เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน นิยาย บท 279

สรุปบท ตอนที่ 279 แคว้นของพวกเจ้าสมควรล่มสลายไปซะ !: เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน

อ่านสรุป ตอนที่ 279 แคว้นของพวกเจ้าสมควรล่มสลายไปซะ ! จาก เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 279 แคว้นของพวกเจ้าสมควรล่มสลายไปซะ ! คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยายแปล เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตอนที่​ 279 แคว้น​ของ​พวก​เจ้าสมควร​ล่มสลาย​ไป​ซะ !

หลังจาก​แสงทอง​ที่​สงบ​เยือกเย็น​เข้าสู่​ศีรษะ​ของ​เขา​ และ​ขจัด​ไอ​ดำ​ที่อยู่​บน​กาย​ไป​หมด​แล้ว​

ในขณะนั้น​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ย่อม​รู้ดี​ว่า​มัน​เกิด​อะไร​ขึ้น​

อีก​ทั้ง​เวลา​ที่​สาส์น​ฉบับ​นั้น​ของ​จักรพรรดิ​ไร้​ราตรี​ได้​ปรากฏ​ขึ้น​กลางอากาศ​

พร้อมกับ​มีปรากฏการณ์​แปลกประหลาด​เกิดขึ้น​

เช่นนี้​จึงตีความ​ได้​ว่า​กรรม​ที่มา​แปดเปื้อน​เขา​ก่อนหน้านี้​ มาจาก​สาส์น​ฉบับ​นี้​ของ​จักรพรรดิ​ไร้​ราตรี​นั่นเอง​

นอกจากนี้​สาส์น​ฉบับ​นี้​ยัง​มาจาก​บรรพบุรุษ​แคว้น​กู่​เฉิน​ เฉินฉี​หลู่​

หาก​ไตร่ตรอง​ดู​ดี ๆ​ ก็​จะรู้​ได้​ว่า​กรรม​นี้​แท้จริง​แล้ว​ เกิดขึ้น​เพราะอะไร​กัน​แน่​ !

คิด​แล้ว​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ก็​คำราม​ออกมา​ด้วย​ความโมโห​ “เฉินฉี​หลู่​ แคว้น​กู่​เฉิน​ กล้า​มอบ​สานส์น​ที่​แฝงไว้​ด้วย​กรรม​อัน​หนักหนา​ถึงเพียงนี้​ให้​ข้า​”

“เดิม​ข้า​คิด​จะรับ​สาส์น​ฉบับ​นี้​ แล้ว​หยุด​สงคราม​ใน​ครา​นี้​เพื่อ​แคว้น​กู่​เฉิน​ของ​พวก​เจ้า แต่​พวก​เจ้ากลับ​ต้อง​การทำร้าย​ข้า​ คิด​ว่า​ข้า​จะยอม​ถูก​รังแก​ง่าย ๆ​ เยี่ยง​นั้น​หรือ​ ! ”

ทันทีที่​สิ้น​เสียง​

ภาพ​อัน​แปลกประหลาด​ก็​ปรากฏ​ขึ้น​อีกครั้ง​

หมอก​สีเลือด​ที่​ดำคล้ำ​และ​แปลกประหลาด​บน​สาส์น​ฉบับ​นั้น​ก็​พลุ่งพล่าน​ออกมา​มิหยุด​

เวลา​ผ่าน​ไป​มิกี่​อึดใจ​

ภายใน​หมอก​เลือด​ที่​เข้มข้น​และ​ชั่วร้าย​ก็​ปรากฏ​เงาร่าง​หนึ่ง​ขึ้น​มาลาง​ ๆ

เงาร่าง​นี้​ช่างน่ากลัว​ยิ่งนัก​ เพียงแค่​ไอ​พลัง​ที่​แผ่​ออกมา​รอบกาย​ก็​ทำให้​รอบ​ ๆ เกิด​รอย​แตกร้าว​ขึ้น​มิหยุด​

ขณะเดียวกัน​สัญลักษณ์​สีเลือด​อัน​น่าสะพรึงกลัว​ก็​กระพริบ​ขึ้น​อย่าง​ต่อเนื่อง​ และ​เปล่งแสง​อัน​น่ากลัว​ออกมา​

“หึ​ เจ้าช่างบังอาจ​ยิ่งนัก​ ถึงกับ​กล้า​ตัด​พลัง​กรรม​นี้​เชียว​หรือ​”

เสียง​แหบแห้ง​และ​น่ากลัว​ค่อย ๆ​ ดัง​ขึ้น​

พร้อมกับ​แผ่​พลัง​ปราณ​ที่​ชวน​ให้​ขนลุก​ขนพองสยองเกล้า​บางอย่าง​ออกมา​ด้วย​

ทว่า​ใน​ตอนนั้น​เอง​จู่ ๆ ร่าง​ทอง​ที่ตั้ง​ตระหง่าน​อยู่​เบื้องบน​กลับ​เปล่งแสง​อัน​เจิดจ้า​และ​ทรงพลัง​ออกมา​ มีคลื่น​แสงมากมาย​สาดส่อง​ออกมา​มิหยุด​ สัญลักษณ์​โบราณ​โปรยปราย​ลงมา​ราวกับ​ฝนดาวตก​ก็​มิปาน​

ขณะเดียวกัน​ไอ​พลัง​มหาศาล​ที่​สงบ​เยือกเย็น​ก็​ปกคลุม​ไป​ทั่ว​อาราม​แห่ง​นี้​ รวมทั้ง​เขา​ตะวันออก​เอาไว้​ภายใน​พริบตา​

อีก​ทั้ง​ยัง​แผ่ขยาย​ออก​ไป​อย่าง​มิสิ้นสุด​

ทันใดนั้น​ก็​มีความรู้สึก​ราวกับ​ร่าง​ทอง​มีชีวิต​ขึ้น​มาอย่างไร​อย่างนั้น​ และ​พยายาม​จะสังหาร​ร่าง​ใน​หมอก​สีเลือด​นั้น​ด้วยตัวเอง​

ทว่า​ยัง​มิทัน​ที่​ร่าง​ทอง​จะตื่นขึ้น​มา

ร่าง​เงาอัน​น่ากลัว​ที่​ออก​มาจาก​สาส์น​ฉบับ​นั้น​ เหมือนกับ​จะรับ​ไอ​พลัง​ที่​สงบ​เยือกเย็น​และ​ปกคลุม​ฟ้าดิน​เอาไว้​มิไหว​ จึงเริ่ม​สั่นเทา​ขึ้น​มา

“แม้ข้า​จะมิรู่​ว่า​เจ้าเป็น​ใคร​กัน​แน่​ แต่​สักวัน​พวกเรา​คงจะ​ได้​พบกัน​อีก​ครา​แน่​”

“ถึงตอนนั้น​ข้า​จะทำให้​เจ้าต้อง​ชดใช้​ ใน​สิ่งที่​เจ้าทำ​ลง​ไป​ใน​วันนี้​อย่าง​แสน​สาหัส​…”

เสียง​แหบแห้ง​และ​น่ากลัว​ยัง​เอ่ย​มิทัน​จบ​ประโยค​

“เปรี๊ยง​ ! ”

สายฟ้า​ทำลายล้าง​สาย​หนึ่ง​ก็​ปรากฏ​ขึ้น​กลางอากาศ​ ก่อน​จะฟาดฟัน​ลง​บน​ร่าง​สีเลือด​ใน​วินาที​ต่อมา​

ทันทีที่​ได้​เห็นภาพ​ตรงหน้า​ ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​เหมือน​สัมผัส​ได้​ถึงไอ​พลัง​ต้องห้าม​บางอย่าง​ ใบ​หน้าที่​เต็มไปด้วย​ริ้วรอย​พลัน​ตื่นตระหนก​ขึ้น​มา

ต้อง​ยอมรับ​ว่า​ร่าง​ลึกลับ​นั้น​ ทำให้​ข้า​หวาดหวั่น​มิน้อย​จริง ๆ​

ทว่า​เมื่อ​เทียบ​กับ​ไอ​พลัง​ของ​สายฟ้า​ทำลายล้าง​สาย​นั้น​แล้ว​ ความหวาดกลัว​ที่​มีต่อ​ร่าง​ลึกลับ​นั่น​ถือว่า​เทียบ​มิติด​เลย​ก็​ว่า​ได้​

เพราะ​เขา​เคย​บั่นทอน​ตบะ​บารมี​ของ​ตัวเอง​มาแล้ว​ครั้งหนึ่ง​ ย่อม​รู้ดี​ว่า​ไอ​พลัง​นี้​แท้จริง​แล้ว​หมายถึง​สิ่งใด​

‘ใช่แล้ว​ ! ’

‘ไอ​พลัง​นี้​ราวกับ​อสนีบาต​พิฆาต​ ที่​ฟาด​ลงมา​ตอน​ทดสอบ​เพื่อ​เป็น​เซียน​มิมีผิด​’

‘มิใช่ ! ’

‘มัน​เป็น​คือ​ไอ​พลัง​เดียวกัน​ต่างหาก​ ! ’

‘เช่นนี้​ผู้อาวุโส​เย่​ที่​เร้น​กาย​ ณ เมือง​เสี่ยว​ฉือ​ก็​ยิ่ง​ลึกลับ​ขึ้น​เรื่อย ๆ​ ’

‘สามารถ​ขจัด​หายนะ​ได้​โดยง่าย​’

‘อิทธิฤทธิ์​ปาฏิหาริย์​เช่นนี้​ ! ’

‘ความประสงค์​เช่นนี้​ ! ’

‘ต่อให้​อยู่​บน​สวรรค์​ ย่อม​จะต้อง​เก่งกาจ​กว่า​ผู้อื่น​อย่าง​แน่นอน​ ! ’

‘เมื่อ​ครู่​ตอนที่​ผู้อาวุโส​เย่​และ​จักรพรรดิ​ไร้​ราตรี​ผู้​ชั่วร้าย​เผชิญหน้า​กัน​ ทว่า​กลับ​มีแค่​จักรพรรดิ​ไร้​ราตรี​ผู้​นั้น​ที่​พูด​ออกมา​อยู่​ฝ่าย​เดียว​ราวกับ​คนบ้า​’

‘ผู้อาวุโส​เย่​แม้มิได้​เอ่ย​สิ่งใด​ออกมา​ ทว่า​เพียง​สายฟ้า​พิฆาต​รุนแรง​นั้น​ ก็​เพียง​พอที่จะ​ทำให้​จักรพรรดิ​ไร้​ราตรี​หุบปาก​ลง​ได้​แล้ว​’

‘กล่าวอีกนัยหนึ่ง​ก็​คือ​ผู้อาวุโส​เย่​นั้น​รังเกียจ​ที่จะ​สนทนา​กับ​คน​เช่น​จักรพรรดิ​ไร้​ราตรี​ก็​ว่า​ได้​’

‘อำนาจ​เช่นนี้​ ! ’

‘เห็นได้ชัด​ว่า​ตบะ​บารมี​ของ​ผู้อาวุโส​เย่อ​ยู่​เหนือกว่า​จักรพรรดิ​ไร้​ราตรี​ผู้​นี้​มาก​เพียงใด​’

‘ส่วน​ผู้​ที่​เรียก​ตัวเอง​ว่า​จักรพรรดิ​ไร้​ราตรี​ คาด​ว่า​คง​มิได้​เก่งกาจ​กว่า​ข้า​ ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ และ​พวก​เยี่ยน​เทียน​ซาน​มาก​นัก​’

‘ยิ่ง​ใน​สายตา​ของ​ผู้อาวุโส​เย่​แล้ว​ ก็​คงจะ​อ่อนแอ​มิต่าง​อัน​ใด​กับ​มด​ปลวก​’

‘อืม​ ! ’

ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ !

“เฉินฉี​หลู่​ จงมารับ​ความตาย​ซะ ! ”

เสียง​ของ​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ดังก้อง​ราวกับ​อสนีบาต​ กึกก้อง​ไป​ทั่ว​ทั้ง​เมืองหลวง​แทบจะ​ในทันที​ จน​เกิด​ความโกลาหล​ขึ้น​

มินาน​ลำแสง​สาย​หนึ่ง​ก็​พุ่ง​ออก​มาจาก​ส่วนลึก​ของ​สิ่งก่อสร้าง​โบราณ​ฝั่งหนึ่ง​

มิกี่​อึดใจ​ต่อมา​เฉินฉี​หลู่​และ​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ก็ได้​ยืน​เผชิญหน้า​กัน​

“ผู้อาวุโส​ซีเห​มิน​ แคว้น​ต้าเยี่ยน​และ​แคว้น​ต้าเซี่ย​ยอม​ถอยทัพ​กลับ​ไป​เร็ว​เพียงนี้​เลย​หรือ​ขอรับ​ ? ”

เมื่อ​เห็น​ท่าทาง​ดุดัน​ของ​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​แล้ว​

เฉินฉี​หลู่​ถึงกับ​ต้อง​กลืนน้ำลาย​ลงคอ​อย่า​งอด​มิได้​ พลาง​เอ่ย​ถามเป็นการ​หยั่งเชิง​ออก​ไป​

ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​มีท่าทาง​เย็นชา​ สาย​ตาวาว​โรจน์​ ปรายตา​มอง​เฉินฉี​หลู่​ พร้อมกับ​คำราม​ขึ้น​มาว่า​ “เฉินฉี​หลู่​ สาส์น​ฉบับ​นั้น​มาจาก​ที่ใด​กัน​แน่​ เจ้าได้​มัน​มาได้​เยี่ยง​ไร​ เกรง​ว่า​เจ้าคง​มีคำตอบ​ให้​กับ​ข้า​แล้ว​ใช่หรือไม่​ ? ”

เฉินฉี​หลู่​ได้ยิน​เช่นนั้น​ก็​มีสีหน้า​เปลี่ยนไป​ พร้อมกับ​เผย​ท่าที​หวาดกลัว​ออกมา​อย่าง​เห็นได้ชัด​

“ผู้อาวุโส​ซีเห​มิน​ ท่าน​หมายความ​เช่นไร​หรือ​ขอรับ​ ? ”

เฉินฉี​หลู่​พยายาม​เอ่ย​ตอบ​อย่าง​สงบสติอารมณ์​ “ผู้น้อย​เป็น​ทายาท​ของ​จักรพรรดิ​ไร้​ราตรี​ ผู้​ที่​พวกเรา​บูชา​ก็​คือ​จักรพรรดิ​ไร้​ราตรี​ สาส์น​นี้​ย่อม​เป็น​สาสน์​ที่​จักรพรรดิ​ไร้​ราตรี​เป็น​ผู้​ประทาน​ให้​อยู่แล้ว​”

“เฉินฉี​หลู่​ เจ้าช่างบังอาจ​นัก​ ! ”

“เรื่อง​มาถึงขั้น​นี้​แล้ว​ เจ้ายัง​คิด​ว่า​จะรอดไป​ได้​อีก​เยี่ยง​นั้น​หรือ​ ! ”

ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​เอ่ย​ด้วย​น้ำเสียง​เกรี้ยวกราด​ “ใน​เมื่อ​เจ้ามิยอม​พูดความจริง​ เช่นนั้น​พวก​เจ้าก็​มิมีความจำเป็น​ที่จะ​ต้อง​อยู่​ต่อ​อีกแล้ว​”

“และ​ข้า​จะบอก​ให้​เจ้ารู้​เอาไว้​ ต่อให้​เจ้ายอมรับ​ความจริง​กับ​ข้า​ วันนี้​ข้า​ก็​จะทำลาย​ตระกูล​ของ​เจ้าอยู่ดี​ กรรม​ใน​การ​โค่นล้ม​แคว้น​กู่​เฉิน​ ข้า​ยอมรับ​ไว้​เอง​ ! ”

ยัง​มิทัน​สิ้น​เสียง​ รอบกาย​ของ​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ก็​เกิด​ลมพายุ​ขึ้น​ ปราณ​วิญญาณ​ฟ้าดิน​พลุ่งพล่าน​ขึ้น​มาอย่าง​บ้าคลั่ง​ พลัง​ฟ้าดิน​จำนวน​มหาศาล​ปะทะ​ใส่เฉินฉี​หลู่​ในทันที​ราวกับ​ภูผา​

ขณะเดียวกัน​ไอ​สังหาร​อัน​น่ากลัว​ก็​ปกคลุม​ไป​ทั่ว​ทั้ง​เมืองหลวง​แทบจะ​ใน​พริบตา​ ราวกับ​จะผนึก​เมือง​ทั้งเมือง​เอาไว้​

“ผู้อาวุโส​ซีเห​มิน​ ได้​โปรด​ยั้ง​มือ​ก่อน​ ! ”

เฉินฉี​หลู่​มีสีหน้า​ซีดเผือด​ เหงื่อกาฬ​ไหล​เย็น​ และ​ร้องขอ​ขึ้น​มาอย่าง​สิ้นหวัง​

เพราะ​เขา​มีตบะ​บารมี​เพียง​ขั้นสูงสุด​ของ​แดน​เทวา​เท่านั้น​

อีก​ทั้ง​ทั่ว​ทั้ง​เมืองหลวง​มีเพียง​เขา​ที่​ตบะ​บารมี​สูงส่งและ​แข็งแกร่ง​ที่สุด​แล้ว​

ทว่า​ผู้​ที่อยู่​ตรงหน้า​มีตบะ​บารมี​เช่นไร​

เขา​ย่อม​รู้ดี​อยู่​แก่​ใจ

“เฉินฉี​หลู่​ เจ้าจำเอาไว้​”

ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​เอ่ย​ขึ้นเสียง​เข้ม​ พร้อมกับ​ท่าทาง​เย็นชา​ “วันนี้​ต่อให้​จักรพรรดิ​ไร้​ราตรี​ผู้​นั้น​มาอยู่​ตรงหน้า​ก็​มิอาจ​ขัดขวาง​ข้า​ได้​ แคว้น​ของ​พวก​เจ้าสมควร​ล่มสลาย​ไป​ซะ ! ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน