เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน นิยาย บท 280

สรุปบท ตอนที่ 280 ที่แท้ข้าก็คือ...: เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน

ตอนที่ 280 ที่แท้ข้าก็คือ... – ตอนที่ต้องอ่านของ เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน

ตอนนี้ของ เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายแปลทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 280 ที่แท้ข้าก็คือ... จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตอนที่​ 280 ที่แท้​ข้า​ก็​คือ​…

สิ้น​เสียง​ ไอ​สังหาร​บน​กาย​ของ​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ก็​พลุ่งพล่าน​ขึ้น​มาอีกครั้ง​

ขณะเดียวกัน​เขา​ก็ได้​ยื่น​นิ้ว​ออกมา​หนึ่ง​นิ้ว​ จากนั้น​ก็​แตะ​ลง​ไป​กลางอากาศ​

ทันใดนั้น​เบื้องหน้า​ของ​เขา​ ก็​มีแสงอัน​เจิดจ้า​จน​ตา​พร่ามัว​ส่อง​ออกมา​

วินาที​ต่อมา​ ช่องว่าง​ระหว่าง​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​และ​เฉินฉี​หลู่​ก็​เกิด​บิดเบี้ยว​ ก่อน​จะพังทลาย​ลง​

ขณะที่​แสงสาย​นั้น​ห่าง​จาก​เฉินฉี​หลู่​เพียง​ครึ่ง​เชียะ​ พลัง​ฟ้าดิน​มหาศาล​พุ่งพล่าน​ขึ้น​ตรงหน้า​ของ​เฉินฉี​หลู่​

“ปัง​ ! ”

จู่ ๆ ก็​มีเสียงดัง​กึกก้อง​ขึ้น​

ด้านหลัง​ของ​เฉินฉี​หลู่​พลัน​เกิด​หมอก​โลหิต​กลุ่ม​ใหญ่​พุ่ง​ออกมา​

จากนั้น​เขา​ก็​ร่วง​ลงมา​ด้านล่าง​ราวกับ​ว่าว​ที่​สาย​ป่าน​หลุดลอย​

แม้จะเป็น​เช่นนั้น​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ก็​ยัง​มิมีทีท่า​ว่า​จะยั้ง​มือ​

มือ​ทั้งสอง​ข้าง​ของ​เขา​ทำท่า​มุทรา​ พลัง​เวทย์​รอบกาย​ปะทุ​ขึ้น​ สัญลักษณ์​โบราณ​ปรากฏ​ขึ้น​อีกครั้ง​ พลัง​ฟ้าดิน​อัน​ปั่นป่วน​ปกคลุม​ไป​ทั่ว​ทั้ง​บริเวณ​นั้น​

“สังหาร​ ! ”

เพียง​พริบตา​วินาที​ที่​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ประสาน​ตราประทับ​ และ​คำราม​ออกมา​

ใน​ตอนนั้น​เอง​พลัง​ฟ้าดิน​มหาศาล​ก็​พวยพุ่ง​ออกมา​ ปราณ​วิญญาณ​ฟ้าดิน​แปรปรวน​และ​คลุ้มคลั่ง​สุด​จะต้านทาน​

มินาน​ตราประทับ​อัน​แข็งแกร่ง​ดุจ​ภูผา​ ที่​ห่อหุ้ม​เอาไว้​ด้วย​พลัง​ปราณ​ทำลายล้าง​ ก็​พุ่ง​ลง​ไป​ทาง​วังหลวง​ทันที​

ทว่า​ใน​ตอนนั้น​เอง​ ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ที่​มีใบหน้า​เย็นชา​ก็​แค่น​เสียง​เย็น​ออกมา​ ก่อนที่จะ​แปลง​เป็น​ลำแสง​สาย​หนึ่ง​ พุ่ง​ไป​ทาง​ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ​

………………………..

อีก​ด้าน​หนึ่ง​

หลัง​ได้รับ​หิน​หุน​หยวน​หนึ่ง​ล้าน​ก้อน​มา

เย่​ฉางชิงก็​กลับมา​บำเพ็ญ​เพียร​อย่าง​ไม่กิน​ไม่นอน​อีกครั้ง​

แม้จนถึง​บัดนี้​เขา​จะยัง​มิรู้​ว่า​ราก​วิญญาณ​ของ​ตน​นั้น​แท้จริง​แล้ว​มีคุณสมบัติ​เช่นไร​

อีก​ทั้ง​ความก้าวหน้า​ใน​การ​บำเพ็ญ​เพียร​จะยัง​มิพัฒนา​ขึ้น​มาก​นัก​

แต่​เขา​เข้าใจ​เหตุผล​ข้อ​หนึ่ง​เป็น​อย่าง​ดี​

ขอ​เพียง​พยายาม​มาก​พอ​ ก็​สามารถ​ฝน​ทั่ง​ให้​กลายเป็น​เข็ม​ได้​ !

ที่​สำคัญ​ที่สุด​ก็​คือ​

เขา​เอง​ก็​มิได้​คาดหวัง​อะไร​มาก​นัก​

ขอ​เพียง​หลังจาก​กลั่น​หิน​หุน​หยวน​หนึ่ง​ล้าน​ก้อน​นี้​หมด​

ตบะ​บารมี​ของ​ตน​สามารถ​เลื่อน​ขึ้น​ถึงแดน​ก่อกำเนิด​ได้​ เท่านี้​ก็​รับประกัน​ได้​แล้ว​ว่า​เขา​จะสามารถ​เดินทาง​ไป​ทั่ว​ดินแดน​จงหยวน​ได้​อย่าง​ราบรื่น​

เพียงเท่านี้​เขา​ก็​พอใจ​มาก​แล้ว​

ส่วน​ระดับ​ที่สูง​ขึ้นไป​กว่า​แดน​ก่อกำเนิด​นั้น​ หรือ​การ​จะบรรลุ​เป็น​เซียน​เช่น​ใน​ตำนาน​ได้​

เขา​มิได้​ร้องขอ​มากมาย​ถึงเพียงนั้น​ และ​มิเคย​คิดถึง​เรื่อง​นี้​มาก่อน​เสีย​ด้วยซ้ำ​

ทว่า​จน​เวลา​ผ่าน​ไป​ได้​สอง​เดือน​

เย่​ฉางชิงก็​กลั่น​หิน​หุน​หยวน​ไป​แล้ว​เกือบ​หมื่น​ก้อน​โดย​มิรู้ตัว​

ทว่า​สิ่งที่​ทำให้​เขา​หงุดหงิด​ก็​คือ​

แม้ความเร็ว​ใน​การ​กลั่น​หิน​หุน​หยวน​จะเพิ่มขึ้น​เป็น​เท่าตัว​ แต่​ตบะ​บารมี​กลับ​มิได้​มีความก้าวหน้า​ใด​ ๆ จาก​ระดับ​รวม​ชีพจร​เลย​แม้แต่น้อย​

‘นี่​มัน​เรื่อง​อะไร​กัน​ ? ’

‘ต่อให้​ข้า​กลั่น​หิน​หุน​หยวน​ทั้ง​หนึ่ง​ล้าน​ก้อน​จน​หมด​แล้ว​ เกรง​ว่า​ตบะ​บารมี​ก็​คง​ยัง​มิถึงแดน​สร้าง​แก่น​ หรือ​แม้แต่​ระดับ​สร้าง​รากฐาน​ปราณ​กระมัง​ ? ’

‘อย่า​กลั่นแกล้ง​ข้า​เช่นนี้​เลย​นะ​!’

วันนี้​ท้องฟ้า​สว่าง​สดใส​ มีลม​พัด​มาอ่อน​ ๆ ใน​ระหว่าง​ที่​เย่​ฉางชิงเดิน​ออก​มาจาก​ห้อง​ด้วย​สีหน้า​หดหู่​ และ​จำต้อง​ใช้การ​วาดภาพ​เป็นการ​ระบาย​ความทุกข์​ภายในใจ​อยู่​นั้น​

จู่ ๆ ก็​มีร่าง​เล็ก​ ๆ หลาย​ร่าง​ขี่​กระบี่​มา ก่อน​จะพุ่ง​ลง​ไป​ตามที่​ต่าง ๆ​ ของ​เมือง​เสี่ยว​ฉือ​ ทว่า​จากนั้น​ก็​มิมีสิ่งใด​ ๆ เกิดขึ้น​

หลังจากนั้น​เมื่อ​เวลา​ผ่าน​ไป​เกือบ​หนึ่ง​ชั่ว​ยาม​

ประตู​เรือน​ของ​เย่​ฉางชิงก็​มีเสียงเคาะ​ดัง​ขึ้น​

“ท่าน​เย่อ​ยู่​หรือไม่​ ? ”

“ท่าน​เย่​ ข้า​หมา​น้อย​ ข้า​นำ​ไข่ไก่​มาให้​ขอรับ​”

“ท่าน​เย่​ ข้า​หมา​รอง​ พวกเรา​ลง​จาก​เขา​มาเยี่ยม​ท่าน​แล้ว​ขอรับ​”

“……”

เย่​ฉางชิงได้ยิน​เช่นนั้น​พลัน​ชะงัก​พู่กัน​ใน​มือ​ค้าง​ไว้​ ก่อน​จะอึ้ง​ไป​เล็กน้อย​

พวก​ห​ลี่​หมา​น้อย​แม้จะผ่านการทดสอบ​ของ​ดินแดน​ศักดิ์สิทธิ์​ไท่​เสวียน​ และ​ได้​บำเพ็ญ​เพียร​อยู่​ที่​ดินแดน​ศักดิ์สิทธิ์​ไท่​เสวียน​

‘เด็กน้อย​ทั้ง​เจ็ด​คน​ที่อยู่​ในที่นี้​บำเพ็ญ​เพียร​ยัง​มิถึงหนึ่ง​ปี​ ทว่า​บัดนี้​กลับ​มีตบะ​บารมี​ระดับ​สร้าง​รากฐาน​ปราณ​แล้ว​งั้น​หรือ​’

‘ส่วน​ข้า​จนถึง​บัดนี้​ยังมี​ตบะ​บารมี​เพียง​ระดับ​รวม​ชีพจร​ขั้นต้น​เท่านั้น​ ! ’

‘ที่แท้​ ! ’

‘ที่แท้​ข้า​ก็​คือ​…’

“ท่าน​เย่​ ท่าน​เป็น​อะไร​ไป​หรือ​ขอรับ​ ? ”

จ้าวก​วง​อี้​ราวกับ​สัมผัส​ได้​ถึงท่าที​ที่​แปลก​ไป​ของ​ท่าน​เย่​ และ​พอ​คิดได้​จึงเอ่ย​ถามออกมา​เบา​ ๆ

เย่​ฉางชิงหลังจาก​ได้สติ​ จึงส่ายหน้า​ไปมา​ด้วย​รอยยิ้ม​

“ใน​เมื่อ​พวก​เจ้ากลับมา​ทั้งที​ เช่นนั้น​เล่า​ให้​ข้า​ฟังหน่อย​สิว่า​ พวก​เจ้าอยู่​ที่​ดินแดน​ศักดิ์สิทธิ์​ไท่​เสวียน​เป็น​เช่นไร​กัน​บ้าง​”

เย่​ฉางชิงเอ่ย​ขึ้น​ พร้อมกับ​เชิญเด็ก​ ๆ เหล่านั้น​เข้าไป​ยัง​ลาน​ด้านหลัง​

“ท่าน​เย่​ ข้า​รู้สึก​ว่าการ​บำเพ็ญ​เพียร​นั้น​ช่างง่าย​ยิ่งนัก​”

เว่ยจง​เซียน​ที่​มีใบหน้า​กลม​ป้อม​หัวเราะ​ร่วน​ออกมา​ หลังจาก​ดื่ม​ชาของ​เย่​ฉางชิงไป​อึก​หนึ่ง​ “จำได้​ว่า​ตอนที่​ท่าน​เย่​สอนหนังสือ​ข้า​ ตอนนั้น​ข้า​รู้สึก​ราวกับ​ฟังคัมภีร์​สวรรค์​ก็​มิปาน​ ข้า​มิเข้าใจ​แม้แต่น้อย​”

“ใช่แล้ว​ ตอนนั้น​ข้า​เอง​ก็​คิด​เช่นนั้น​”

ฟาน​จงห​ยาน​ที่​มีใบหน้า​งดงาม​ พยักหน้า​เห็นด้วย​ “แต่​หลังจาก​ได้​เรียน​กับ​ท่าน​เย่​มาหลาย​ปี​ พอได้​ไป​บำเพ็ญ​เพียร​ที่​ดินแดน​ศักดิ์สิทธิ์​ไท่​เสวียน​ กลับ​พบ​ว่า​เคล็ด​วิชา​อัน​ซับซ้อน​เหล่านั้น​ กลับ​ง่ายดาย​ราวกับ​ดื่ม​ชาก็​มิปาน​”

ห​ลี่​ชุน​เฟิงเอ่ย​เสริม​ขึ้น​อย่าง​กระตือรือร้น​ “ยัง​จำได้​ว่า​ ครา​แรก​ที่​ข้า​อ่าน​คัมภีร์​กระบี่​จิน​หยวน​ วัน​ที่สอง​ศิษย์​พี่​อวิ๋น​ถามข้า​ว่า​อ่าน​ไป​ถึงไหน​แล้ว​ สุดท้าย​ข้า​ก็ได้​ท่อง​ให้​เขา​ฟังต่อ​หน้าเสีย​เลย​”

“ตอนนั้น​พวก​เจ้ามิเห็น​ท่าทาง​ของ​ศิษย์​พี่​อวิ๋น​ ตลก​เป็นบ้า​เลย​ ฮ่า ๆ …”

“ห​ลี่​ชุน​เฟิง เจ้ายัง​มีหน้า​มาพูด​อีก​”

จ้าวก​วง​อี้​กลอกตา​ใส่ห​ลี่​ชุน​เฟิงที่​กำลัง​หัวเราะ​ด้วย​ความตลกขบขัน​ ก่อน​จะเอ่ย​ต่อ​ “ก่อนหน้านี้​มินาน​ศิษย์​พี่​ลู่​บอก​ข้า​ว่า​ เพราะ​ปาก​มิมีหูรูด​ของ​เจ้า จึงทำให้​ครา​หนึ่ง​ศิษย์​พี่​อวิ๋นทน​รับ​ใน​สิ่งที่​เจ้าพูด​มิได้​ หาก​มิใช่เพราะ​ศิษย์​พี่​ลู่​และ​อาจารย์​ห้าม​เอาไว้​ เขา​เกือบจะ​โดด​เขา​ด้านหลัง​ไป​แล้ว​”

“ใคร​ใช้ให้​พวกเขา​มีพรสวรรค์​อ่อนด้อย​เช่นนั้น​กัน​เล่า​ หาก​เป็น​ข้า​คง​โดด​ไป​นาน​แล้ว​”

“……”

เมื่อ​เห็น​เด็ก​พวก​นี้​ตอบโต้​กัน​ไปมา​อย่าง​ออกรส​ออก​ชาติ​และ​สนุกสนาน​แล้ว​

เย่​ฉางชิง (;′⌒`)

ต้อง​บอ​กว่า​เวลานี้​สมอง​ของ​เขา​นั้น​กลับ​ขาวโพลน​ไป​หมด​

มิหนำซ้ำ​ด้าน​จิตใจ​ เกรง​ว่า​คงจะ​ย่ำแย่​ยิ่งกว่า​ศิษย์​พี่​อวิ๋น​ผู้​นั้น​เสีย​อีก​

หาก​ตอนนี้​ตรงหน้า​ของ​เขา​เป็น​หน้าผา​ เขา​ก็​คงจะ​กระโดด​ลง​ไป​อย่าง​มิลังเล​แม้แต่น้อย​ และ​บอก​ลาโลก​แห่ง​การ​บำเพ็ญ​เพียร​นี้​ไป​แล้ว​จริง ๆ​

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน