ไม่เพียงแต่โจวหยุน เท่านั้น แต่นักธุรกิจทุกคนที่รออยู่ห่างไกลก็ตกตะลึง!
พวกเขาไม่เคยเห็นประธานเซียว ใส่ใจผู้หญิงคนไหนมาก่อนเลย
ยิ่งกว่านั้น “พี่เซียวหราน” .....
ไม่ว่ายังไง คำเรียกนี้ดูเหมือนว่าทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่พิเศษ แต่ท่าทีของผู้หญิงคนนั้น ก็ดูไม่เหมือนว่ามีความสัมพันธ์พิเศษอะไร
พวกเขาเคยชินกับการเห็นผู้หญิงที่อยากจะพุ่งเข้าหาประธานเซียว แต่เมื่อมาเจอแบบนี้ พวกเขาตะลึงมากจริงๆ!!
เหลิงหยุนฉีถือบัตรห้องเอาไว้และมองไปที่ เซียวหรานอย่างสงบโดยไม่มีร่องรอยของความตื่นตระหนก ในทางกลับกัน เธอพูดอย่างเงียบ ๆ ด้วยน้ำเสียงคล้ายกับถอนหายใจว่า " ฉันเรียนรู้จากบทเรียนยังไงล่ะ? การค้นหายอดฮิตในครั้งนี้มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้น สุดท้ายแล้วเรื่องก็เกิดจาก การที่พี่สาวเซกซี่นั่นรู้สึกว่าฉันและพี่เซียวหรานสนิทกันเกินไป จึงจงใจใส่ร้ายฉัน แม่ของฉันเองก็ยังบอกอีกว่าวันก่อนหน้านี้ฉันไม่รู้จักรักษาระยะห่าง ต่อไปในเมื่อจะบริหารธุรกิจ ทางที่ดีคือแบ่งแยกเรื่องส่วนตัวและเรื่องงาน อย่างนั้น คนอื่นๆก็จะวิจารย์
ถ้าไม่ใช่เพราะมีคนอื่นๆอยู่ด้วย โจวหยุนคงจะกระโดดขึ้นอย่างชอบใจและปรบมือให้เหลิงหยุนฉีพี่สาวน้องสาว!
เพื่อนฉัน!
ยอดเยี่ยม!
กลการโยนความผิดนี้ เธอไม่เคยเห็นใครใช้มันได้ดีกว่าเพื่อนตัวเองแล้ว
เป็นไปตามคาด เมื่อเหลิงหยุนฉีเอ่ยถึงว่าเป็นความผิดของเลขา เซียวหรานไม่ได้ถามต่อ เพียงแต่เกร็งสีหน้าเล็กน้อย
ฉลาดเฉลียว ตอบสนองฉับไว!
ก่อนหน้านี้เธอมักจะพูดตรงไปตรงมา แต่ตอนนี้ เธอใช้คำพูดที่ธรรมดาที่สุดเพื่อเปิดโปงอย่างตรงที่สุด!
เซียวหรานมองดูเธออย่างเงียบ ๆ
ก่อนหน้านี้ ที่งานเลี้ยงวันเกิด คิดเพียงแค่ว่าจางหมินนั้นรักลูกมากเกินไป ไม่คาดคิดว่าจะเอาบริษัทให้เธอเล่น แต่ตอนนี้เหมือนว่าเขาเองจะมองไม่ออกซะเอง
คำพูดของเธอดูเหมือนจะพูดถึงปัญหาที่เกิดจากซุนหยาน แต่เธอใส่ชื่อแม่ของเธอลงไปด้วย ซึ่งสื่ออย่างชัดเจนว่าเรื่องนี้ผู้ใหญ่ที่บ้านรับทราบแล้ว ก่อนหน้านี้ตอนที่นายท่านของตนตรวจสุขภาพ เพราะเขาเร่งรีบเลยตะคอกใส่นาง ทำให้สีหน้าของจางหมินแย่ลงอย่างมาก ตอนนี้...
ฟังน้ำเสียงของเธอ จางหมินอยากให้เธอและตนนั้นแบ่งแยก “เรื่องส่วนตัวและเรื่องงาน” ซะเลย!
“ประธานเซียว…”
เมื่อเห็นว่ามันสายมากแล้ว นักธุรกิจที่รออยู่ก็เรียกด้วยความเกรงกลัว
“ไปกันเถอะ” เขาไปโดยไม่ชักช้า พยักหน้าเล็กน้อยต่อเหลิงหยุนฉี จากนั้นก็หันหลังเดินจากไป!
ไม่ต้องรีบร้อนหรอก!
รอรายงานผลสอบสวนของโรงพยาบาลเมืองหลวงออกมา เขาจะตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรต่อไป! เขาไม่เชื่อหรอกว่า เธอจะสามารถหนีไปจากกำมือของตนได้
ในเมื่อเธอจะทำธุรกิจ ในวงการนี้ ต้องมีสักวันหนึ่งที่เธอต้องร้องขอความช่วยเหลือจากเขา!
จนกระทั่งเซียวหรานและกลุ่มคนเหล่านั้นเดินหายไปแล้ว โจวหยุน จึงถอนหายใจด้วยความโล่งอกและหยิบบัตรห้องจากมือเหลิงหยุนฉี และขึ้นลิฟต์ไปอย่างสง่า มุ่งตรงไปที่ห้องของเธอ
“ทำไม???เธอรีบร้อนอะไร?” เหลิงหยุนฉีมองเธอลากกระเป๋าเดินทางตัวเองเหมือนลากล้อหมุน จึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่เป็นนางร้าย เอ๊ย! นางเอก