ตอนที่ 130 ตระกูลเยี่ยนมิธรรมดาจริง ๆ
แล้วราตรีก็ผ่านพ้น
วันต่อมา ด้วยความตื่นเต้นทำให้เมื่อคืนนี้กว่าเขาจะเข้านอนก็เกือบถึงยามโฉ่ว1 แล้ว
ขณะที่เขาตื่นขึ้นมานั้นก็พบว่ามีแสงแดดอุ่น ๆ สาดส่องบนใบหน้าของเขาแล้ว
“โอ๊ะ สายป่านนี้แล้วหรือ วันนี้ต้องไปเมืองหลวงกับพวกคุณหนูเยี่ยนด้วยสิ”
คิดได้เช่นนั้นเย่ฉางชิงจึงตื่นเต็มตา พร้อมกับลุกขึ้นแต่งเนื้อแต่งตัวทันที
เวลาผ่านไปเกือบหนึ่งก้านธูป
เย่ฉางชิงล้างหน้าล้างตา และสวมอาภรณ์สีขาวชุดใหม่เสร็จเรียบร้อย
ทำให้ดูหล่อเหลายิ่งนัก บวกกับบุคลิกท่าทางเช่นบัณฑิตของเขาแล้ว ยิ่งทำให้ชวนมองราวกับเทพบุตรก็มิปาน
เย่ฉางชิงมองตัวเองในกระจก พลางลูบคางไปมา ก่อนจะพูดกับตัวเองด้วยรอยยิ้มว่า “เย่ฉางชิง วันนี้เจ้าจะได้ออกจากเมืองเสี่ยวฉือไปเมืองหลวงในตำนาน แม้จะมิสามารถบำเพ็ญเพียรได้ แต่อาศัยความสามารถด้านอื่น ๆ ของเจ้า เชื่อว่าจะสามารถลงหลักปักฐานที่เมืองหลวงได้อย่างแน่นอน”
“สุดยอด ! ”
เย่ฉางชิงชูกำปั้นขึ้นมาให้กำลังใจตัวเอง ก่อนจะหมุนตัวเดินออกนอกประตูไป
“ท่านเย่ เตรียมตัวพร้อมแล้วหรือเจ้าคะ ? ”
“ท่านเย่”
เยี่ยนเทียนซานและเยี่ยนปิงซินที่เฝ้าอยู่นอกประตูตั้งแต่เช้า เอ่ยทักทายทันทีที่เห็นเย่ฉางชิงเดินออกมาจากด้านในห้อง
เมื่อเยี่ยนปิงซินเห็นเย่ฉางชิงที่สวมใส่อาภรณ์สีขาวตัวใหม่ ดวงตาดำขลับคู่นั้นก็เปล่งประกายประหลาดขึ้นมา
‘ใบหน้างดงามราวกับหยก ! ’
‘บุคลิกท่วงท่าสุภาพอ่อนโยน ! ’
‘อย่าว่าแต่แคว้นต้าเยี่ยนเลย เกรงว่าทั่วทั้งใต้หล้าคงมีเพียงคนตรงหน้าคนเดียวเท่านั้น ! ’
“เมื่อคืนข้านอนดึกไปหน่อยเลยตื่นสาย ท่านทั้งสองคงรอนานแล้วใช่หรือไม่ ? ”
เย่ฉางชิงเอ่ยกับทั้งคู่ด้วยรอยยิ้ม
“มิเป็นไรขอรับ ขอเพียงไปให้ถึงเมืองชิงเหอ ใช้เวลามิถึงหนึ่งก้านธูป พวกเราก็สามารถใช้ค่ายกลห้วงเวลาไปถึงเมืองหลวงได้แล้ว”
เยี่ยนเทียนซานประสานมือให้แก่เย่ฉางชิง เอ่ยขึ้นด้วยท่าทางจริงจัง
เย่ฉางชิงพยักหน้าให้และเอ่ยต่อด้วยรอยยิ้ม “ถ้าเช่นนั้นท่านทั้งสองโปรดรอสักครู่ ข้าขอเก็บกวาดที่นี่เสียหน่อย แล้วพวกเราค่อยออกเดินทางกัน”
เยี่ยนเทียนซานเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ท่านเย่เชิญตามสบาย”
เยี่ยนปิงซินยิ้มหวานออกมา “ท่านเย่ ข้าช่วยท่านเองเจ้าค่ะ”
เวลาผ่านไปมิถึงหนึ่งก้านธูป
เพราะคุ้นเคยกับวิธีใช้แหวนเก็บสมบัติแล้ว เย่ฉางชิงจึงได้เก็บภาพทั้งหมดภายในร้านขายของชำเข้าไปในแหวนเก็บสมบัติ
จากนั้นเขาก็กลับเข้าไปยังลานบ้าน ก่อนจะหยิบกระดานหมากล้อมและชุดชา รวมถึงพิณโบราณเข้าไปในแหวนเก็บสมบัติด้วย
สุดท้ายเย่ฉางชิงก็อุ้มจิ้งจอกน้อยเอาไว้แนบอก ก่อนจะเรียกราชันทมิฬที่หมอบอยู่บนพื้น
พร้อมเอ่ยกับเยี่ยนเทียนซานด้วยรอยยิ้มเป็นนิจว่า “ท่านเยี่ยน พวกเราออกเดินทางกันเถิด”
เยี่ยนเทียนซานชะงักเล็กน้อย แล้วจึงพยักหน้ารับยิ้ม ๆ
‘ในอ้อมแขนมีปีศาจที่มีโอกาสสูงที่จะได้เป็นจอมปีศาจ ส่วนข้างกายก็มีจักรพรรดิปีศาจอีกหนึ่งตน’
‘นี่คงเป็นวิถีชีวิตของผู้อาวุโสเย่สินะ’
หลังจากทั้งสามคนออกมาจากร้านขายของชำของเย่ฉางชิงแล้ว ก็ได้พบกับชาวเมืองเสี่ยวฉือ
“ท่านเย่ ท่านจะเดินทางไกลเยี่ยงนั้นหรือ ? ”
“ขอรับ ท่านลุงซ่ง”
“ท่านเย่ สวมชุดหรูหราเช่นนี้ จะไปนัดดูตัวหรือเจ้าคะ ? ”
“ซ้อเปาล้อข้าเล่นแล้ว ข้าไร้บ้านไร้ที่ดินแล้วจะไปดูตัวได้เยี่ยงไรกัน”
“จริงสิ ซ้อเปาข้าจะไปเมืองหลวงสักพัก ช่วงที่ข้ามิอยู่หากท่านพอมีเวลา รบกวนช่วยไปดูแลสวนให้ข้าหน่อยนะขอรับ”
“ท่านเย่ เรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้าเอง หากท่านกลับมาแล้วมีอะไรเสียหาย ท่านมาหาข้าได้เลย”
“เช่นนั้นต้องรบกวนซ้อเปาแล้ว”
“ใช่แล้ว ท่านเย่ ท่านจะไปเมืองหลวงสินะ ขากลับอย่าลืมซื้อพวกแป้งชาดของเมืองหลวงมาให้ข้าด้วยล่ะ”
“ได้เลยขอรับ”
“……”
ระหว่างทางที่เย่ฉางชิงเดินมา ก็หัวเราะพูดคุยกับชาวบ้านมาตลอดทาง
เยี่ยนเทียนซานและเยี่ยนปิงซินที่เดินอยู่ข้างกายเย่ฉางชิง อดมิได้ที่จะส่ายศีรษะพร้อมยิ้มฝืดเฝื่อนออกมา
‘นี่คงเป็นวิถีชีวิตของผู้อาวุโสเย่สินะ ! ’
‘ทุกชีวิตล้วนเท่าเทียมกัน’
‘ในโลกนี้มิว่าเจ้าจะเป็นผู้บำเพ็ญเพียรที่มีตบะบารมีสูงส่ง หรือเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา ทุกคนล้วนแต่เท่าเทียมกัน’
ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วยาม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน