ตอนที่ 278 ทำลายแรงกรรม
ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ซีเหมินเหลยหู่จึงมองว่า
เทพฉางชิงที่แคว้นต้าเยี่ยนสักการะท่านนี้ จะต้องเป็นผู้อาวุโสเย่ที่เขาได้ไปคารวะที่เมืองเสี่ยวฉืออย่างแน่นอน
เช่นนี้สิ่งที่เขาได้พบและได้ยินมาก่อนหน้านี้ ก็หาใช่ภาพมายาที่สร้างขึ้นมาจากค่ายกลไม่ แต่เป็นนิมิตมงคลของจริง
อีกทั้งในยุคสมัยนี้
ก็มีเพียงบุคคลที่ไร้เทียมทานเช่นผู้อาวุโสเย่เท่านั้น จึงจะสำแดงนิมิตเช่นนี้ขึ้นได้
มิเพียงเท่านั้น บรรพบุรุษของแคว้นต้าเยี่ยนท่านนี้ยังบอกอีกด้วยว่า
การรวบรวมจงหยวนเป็นหนึ่ง ถือเป็นการทำให้สิ่งต่าง ๆ เจริญก้าวหน้าขึ้น
และการที่ผู้อาวุโสเย่ช่วยส่งเสริมดวงชะตาของแคว้นต้าเยี่ยน ก็เพื่อเป็นการสนับสนุนแคว้นอันแข็งแกร่งนี้ด้วย
การที่ผู้อาวุโสเย่ทำเช่นนี้ คงเพื่อจะได้รับบุญบารมีในตำนานเป็นแน่
ซีเหมินเหลยหู่คิดได้เช่นนั้น ก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
ในเมื่อผู้อาวุโสเย่ช่วยสนับสนุนแคว้นอันแข็งแกร่งนี้ เช่นนั้นจึงหมายความว่าเขามิสามารถขัดขวางสงครามในครั้งนี้ได้อีก
ส่วนเขาก็คงทำได้เพียงนำสาส์นของจักรพรรดิไร้ราตรีฉบับนั้นคืนให้แก่เฉินฉีหลู่
หลังจากนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง
“ดูท่าครานี้ข้าคงจะบุ่มบ่ามเกินไป”
ซีเหมินเหลยหู่หันไปมองเยี่ยนเทียนซาน พลางถอนหายใจออกมา “ในเมื่อผู้อาวุโสเย่เป็นผู้สนับสนุนศึกในครานี้ ผู้น้อยเช่นข้าย่อมมิอาจขัดขวางสงครามในครานี้ได้”
เยี่ยนเทียนซานและเยี่ยนหยางเหนียน ได้ยินเช่นนั้นก็มีสีหน้าตกใจขึ้นมาทันที
พวกเขาคาดมิถึงว่าผู้แข็งแกร่งแห่งตระกูลโบราณซีเหมินผู้นี้ จะรู้จักผู้อาวุโสเย่ด้วย
และดูเหมือนเขาจะรู้ถึงฝีมืออันร้ายกาจของผู้อาวุโสเย่เป็นอย่างดี
“ผู้อาวุโสซีเหมิน หรือว่าท่านเองก็เคยพบผู้อาวุโสเย่มาแล้วหรือขอรับ ? ”
เยี่ยนเทียนซานลังเลเล็กน้อย ก่อนจะถามออกมาอย่างหยั่งเชิง
ซีเหมินเหลยหู่พยักหน้ารับ พร้อมกับเอ่ยช้า ๆ ว่า
“ถูกต้อง เมื่อหลายวันก่อนข้ามีโอกาสได้พบผู้อาวุโสเย่ ส่วนระดับของเขานั้น แม้แต่ตัวข้าเองก็มิสามารถที่จะคาดเดาได้ สรุปง่าย ๆ ก็คือหากบุคคลเช่นนี้ปรากฏตัวขึ้นมา ทั่วทั้งใต้หล้าจะต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นแน่”
“แคว้นต้าเยี่ยนของพวกเจ้าได้รับความเมตตาจากผู้อาวุโสเย่ ภายภาคหน้าจงหยวนจะต้องเป็นของแคว้นต้าเยี่ยนอย่างแน่นอน เช่นนั้นข้าขอเตือนเจ้าทั้งสองคนว่าหากสามารถรวมจงหยวนเป็นหนึ่งได้แล้ว และต่อให้ผู้อาวุโสเย่จะจากไปแล้ว พวกเจ้าก็ต้องจดจำพระคุณของเขาเอาไว้เสมอ”
สิ้นเสียงทั้งเยี่ยนเทียนซานและเยี่ยนหยางเหนียนต่างก็ผงะไปเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้ารับพร้อม ๆ กัน
หลังจากใคร่ครวญอยู่พักใหญ่
“ผู้อาวุโสซีเหมินได้โปรดวางใจ ผู้น้อยจะให้อนุชนรุ่นหลังจดจำพระคุณนี้ของผู้อาวุโสเย่ตลอดไปขอรับ”
เยี่ยนหยางเหนียนยกมือขึ้นประสาน พลางเอ่ยว่า “มิเพียงเท่านั้น บัดนี้ภายในแคว้นต้าเยี่ยนของเรา มิว่าจะเมืองน้อยใหญ่ล้วนแต่สร้างอารามที่มีรูปปั้นของผู้อาวุโสเย่ไว้ทั้งสิ้น”
“และหากแคว้นต้าเยี่ยนของเราสามารถรวมดินแดนจงหยวนเป็นหนึ่งได้จริง ๆ ภายภาคหน้าผู้น้อยจะให้ทั่วทั้งจงหยวน มิว่าจะเป็นเมืองเล็กหรือเมืองใหญ่จะต้องมีอารามของผู้อาวุโสเย่ตั้งขึ้นมา ขณะเดียวกันราษฎรทั่วทั้งแคว้นต้าเยี่ยน รวมทั้งคนในราชวงศ์ของข้าก่อนจะบูชาบรรพบุรุษทุกปี จะต้องไปกราบไหว้ที่อารามของผู้อาวุโสเย่เสียก่อน”
“สรุปแล้วผู้น้อยจะให้ทุกคนในแคว้นต้าเยี่ยนเป็นสาวกของผู้อาวุโสเย่ ภายภาคหน้าหลังจากรวบรวมจงหยวนเป็นหนึ่งแล้ว เชื่อว่าทั่วทั้งจงหยวนก็ล้วนแต่เป็นจะกลายสาวกของผู้อาวุโสเย่ด้วยขอรับ”
ซีเหมินเหลยหู่มีท่าทีอ่อนลง ใบหน้าเผยรอยยิ้มอ่อนโยนออกมา พร้อมกับพยักหน้าเห็นด้วย
“เรื่องมาถึงขั้นนี้ ข้าก็ได้เวลาที่จะต้องกลับแล้ว”
ซีเหมินเหลยหู่ลุกขึ้นยืน พลางเอ่ยกับเยี่ยนเทียนซานและเยี่ยนหยางเหนียน
“ผู้น้อยน้อมส่งผู้อาวุโสซีเหมิน”
เยี่ยนเทียนซานและเยี่ยนหยางเหนียนเอ่ยขึ้นพร้อม ๆ กัน
วินาทีต่อมา ขณะที่ซีเหมินเหลยหู่ก้าวออกไปได้หนึ่งก้าว รอบกายพลันมีแสงลอยออกมา กลางอากาศเกิดระลอกคลื่นขึ้นเป็นชั้น ๆ
มินานร่างทั้งร่างก็ราวกับมลายหายไปในอากาศ
“ท่านบรรพบุรุษ ตบะบารมีของผู้อาวุโสซีเหมินท่านนี้ช่างน่ากลัวยิ่งนักขอรับ ! ”
“ใช่แล้ว หากมิใช่เพราะผู้อาวุโสเย่ เกรงว่าเราคงต้องยุติสงครามในตอนนี้ลงจริง ๆ ”
“……”
อีกด้านหนึ่ง
หลังซีเหมินเหลยหู่ก้าวออกไปแล้ว เพียงพริบตาก็ได้ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ยังด้านล่างของเขาตะวันออก
เดิมเขาตั้งใจจะไปที่แคว้นกู่เฉิน เพื่อนำสาส์นของจักรพรรดิไร้ราตรีกลับคืน
ทว่าตอนนี้กับก่อนหน้านี้ความรู้สึกของเขามิเหมือนเดิมอีกแล้ว
ในเมื่ออารามฉางชิงแห่งนี้มีรูปทองของผู้อาวุโสเย่ตั้งอยู่ เช่นนั้นเขาที่เคยได้รับความเมตตาจากผู้อาวุโสเย่ ย่อมมิอาจทำเป็นมิรู้มิชี้ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน