เหลิงหยุนฉีเปิดประตู ประตูกรรไกรค่อยๆยื่นขึ้นไปในอากาศ คนกลุ่มนั้นก็รายล้อมขึ้นมา
“เชี่ย! รถนี้ดูใกล้ๆ มันเหมือนกับงานศิลปะ!” จือหมิงดูตื่นเต้น สายตาตรงไปที่สีกระจกนั้น ภายใต้แสงแดด รถคันนี้แห้งสนิท
“สบายใจได้ ขับมาก็ให้พวกนายเล่น ไม่ต้องเป่าขนาดนั้น กุญแจให้พวกนาย” เหลิงหยุนฉียิ้มแล้วโยนกุญแจให้เขา ดึงโจวหยุนเดินไปที่อัฒจันทร์
สนามแข่งแห่งนี้ หลังจากที่จือหมิงได้รับสายของเหลิงหยุนฉี ก็ทำการจองไว้ในทันที คราวนี้ก็เป็นสถานที่สงวน และไม่มีบุคคลภายนอกเข้ามา
เมื่อเห็นเหลิงหยุนฉีโยนกุญแจให้อย่างใจกว้างขนาดนี้ จือหมิงเป่านกหวีด: “สุดยอดไปเลย!”
“จุ๊ๆๆ! นายตีสองหน้า เมื่อวานก็ไม่รู้ว่าใครบอกตรงหน้าของฉันว่า หยุนฉีเข้ารักษาในโรงพยาบาล ก็เหมือนกับเปลี่ยนเป็นคนละคนกัน ทำไมตอนนี้เริ่มเลียแข้งเลียในทันที?” ลั่วจือเพื่อนแท้ที่เปิดก้นมาตั้งแต่เด็กกับเขา ต่อหน้าของเหลิงหยุนฉี อดไม่ได้ที่จะล้อเขา
“เลียบ้าไร!” จือหมิงไม่ได้รู้สึกอับอายแต่รู้สึกมีเกียรติ: “มีความสามารถ เดี๋ยวนายไม่ต้องลองรถ!”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ทุกคนที่อยู่ข้างๆก็หัวเราะทั้งหมด เห็นลั่วจือและจือหมิงแกล้งท่าทางPKในชีวิตจริง ทุกคนก็หลีกสนามให้กับพวกเขา และนั่งบนภูดูเสือกัด
เมื่อถกเถียงกันได้พอสมควร จือหมิงและลั่วจือให้คนอื่นไปลองรถก่อน เอาน้ำแร่สองขวดให้หยุนฉีกับโจวหยุน พิงราวกับราวกันตก ดูสนามแข่งวิ่งไปด้วย และพูดคุยกับหยุนฉีไปด้วย: “แต่ว่าพูดจริงๆ หลังจากที่เธอออกจากโรงพยาบาล วันๆทำอะไร? แทบจะไม่ได้เจอเธอเลย”
เหลิงหยุนฉีดื่มน้ำ ยักไหล่: “เป็นทายาทตระกูลดีๆ มีทรัพย์สินหลายร้อยล้านอยู่กับตัวนะสิ กดดันเป็นอย่างมาก”
จือหมิงและลั่วจือนิ่งอึ้งก่อน จากนั้นหัวเราะออกมา: “พอเถอะ ด่าลดคุณค่าของตัวเอง ไม่ต้องพูดถึงคุณปู่ของเธอและคุณตาของเธอ เพียงแค่จางซื่อ ก็มีทรัพย์สินนับแสนล้านถือว่าน้อยเกินไปที่จะพูด”
หยุนฉีโบกมือด้วยรอยยิ้ม: “ฉันก็ต้องเรียกรู้จากผู้อาวุโสไม่ใช่เหรอ ทำตัวอ่อนน้อม ทำงานทะยานสูง”
ได้ยินเธอพูดแบบนี้ จือหมิงและลั่วจือก็หัวเราะจนร่างกายบิดเบี้ยว หัวเราะจนกรามแทบตก: “ทะยานสูงมาก ภายในหนึ่งอาทิตย์ ถูกคนโพสต์ขึ้นข่าวหน้าแรกบนโลกออนไลน์สองครั้งเนี่ยนะ ไม่รู้ ยังคิดว่าตระกูลของเธอเป็นคนสร้างข่าว อยากจะครอบครองพาดหัวข่าวไหนก็ครอบครอง”
“เกินไปแล้วนะ” เหลิงหยุนฉีอดไม่ได้ที่จะมองดูพวกเขาแวบหนึ่ง
“แต่พูดตามตรงนะ ครั้งนั้นที่เธอขึ้นเทรนด์กับ คุณชายเฉียว ทั้งตระกูลของฉันก็ตกตะลึง ไม่ได้พูดโอเว่อร์เลยนะ!” จือหมิงอดไม่ได้ที่จะขยิบตา: “แม่ฉันเธอรู้จักใช่มั้ย สำรวมกิริยามาแต่ไหนแต่ไรมา วันๆให้ฉันไปฝึกบริหารโรงแรม ฉันแอบอู้งานมาเที่ยวเตร่ทุกครั้ง เธออับอายขายหน้าเป็นอย่างมาก! วันนั้นเห็นรูปคู่ของเธอและ คุณชายเฉียว ทนจนใบหน้าไม่พอใจ หันหน้ามาถามฉันว่า เธอทำคุณไสยให้กับ คุณชายเฉียวหรือเปล่า เฉียวซื่อไม่เคยหลุดจากการขึ้นเทรนด์ ทำให้มันขึ้นอยู่นานขนาดนั้น”
ก่อนหน้านี้ตอนที่ไม่รู้ตัวตนของเฉียวหยู่โม่ โจวหยุนแค่แซวเป็นการส่วนตัวว่าเทพบุตรคนนั้นเป็น“คู่แท้”ของเพื่อนเธอ ตอนนี้ได้ยินเสียงซุบซิบของทายาทมหาเศรษฐีในท้องถิ่น อดไม่ได้ที่เงี่ยหู เต็มไปด้วยความตื่นเต้น
ใช่มั้ย!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่เป็นนางร้าย เอ๊ย! นางเอก