มู่จื่อเหยี่ยนที่นอนจมอยู่กลางกองเลือดฟื้นขึ้นมา
ขณะที่นางลืมตาขึ้นมา ตรงหน้าปรากฏแสงสีแดงเข้มทำให้ตาพร่ามัวไปชั่วขณะ บนชุดแต่งงานสีแดงชาดมีคราบโลหิตสีแดงสดติดอยู่ เกี้ยวแต่งงานที่โคลงเคลงไปมาไม่หยุด ทำให้นางรู้สึกเหมือนตกอยู่ในภวังค์
ที่นี่คือที่ใดกัน?
ไม่รอให้นางได้ตั้งสติ ทันใดนั้นด้านนอกเกี้ยวก็มีเสียงแหลมเสียดหูดังเข้ามา
“เกิดเรื่องใหญ่แล้ว เจ้าสาวตายแล้ว!”
จากนั้นหญิงรับใช้สูงวัยหลายคนก็พากันกรูเข้ามา รีบแหวกม่านของเกี้ยวเจ้าสาว แล้วลากร่างของมู่จื่อเหยี่ยนลงมา
มีเสียง“ปัง”ดังขึ้น มีดเปื้อนเลือดเล่มหนึ่งตกลงบนพื้น
แสงสีขาวเสียดแทงตา มู่จื่อเหยี่ยนหรี่ตาลงเล็กน้อย ในสถานการณ์ที่วุ่นวายนางเหลือบไปเห็นบาดแผลตรงข้อมือ บาดแผลลึกจนเห็นกระดูก
ตรงบาดแผลยังคงมีโลหิตไหลซึมไม่หยุด
เป็นความเจ็บปวดที่ยากจะทนไหว
มู่จื่อเหยี่ยนพยายามที่จะลุกขึ้นยืน แต่เพราะเสียเลือดมาก นางจึงไม่มีเรี่ยวแรงใด ๆ จึงยอมให้หญิงรับใช้สูงวัยท่าทีแข็งกร้าวพวกนั้นลากร่างของนางไป
ในสถานการณ์ที่ชุลมุน มู่จื่อเหยี่ยนได้ยินเสียงเย้ยหยันดังมาจากรอบด้าน
“นั่น คุณหนูใหญ่ตระกูลมู่ลงมือกับตัวเองได้อย่างเลือดเย็นจริง ๆ โลหิตบนเกี้ยวแต่งงานไหลลงมาเป็นทางยาว”
“นางอยากตายทำไมไม่รีบตายไปเสียล่ะ รอให้ถึงหน้าประตูจวนของเยี่ยนอ๋องทำไมกัน
น่าสะอิดสะเอียนเสียจริง คงต้องโชคร้ายไปแปดชั่วอายุคน ต้องแต่งกับสตรีที่หมดลมหายใจไปแล้ว”
“ก่อนหน้านี้ไม่ใช่มู่จื่อเหยี่ยนหรอกหรือที่ร้องไห้คร่ำครวญว่าจะแต่งกับเยี่ยนอ๋อง บังคับให้ฮ่องเต้พระราชทานสมรสให้ ตอนนี้ได้แต่งงานสมใจแล้ว เหตุใดจึงตัดสินใจจบชีวิตลงในเกี้ยวเจ้าสาวล่ะ?”
“ทุกคนต่างรู้ดีว่าเยี่ยนอ๋องชิงชังนางแค่ไหน แม้วันนี้จะแต่งเข้าจวนเยี่ยนอ๋องอย่างราบรื่น แต่ชีวิตหลังแต่งงานก็คงไม่ต่างจากแม่ม่ายสักเท่าใด มีชีวิตราวกับตายทั้งเป็น สู้ตายในเกี้ยวเจ้าสาวยังจะดีกว่า ตายไปแล้วยังมีได้ครองตำแหน่งพระชายาเอกของเยี่ยนอ๋อง ช่างมีหน้ามีตานัก”
เหล่าสาวใช้ด้านหนึ่งก็นินทาไปด้วย ด้านหนึ่งก็ยกร่างของมู่จื่อเหยี่ยนไปด้วย ในห้องหอ จากนั้นก็โยนร่างของนางทิ้งไว้บนเตียง แล้วจากไปอย่างไม่แยแส
มู่จื่อเหยี่ยนรู้สึกปวดหนึบที่ศีรษะ ภาพความทรงจำที่ไม่คุ้นเคยจำนวนมากปรากฏขึ้นในหัว
นางอึ้งงันอยู่นาน ในที่สุดก็ได้สติแล้วรู้ว่าตังเองได้กลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง
สาวใช้ที่อยู่ในห้องหอกลัวว่าตนเองจะโชคร้าย เลยพากันออกไปตั้งนานแล้ว
มู่จื่อเหยี่ยนฝืนสังขารลุกขึ้นนั่ง เลิกผ้าคลุมหัวเจ้าสาวสีแดงขึ้นที่อยู่บนศีรษะออก นางมองเห็นบาดแผลอันน่ากลัวที่อยู่ตรงข้อมือของตัวเองอย่างชัดเจน เวลานี้เลือดยังคงไหลไม่หยุด
คมมีดที่กรีดลึกลงไปเช่นนี้ ดูก็รู้ว่าตั้งใจจะจบชีวิต
มู่จื่อเหยี่ยนต้องอดทนต่อความเจ็บปวด นางใช้นิ้วสกัดตำแหน่งเส้นลมปราณสำคัญหลายจุดเพื่อห้ามเลือด จากนั้นนางได้ฉีกทึ้งผ้าสะอาดผืนหนึ่ง เพื่อนำมาพันบาดแผล
ขณะที่มู่จื่อเหยี่ยนกำลังจัดการกับบาดแผลอยู่นั้น ทันใดนั้นด้านนอกประตูก็มีเสียงฝ่าเท้ารีบร้อนดังแว่วมา
หญิงรับใช้วัยกลางคนที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตู หน้าตาตื่นตกใจร้องขอความเมตตา “ท่านอ๋อง โปรดระงับโทสะด้วย”
“ไสหัวไปให้หมด ข้าอยากจะรู้นัก ว่าสตรีนางนั้นต้องการทำอะไรกันแน่!”
พอพูดจบ ร่างของบุรุษสูงใหญ่ใช้เท้าถีบประตูห้องนอนจนเปิดอ้าออก แล้วก้าวเท้าเข้ามาด้านใน
มู่จื่อเหยี่ยนที่ใช้มือพยุงตัวอยู่ตรงขอบเตียง ฝืนเงยหน้าขึ้น ภาพตรงหน้าเลือนราง นางคล้ายกับมองเห็นบุรุษในชุดยาวสีขาวปรากฏตัวต่อหน้า
บุรุษผู้นี้ก็คือเยี่ยนอ๋อง หนานกงรุ่ยหยวนไม่ใช่หรือ?
รอบกายเขาแผ่กลิ่นอายความน่าเกรงขามออกมา เบือนหน้าไปสั่งหญิงรับใช้วัยกลางคนว่า “พวกเจ้าเฝ้าหน้าประตูไว้ให้ดี ไม่มีคำสั่งของข้า ใครก็ห้ามเข้าไป”
หลังจากพูดจบ เขาก็ปิดประตูอย่างแรง
เสียงที่ปิดประตูดังมาก แผ่นหลังของมู่จื่อเหยี่ยนมีเหงื่อเย็นผุดขึ้นมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ครั้งนี้ พระชายาท้องแฝดแล้วหนี
เื่องนี้ไม่ลงต่อหรอค่ะ...