“พวกคุณยังจะลองแข่งอีกไหม?” เหลิงหยุนฉีหยิบกุญแจรถขึ้นมา แล้วมองทุกคนด้วยสีหน้าราบเรียบ
พวกคุณอยากเผือกนักเหรอ
ขอโทษที ช่วยไม่ได้!
เดิมทีจือหมิงคิดจะเป็นคนนำในการก่อกวน แต่เมื่อเห็นดวงตาของเธอกวาดไปมาอย่างเย็นชา ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ทำให้เขารู้สึกขนลุกอีกครั้ง
ไม่สามารถยั่วยุได้ ไม่สามารถยั่วยุได้!
ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าเธอพัฒนาทักษะการแข่งรถได้อย่างไร แต่เขาดูสายตาของเธอออก
“มา มา มา! คนที่คันไม้คันมือก็รีบมาเลย พลาดแล้วพลาดเลยน่ะ” จือหมิงตะโกน ทุกคนก็ไม่กล้าทำอะไรเกินขอบเขต หันเหความสนใจทันที
ความจริงแล้ว เพื่อให้มั่นใจเรื่องค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานบนพื้นดิน ซึ่งปกติทั่วไปแล้วลู่แข่งรถดังกล่าวจะทำให้ยางเกิดการสึกหรอมาก
รถเวเนโน่ของเหลิงหยุนฉี คันนี้แพงเป็นอันดับสอง แต่ประเด็นสำคัญคือมีน้อยมากและค่อนข้างหายาก!
ซึ่งในประเทศมีเพียงคันเดียวเท่านั้น! นัดออกมาเล่นให้สนุกสักครั้งก็พอแล้ว มิฉะนั้น เรื่องการบำรุงรักษารถนั้นเป็นปัญหาใหญ่เช่นกัน
ตามคำกล่าวที่ว่า “เมื่อได้ผลประโยชน์จากคนอื่นแล้ว เราก็ต้องเกรงใจคนอื่น” ถึงแม้ว่าตอนนี้สมองของทุกคนจะเต็มไปด้วยความคิดไม่ค่อยดี แต่ตอนนี้พวกเขาก็อายเกินกว่าที่จะกล่าวออกมา ดังนั้นพวกเขาจึงรีบไปทดสอบรถทีล่ะคน
โจวหยุนเป็นคนเดียวที่ไม่ได้เป็นสมาชิกของคลับรถ เธอจึงลองนั่งที่นั่งข้างคนขับสักครั้ง ซึ่งทุกคนแนะนำให้เธอนั่งกับลั่วจือ เพราะพวกเขาบอกว่าลั่วจือขับรถได้เสถียรที่สุดในคลับรถ
แต่สุดท้าย เธอเกือบจะอาเจียนออกมา! ! !
หลังจากเธอลงจากมาจากรถแล้ว เธอนั่งอยู่บนพื้นด้วยใบหน้าขาวซีด ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับรูปลักษณ์ที่มีชีวิตชีวาเมื่อสักครู่
เธออยากจะถามเหลิงหยุนฉีว่าเมื่อสักครู่เธอขับรถเร็วขนาดนี้ได้อย่างไร! ! !
เพราะเธอตกใจจนวิญญาณแทบออกจากร่าง!
เหลิงหยุนฉียืนพิงราวแล้วมองด้วยความขบขัน และดื่มน้ำไปด้วย ส่วนจืออวี่ก็ไม่ได้รบกวนเธอ
เพียงแต่สายตาของเขายังคงจ้องมองใบหน้าของเธออยู่ตลอดเวลา
จนกระทั่งจือหมิง ทดสอบรถเป็นคนสุดท้าย เขาขับไปหนึ่งรอบ มองนาฬิกาจับเวลา นั่งบนพื้นด้วยใบหน้าที่สลับซับซ้อน และไม่ขยับเขยื้อน
“สถิติของนายเป็นสถิติดีที่สุดในประวัติศาสตร์แล้ว ตอนนี้นายจะโพสต์ถ่ายรูปท่าไหนดี? ทำไมเหรอ? หรือนายอดไม่ไหวที่จะเงยหน้ามองท้องฟ้าในมุมสี่สิบห้าองศาแล้ว” ลั่วจือที่อยู่ด้านข้างวางแขนตนเองบนไหล่ของเขา ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นการพูดประชด
“ฉันกำลังโศกเศร้าอยู่! โศกเศร้าเข้าใจไหม??? เวลาที่ดีขนาดนี้ ฉันไม่คู่ควรที่จะมีอีกต่อไปแล้ว แล้วนายคิดว่าฉันควรจะโศกเศร้าไหม!!!” จือหมิงรู้สึกโมโหจนอยากจะต่อยเพื่อนอีกครั้ง
เมื่อสักครู่เรื่องที่ไอ้หมอนี้เป็นคนจับเวลาให้เหลิงหยุนฉีแล้วลืมกดหยุดเวลา ตนเองยังไม่ได้คิดบัญชีกับเขาเลย ตอนนี้ยังกล้ามาพูดประชดตนเองอีก!
“งั้นนายก็ซื้อรถที่เหมือนกับหยุนฉีสิ” ขณะที่ลั่วจือแนะนำความคิดนี้ให้เขา ก็กลั้นหัวเราะไปด้วย
เป็นจริงอย่างที่คาดไว้ จือหมิงระเบิดอารมณ์ออกมาทันที!
“นายคิดว่าแม่ของฉันเป็นรูปปั้นเหรอ? รถเวเนโน่ที่เหลืออีกสองคัน ถูกคนเก็บสะสมอยู่ที่ต่างประเทศแล้ว และฉันก็หาผู้ขายไม่เจอเลย ถ้าฉันซื้อกลับจริง ๆ แม่ของฉันต้องให้ฉันคุกเข่าจนถึงวันโลกแตกแน่!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่เป็นนางร้าย เอ๊ย! นางเอก