เกิดใหม่ครั้งนี้ พระชายาท้องแฝดแล้วหนี นิยาย บท 3

ทหารของราชสำนักหลายร้อยคนกระจายตัวออก ก่อนจะค่อย ๆ เคลื่อนตัวตีวงโอบล้อมมู่จือเหยี่ยนไว้ตรงกลาง

มู่จื่อหยานเหยี่ยนยิ้มอย่างเย้ยหยัน ความสามารถแค่นี้คิดอยากจะหยุดข้าหรือ? ฝันไปเถอะ!"

ขณะที่พูดนางที่ตั้งครรภ์ได้แปดเดือน ก็พุ่งตัวไปในพุ่มไม้ที่อยู่ตรงกลางระหว่างภูเขาด้วยความรวดเร็ว ดันตัวเองไปด้านหน้า จนสุดท้ายรอดพ้นจากการจับกุม

นางเลือกซ่อนตัวในถ้ำที่อยู่ในพื้นที่ลับตาคน ในที่สุดก็สามารถพักผ่อนได้สักระยะหนึ่ง

มู่จือเหยี่ยนคิดไม่ถึงว่าบุรุษผู้นั้นจะมีใจที่อาฆาตถึงเพียงนี้ การล้อมจับที่กินเวลานานถึงแปดเดือน นางไม่อาจชะล่าใจได้แม้แต่ครั้งเดียว!

ตั้งแต่เมืองหลวงไปจนถึงบริเวณรอบ ๆ หมู่บ้าน ทุก ๆ ตรอกซอยต่างมีประกาศจับติดอยู่ไปทั่ว ซ้ำยังมีเงินรางวัลก้อนโตอีกด้วย!

กองทัพจินหลิงจะออกมาตรวจตราทุก ๆ สองหรือสามวัน เมื่อพบร่องรอยที่น่าสงสัย พวกเขาที่ได้รับคำสั่งมาว่าให้ใช้หลักการยอมฆ่าผู้บริสุทธิ์ แต่ไม่อาจปล่อยคนผิดลอยนวลไปได้

มู่จือเหยี่ยนซ่อนตัวอย่างยากลำบาก ตลอดระยะเวลาหลายเดือน นางเห็นสถานการณ์ที่เลวร้ายลง คิดจะหลบหนีไปให้ไกล แต่กลับพบว่าตัวเองตั้งครรภ์เสียก่อน!

และยังเป็นท้องแฝดอีกด้วย!

เดิมทีนางไม่คิดจะเก็บเด็กเอาไว้ เพราะบิดาของพวกเขาไม่ใช่คนดี ยังมีลักษณะทางพันธุกรรมที่แย่อีกด้วย

แต่เพราะร่างกายนางที่ไม่แข็งแรง ภายในกายยังมีปริมาณของพิษที่ตกค้างอยู่มาก ร่างกายจึงบอบช้ำอย่างหนัก

นางครุ่นคิดอยู่เนิ่นนาน ลูบหน้าท้องที่มีชีวิตน้อย ๆ อยู่ในนั้น ใจไม่แข็งพอจะลงมือ นางจึงต้องหลบซ่อนตัวอยู่ในหมู่บ้านห่างไกลบริเวณชานเมือง เพื่อพักฟื้นร่างกายและแอบสังเกตสถานการณ์ภายนอก

นางเป็นผู้สืบทอดของตระกูลการใช้พิษรักษาโรค นางชำนาญด้านการถอนพิษ วัตถุดิบที่นำมาปรุงยามักจะใช้หมดเป็นประจำ ดังนั้นนางจึงต้องออกไปด้านนอกเพื่อซื้อยา

แปดเดือนที่ยากลำบากผ่านพ้นไปแล้ว แต่เมื่อนางตั้งครรภ์ได้ครบเก้าเดือน กลับโดนทหารจากราชสำนักพบร่องรอย

พอเห็นเหล่าทหารที่คอยตามไล่ล่านางอย่างสุดชีวิต ทหารเหล่านั้นแทบจะพลิกภูเขาเพื่อตามหานางให้เจอ!

นางที่กำลังตั้งท้อง ยามนี้ถึงมีปีกก็บินไม่ขึ้นอยู่ดี!

ขณะที่นางกำลังคิดว่าจะหนีเอาชีวิตรอดอย่างไร จู่ ๆ ก็รู้สึกปวดท้องขึ้นมาอย่างกระทันหัน สีหน้าของนางแปรเปลี่ยน มือกุมที่ท้องอย่างไม่รู้ตัว

หรือว่านางกำลังจะคลอดลูก?

ตอนนี้แค่แปดเดือน ถือว่าคลอดก่อนกำหนด!

นางในตอนนี้ไม่สามารถคิดอะไรได้อีก ความเจ็บปวดระลอกแล้วระลอกเล่าถาโถมเข้าใส่ นางปวดระบมไปทั่วตัว เหงื่อเย็นเปียกชุ่มไปทั้งร่าง

นางรู้สึกได้ว่าเด็กสองที่อยู่ในท้อง แทบจะอดทนรอไม่ไหว อยากที่จะออกมาเต็มทน

มู่จือเหยี่ยนสะกดกลั้นต่อความเจ็บปวด พยายามที่พยุงตัวเองยืนขึ้น นางค่อย ๆ ก้าวเดินไปยังส่วนที่ลึกที่สุดของถ้ำ

ที่บริเวณเชิงเขา

ตอนที่หนานกงรุ่ยหยวนควบอาชาพันธ์ดีเข้ามา กองทหารจินหลิงทุกนายทำท่าเคารพด้วยท่วงท่าที่พร้อมเพียงกัน "ยินดีต้อนรับเยี่ยนอ๋อง"

เขาได้รับรายงานจากบริวารว่า พบร่องรอยของมู่จือเหยี่ยนแล้ว จึงได้รีบมาที่แห่งนี้

"คนล่ะ?" ใบหน้าของหนานกงรุ่ยหยวน มีละอองหิมะเกาะอยู่ตามผิวหน้า ดวงตาที่หรี่เล็กของเขาเต็มไปด้วยประกายความเย็นชา

ผู้บัญชาการกองทัพจินหลิงอธิบายอย่างหมดหนทาง "นางถูกล้อมจับอย่างแน่นหนา ข้าน้อยได้ส่งคนไปค้นหาอย่างละเอียดแล้ว รออีกไม่กี่ชั่วยามคงจะสามารถ... "

"เจ้าหมายความว่า ยังจับคนไม่ได้?" สีหน้าของหนานกงรุ่ยหยวนคล้ำลง

“ท่านอ๋อง โปรดอภัยให้ด้วย!”

ผู้บัญชาการของกองทัพจินหลิงคุกเข่าลงบนพื้นทันทีอธิบายด้วยน้ำเสียงนอบน้อม "มู่จื่อเหยี่ยนมีวิชาตัวเบาสูงส่ง นางคุ้นเคยกับพื้นที่ส่วนนั้นเป็นอย่างดี ซ้ำนางยังช่ำชองเรื่องการเคลื่อนย้ายของกองทัพ หลบหนีไปได้หลายครั้ง ข้าน้อยได้เพิ่มกำลังคนออกค้นหา ค้นหาทั่วทุกตารางนิ้วบนภูเขา จะต้องจับกุมนางทั้งเป็นได้อย่างแน่นอน”

“นางเป็นวิชาตัวเบาหรือ?” หนานกงรุ่ยหยวนถามพร้อมกับขมวดคิ้ว

"ขอรับ"

"เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน!" หนานกงรุ่ยหยวน ปฏิเสธอย่างทันควัน "มู่จือเหยี่ยนแม้ว่าจะเกิดในจวนแม่ทัพ แต่นางไม่เป็นวรยุทธ เป็นไปไม่ได้เลยที่นางจะมีวิชาตัวเบา"

"ท่านอ๋อง ข้าน้อยไม่กล้ากล่าวคำเท็จกับท่าน ทหารหลายร้อยคนในนี้ ทุกคนล้วนเห็นกับตา" ผู้บัญชาการของกองทัพจินหลิงรายงานต่อไป "และยังมีเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง ข้าน้อยไม่อาจปิดบังท่านอ๋อง"

หนานกงรุ่ยหยวนน้ำเสียงเมินเฉย "พูดเร็วเข้า"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ครั้งนี้ พระชายาท้องแฝดแล้วหนี