เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน นิยาย บท 148

ตอนที่ 148 คนผู้นี้เป็นเทพมาจากที่ใดกัน ?

มินานเย่ฉางชิงและเยี่ยนปิงซินก็เดินขึ้นมาถึงชั้นสาม ที่เป็นชั้นหมากล้อมของหอสายลมจันทรา

ชั้นนี้หากเทียบกับสองชั้นแรกมิเพียงมีจำนวนคนน้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัดเท่านั้น แต่ผู้ที่อยู่ในชั้นนี้ส่วนใหญ่จะพวกผู้เฒ่าที่มีผมและหนวดขาวโพลน

ที่สำคัญในชั้นนี้มิได้โกลาหลเหมือนกับชั้นหนึ่ง และมิได้ให้ความรู้สึกกดดันเหมือนอย่างชั้นสองด้วย

แต่กลับให้ความรู้สึกเงียบสงบ

เย่ฉางชิงชอบความรู้สึกเช่นนี้เป็นอย่างมาก

ขณะเดียวกันบางคนก็ถือหมากเอาไว้ในมือ นั่งนิ่งอยู่หน้ากระดานราวกับกำลังใช้ความคิดเพื่อหาวิถีแก้กลหมากให้ได้

บางคนก็ล้อมวงอยู่รอบกระดาน เพื่อชมเหล่าผู้เฒ่าผลัดกันเดินหมาก

เรียกว่ามิมีเสียงพูดคุยระหว่างที่ชมหมากล้อม แสดงให้เห็นว่าอย่างน้อยพวกเขาก็มีคุณสมบัติพื้นฐานในการเล่นหมากล้อมอยู่บ้าง

เย่ฉางชิงจึงรู้สึกพึงพอใจอย่างมาก

เขาหยุดชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะก้าวตรงไปยังผู้เฒ่าท่านหนึ่งที่กำลังหาวิธีแก้กลหมากอย่างเคร่งเครียด

เย่ฉางชิงอุ้มจิ้งจอกน้อยแนบอก กวาดตามองหมากบนกระดานคร่าว ๆ ก่อนจะส่ายหน้าออกมาพร้อมรอยยิ้ม จากนั้นก็ได้หมุนตัวไปยังบุรุษวัยกลางคนรูปร่างผอมบางผู้หนึ่ง

ขณะเดียวกันเยี่ยนปิงซินที่กวาดตามองกระดานหมากเช่นกัน กลับขมวดคิ้วแน่นแล้วเอ่ยถามเย่ฉางชิงที่อยู่ข้างกายด้วยเสียงอันนุ่มนวลว่า “ท่านเย่ หรือว่าท่านรู้วิธีแก้แล้วเยี่ยงนั้นหรือเจ้าคะ ? ”

เย่ฉางชิงได้ยินคำถามนั่นจึงหยุดฝีเท้าลง ก่อนเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “เจ้าเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า ผู้ที่อยู่ภายในอาจมองมิถนัด แต่ผู้ชมภายนอกกลับมองได้ชัดเจนหรือไม่ ? ”

เยี่ยนปิงซินพยักหน้าให้อย่างมิมั่นใจนัก

เย่ฉางชิงจึงเอ่ยต่ออีกว่า “ผู้เฒ่าท่านนั้นได้ดำดิ่งลงไปในกลหมากแล้ว เช่นนั้นจึงมิสามารถหาวิธีแก้ได้สักทียังไงล่ะ แต่ที่สำคัญเราต้องจำคุณสมบัติพื้นฐานที่ว่ามิพูดคุยกันระหว่างชมให้ขึ้นใจด้วย”

เยี่ยนปิงซินถึงกับผงะเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างอ่อนหวาน พร้อมกับมีประกายระยิบระยับเปล่งออกมาทางดวงตา

‘สมแล้วที่เป็นผู้อาวุโสเย่’

หากนางจำมิผิดล่ะก็เพื่อที่จะแก้กลหมากนี้ ผู้เฒ่าท่านนี้ได้นั่งอยู่ตรงนี้มาเป็นเวลาเกือบปีแล้ว

แต่ผู้อาวุโสเย่เพียงแค่กวาดตามองเพียงแวบเดียว ก็สามารถหาวิธีแก้ได้แล้ว

จนเวลาผ่านไปเกือบครึ่งก้านธูป

เย่ฉางชิงที่วนดูรอบชั้นนี้เสร็จแล้ว จึงได้เอ่ยถามขึ้นว่า “คุณหนูเยี่ยน กลหมากปริศนา 13 ภาพที่ท่านเอ่ยถึงก่อนหน้านี้อยู่ที่ใดหรือ ? ”

เยี่ยนเทียนซานจึงรีบเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า “ท่านเย่ ท่านต้องการจะแก้กลหมากปริศนา 13 ภาพหรือขอรับ ? ”

เย่ฉางชิงยิ้มออกมา “ข้าเพียงแค่เจอคอขวดในวิถีหมากล้อม ในเมื่อกลหมากปริศนา 13 ภาพหลงเหลือมาตั้งแต่สมัยบรรพกาล เช่นนั้นย่อมมีสิ่งที่ควรค่าแก่การเรียนรู้อยู่แล้ว”

‘คอขวด ? ’

‘สิ่งที่ควรค่าแก่การเรียนรู้ ? ’

‘ผู้อาวุโสเย่มีเป้าหมายในการเดินทางมาเมืองหลวงจริง ๆ ด้วย เขาคงอยากจะค้นหาโอกาสในการบรรลุบางอย่างผ่านกลหมากเป็นแน่’

‘แต่คนเช่นผู้อาวุโสเย่ หากบรรลุขึ้นไปอีกจะอยู่ในระดับใดกันแน่นะ ? ’

‘มิกล้าคิดจริง ๆ ! ’

หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เยี่ยนปิงซินจึงพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม

“ท่านเย่ ท่านรออยู่ตรงนี้สักครู่ ข้าจะไปตามคนดูแลมาให้เจ้าค่ะ”

เยี่ยนปิงซินกล่าวเสร็จก็หมุนตัวเดินจากไป

ผ่านไปครู่หนึ่ง บุรุษวัยกลางคนสวมใส่อาภรณ์สีเขียวผู้หนึ่งก็เดินตามเยี่ยนปิงซินมา ก่อนจะหยุดลงตรงหน้าเย่ฉางชิงและเยี่ยนเทียนซาน

“คุณหนูเยี่ยน มิทราบว่าท่านใดต้องการที่จะแก้กลหมากปริศนา 13 ภาพหรือขอรับ ? ”

บุรุษวัยกลางคนเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มสุภาพ พลางลอบพิจารณาเย่ฉางชิงและเยี่ยนเทียนซานไปด้วย ก่อนที่สายตาของเขาจะหยุดอยู่ที่เยี่ยนเทียนซาน

แม้จะยอมรับว่าบุรุษหนุ่มผู้นี้ดูสุภาพและหล่อเหลา แต่กลหมากปริศนา 13 ภาพถือเป็นจุดสูงสุดของวิถีหมากก็ว่าได้

เช่นนั้นหลู่ฉีจึงมิคิดว่าคนที่ต้องการแก้กลหมากปริศนา จะเป็นบุรุษหนุ่มที่สวมอาภรณ์สีขาวผู้นี้

เยี่ยนเทียนซานขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยแนะนำอย่างไม่พอใจเท่าไรนัก “เป็นท่านเย่ผู้นี้”

เย่ฉางชิงพยักหน้าอย่างมิปฏิเสธ

“เอ่อ…”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน