉีเห็นเฉียวหยู่โม่ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย พลันหันไปมองรอบๆ ก่อนจะชี้ไปยังระเบียงดาดฟ้าที่อยู่ไม่ไกล “ตรงนั้นคนน้อย คุณชายเฉียวไปคุยโทรศัพท์ตรงนั้นก็ได้ค่ะ”
ก่อนที่เธอจะเกิดใหม่ เธอไม่มีโอกาสแม้แต่จะเข้าใกล้คนอย่างเฉียวหยู่โม่เลยด้วยซ้ำ ทว่า เธอกลับเคยพบกับหลัวจิ้น ที่เป็นผู้ช่วยของเขาครั้งหนึ่งโดยบังเอิญ คนคนนี้หลักแหลมและรอบคอบ ถึงขั้นต้องมาหาเฉียวหยู่โม่รับสายอย่างเร่งด่วนขนาดนี้ ต้องไม่ใช่เรื่องเล็กอะไรแน่ ๆ
เฉียวหยู่โม่มองไปยังทิศทางที่เธอชี้แวบหนึ่ง แล้วพยักหน้า
หลัวจิ้นขอบคุณเธอด้วยสีหน้าซาบซึ้ง ก่อนจะตามเจ้านายไปยังระเบียง จากนั้นก็ยืนเฝ้าด้านนอก ป้องกันไม่ให้คนอื่นมาขัดเฉียวหยู่โม่คุยโทรศัพท์
เหลิงหยุนฉีกำลังจะไปเอาน้ำผลไม้ที่โซนอาหาร ใครจะคาดคิด ว่าทันใดนั้น จู่ ๆก็มีไวน์แก้วหนึ่งถูกยื่นมาที่ข้างๆ
เธอชะงักฝีเท้า หันหัวไปมอง ก่อนจะเห็นใบหน้าหล่อเหลาของเซียวหรานปรากฏแก่สายตา
เสียงครึกครื้นที่อื้ออึงพลันชะงัก จากนั้น ก็กลับมาเป็นดังเดิมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทว่า เหลิงหยุนฉีรู้สึกได้อย่างชัดเจน แม้จะเป็นแขกเหรื่อที่กำลังเต้นอยู่ในฟลอร์เต้นรำ แต่ก็ยังมีสายตาไม่มากก็น้อยที่กำลังจับจ้องมาที่เธอ
เพราะเมื่อกี้ เธอหักหน้าเซียวหรานเกินไปจริงๆ แม้แต่คำพูดปฏิเสธอ้อมค้อมก็ไม่ได้เอ่ยออกมาสักคำ
“วันนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ทำไมรู้สึกว่าคุณชายเซียวกำลังประจันหน้ากับเหลิงหยุนฉียังไงอย่างงั้น?”
“ฉันได้ยินมาว่า แต่ก่อนมีแต่เหลิงหยุนฉีตามตื้อคุณชายเซียวอยู่ฝ่ายเดียว ทำไมวันนี้ถึงสลับกันได้?”
“เมื่อกี้ที่เหลิงหยุนฉีบอกว่าแต่ก่อนตัวเองติดเล่นไม่รู้ประสีประสาอะไร คงไม่ได้หมายความถึงอันนี้หรอกใช่ไหม?”
การกระทำของเซียวหรานทำให้คนต้องมองตาม ดังนั้น พวกแขกเหรื่อในงานจึงต่างอดกระซิบหารือกันเสียงเบาไม่ได้ สายตาจดจ้องไปยังเหลิงหยุนฉีและเซียวหรานไม่วางตา กลัวว่าตัวเองจะมองพลาดไปแม้แต่จุดเดียว!
จางหมินที่ยืนดูอยู่ไม่ไกล ก็เผยสีหน้ากังวลเล็กน้อย
ในวงการธุรกิจ ทุกคนต่างให้ความสำคัญกับความปรองดองมาโดยตลอด อีกทั้งวันนี้ตระกูลเหลิงเองก็เป็นเจ้าภาพ จึงไม่อาจหักหน้าตระกูลเซียวได้
เหลิงหยุนฉีส่งยิ้มให้แม่ตัวเอง บอกนัยๆว่าเธอจัดการเองได้ จากนั้นก็หันไปมองเซียวหรานด้วยสีหน้าแต้มยิ้มสดใส “พี่เซียวหราน มาหาหนูมีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ?”
เธอพูดไปพลาง รับไวน์ที่เขายื่นมาให้ไปพลาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่เป็นนางร้าย เอ๊ย! นางเอก