ตอนที่ 263 พวกเราเอาชีวิตรอดออกมาได้แล้ว
ขณะเดียวกัน ในวินาทีที่เย่ฉางชิงเปิดกล่องไม้ออก
จู่ ๆ ด้านนอกหอเก็บตำราก็มีนิมิตปรากฏขึ้น !
ลำแสงที่เปล่งประกายเจิดจ้าสายหนึ่งก็พุ่งจากด้านบนของหอเก็บตำรา ขึ้นไปสู่ท้องฟ้าจนทำให้ห้วงอากาศสั่นไหวเกิดเป็นระลอกคลื่นขึ้น ช่างเป็นภาพที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก
มินานสัญลักษณ์โบราณมากมายก็ปรากฏขึ้นรอบ ๆ หอเก็บตำรา ส่องแสงระยิบระยับราวกับฝนดาวตกที่โปรยปราย
เมื่อมองออกไปก็เห็นหอเก็บตำราที่สูงตระหง่านราวกับตำหนักฟ้าจากเก้าสวรรค์มาเยือน
“นี่… นี่มันอะไรกัน”
“ข้าเองก็มิเคยเห็นอะไรเช่นนี้มาก่อน หรือว่าท่านบรรพจารย์เย่จะไปแตะต้องสิ่งต้องห้ามโบราณที่ซ่อนอยู่ในหอเก็บตำราเข้า ? ”
“ต้องเป็นเช่นนั้นแน่ มิเช่นนั้นหอเก็บตำราจะเกิดนิมิตเช่นนี้ขึ้นได้เยี่ยงไรกัน ? ”
“ต้องรายงานเรื่องนี้ให้ท่านเจ้าสำนักทราบ ! ”
“ใช่ ต้องรีบไปรายงานท่านเจ้าสำนัก ! ”
“……”
ระหว่างที่กลุ่มศิษย์ผู้เฝ้าหอเก็บตำรากำลังถกเถียงกันอยู่นั้น
ลำแสงหลายสายพลันทะยานมาจากทั่วสารทิศ ก่อนจะหยุดลงนอกเขตต้องห้ามของหอเก็บตำรา
ก่อนพบกับนักพรตฉางเสวียน รวมทั้งเหล่าผู้อาวุโสของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียน
“ผู้น้อยคารวะท่านเจ้าสำนัก เจ้ายอดเขาและผู้อาวุโสทุกท่าน ! ”
ศิษย์กลุ่มนั้นรีบคาราวะอย่างนอบน้อมทันทีที่เห็นผู้ที่มาเยือน
นักพรตฉางเสวียนโบกมือขึ้นปัดเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองหอเก็บตำราที่ปรากฏนิมิตขึ้น
“จู่ ๆ หอเก็บตำราปรากฏนิมิตขึ้นเช่นนี้ ท่านบรรพจารย์เย่คงไปเปิดกล่องไม้ต้องห้ามบนชั้นสี่เข้าเป็นแน่”
นักพรตฉางเสวียนหรี่ตาลงเล็กน้อย พลางเอ่ยอย่างครุ่นคิด
“ใช่แล้ว ที่ชั้นสี่ของหอเก็บตำรามีสุดยอดเคล็ดวรยุทธ และเคล็ดวิชาฝึกฝนจิตใจที่บรรพจารย์ผู้ล่วงลับรุ่นแรกทิ้งเอาไว้ อีกทั้งสุดยอดเคล็ดวิชาเหล่านี้ล้วนแต่ถูกผนึกโดยบรรพจารย์ผู้ล่วงลับในแต่ละรุ่นด้วยมือตัวเอง”
นักพรตชิงเย่พยักหน้าเห็นด้วย พลางเผยสีหน้าละอายใจออกมา “พวกเขาล้วนหวังว่าพวกเราคนรุ่นหลังจะมีผู้ที่แข็งแกร่งพอ จนสามารถเปิดผนึกกล่องไม้เพื่อสืบทอดวิชาของพวกเขาได้ ทว่าสุดท้ายพวกเขาก็คาดหวังสูงเกินไป”
“มิรู้ว่าบรรพจารย์รุ่นที่หนึ่งอยู่บนสวรรค์จะเป็นเช่นไรบ้าง ! ”
นักพรตหยวนเจี้ยนมุมปากกระตุกเล็กน้อย “หากพวกเขารู้ว่านับตั้งแต่พวกเขาขึ้นสวรรค์มาจนถึงบัดนี้ ทว่าชั้นสี่ของหอเก็บตำรายังคงมีสุดยอดเคล็ดวรยุทธ และเคล็ดวิชาฝึกฝนจิตใจที่ยังมิเคยถูกเปิดมาก่อน มิรู้ว่าจะรู้สึกเช่นไรบ้าง ? ”
ตอนนั้นเอง
“ท่านเจ้าสำนัก ศิษย์พี่ทุกท่าน บัดนี้ท่านบรรพจารย์เย่ขึ้นไปบนชั้นสี่ของหอเก็บตำราแล้ว อีกทั้งยังได้เปิดผนึกบนกล่องไม้เช่นนี้”
ผู้อาวุโสท่านหนึ่งเอ่ยพร้อมดวงตาเป็นประกาย “พวกท่านว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่าท่านบรรพจารย์เย่อาจจะมีจุดประสงค์บางอย่าง ? ”
พวกนักพรตฉางเสวียนได้ยินเช่นนั้นก็มีสีหน้าเปลี่ยนไป ก่อนที่จะเผยสีหน้าตื่นเต้นยินดีออกมา
‘จริงด้วย ! ’
‘ท่านบรรพจารย์เย่ลงมาจากสวรรค์ แสดงว่าเขาต้องเคยไปที่ชั้นสี่ของหอเก็บตำรามาแล้ว’
‘บัดนี้การที่เขาขึ้นไปยังชั้นสี่ของหอเก็บตำราอีกครา ทว่ากลับยังเห็นสุดยอดเคล็ดวรยุทธและเคล็ดวิชาฝึกฝนจิตใจถูกปิดผนึกเอาไว้อยู่ที่ชั้นสี่’
‘อีกอย่างเขาคงจะเข้าใจดีว่าหากฝืนทำลายผนึกบนกล่องไม้ จะทำให้สุดยอดเคล็ดวรยุทธ และเคล็ดวิชาฝึกฝนจิตใจที่อยู่ภายในถูกทำลายลงในพริบตา’
‘และเมื่อดูสถานการณ์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนในตอนนี้’
‘การที่สามารถนำสุดยอดเคล็ดวรยุทธและเคล็ดวิชาฝึกฝนจิตใจเหล่านี้ออกมาได้ ก็จะสามารถทำให้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนแข็งแกร่งขึ้นไปได้อีก’
‘เช่นนี้แล้วมีความเป็นไปได้ว่า ท่านบรรพจารย์เย่อาจจะเปิดกล่องไม้ทั้งหมดที่ถูกผนึกไว้ในชั้นสี่ของหอเก็บตำราออก เพื่อให้สุดยอดเคล็ดวรยุทธและเคล็ดวิชาฝึกฝนจิตใจที่อยู่ภายใน ถูกเผยแพร่สู่ภายนอกอีกครา’
นักพรตฉางเสวียนคิดถึงตรงนี้แล้ว ก็ได้เอ่ยอย่างยิ้มแย้มว่า “หากท่านบรรพจารย์เย่สามารถเปิดสุดยอดเคล็ดวรยุทธและเคล็ดวิชาฝึกฝนจิตใจทั้งหมดที่ถูกเก็บไว้ในชั้นสี่ออกได้ นี่ก็มิต่างอะไรกับการมอบโอกาสและวาสนาอันยิ่งใหญ่ให้แก่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนของเราอีกคราเชียวนะ ! ”
นักพรตจิ่วจวีเอ่ยอย่างจริงจังว่า “หากสุดยอดเคล็ดวรยุทธและเคล็ดวิชาฝึกฝนจิตใจบนชั้นสี่ถูกเปิดออกทั้งหมด ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนของเราจะต้องโด่งดังและมีชื่อเสียงที่สุดในจงหยวนอย่างแน่นอน”
“เปรี้ยง ! ”
ทันทีที่นักพรตจิ่วจวีเอ่ยจบ
ด้านบนหอเก็บตำราจู่ ๆ ก็มีลำแสงพุ่งออกมาอีกครั้ง
นี่ก็หมายความว่าท่านบรรพจารย์เย่ได้เปิดผนึกบนกล่องไม้ออกอีกครั้งแล้ว
จนเวลาผ่านไปครึ่งชั่วยาม
ด้านบนหอเก็บตำราก็มีลำแสงพุ่งขึ้นต่อเนื่องนับสิบกว่าสาย
หลังจากที่ได้เห็นภาพทั้งหมดนี้ด้วยตาตัวเองแล้ว
ใบหน้าของเหล่าผู้อาวุโสดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียน ล้วนแต่ประดับเอาไว้ด้วยรอยยิ้มปิติยินดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน