เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน นิยาย บท 281

ตอนที่​ 281 ผู้คน​ดุจดั่ง​มังกร​ พอ​กางปีก​บิน​ก็​ทะยาน​ขึ้น​ฟ้า

ผ่าน​ไป​ประมาณ​ครึ่ง​ชั่ว​ยาม​

เย่​ฉางชิงเริ่ม​ทน​ฟังเด็ก​พวก​นี้​มิไหว​ และ​มิมีอารมณ์​ที่จะ​ถามเกี่ยวกับ​ปัญหา​ใน​การ​บำเพ็ญ​เพียร​อีกแล้ว​

เช่นนั้น​เขา​จึงใช้ข้ออ้าง​ขอตัว​ออก​ไป​ซื้อ​สุรา​ เพื่อ​พา​เด็ก​พวก​นี้​กลับ​ไป​

แต่​ระหว่าง​ที่​ทุกคน​กำลังจะ​กลับ​นั้น​

เย่​ฉางชิงก็ได้​กำชับ​จ้าวก​วง​อี้​ที่​ค่อนข้าง​สุขุม​เป็นพิเศษ​ว่า​ ให้​มาพบ​เขา​อีกครั้ง​ใน​ช่วง​พลบค่ำ​

รอ​จนถึง​ช่วง​พลบค่ำ​

ระหว่าง​ที่​เย่​ฉางชิงกำลัง​ดื่ม​สุรา​คลายทุกข์​อยู่​นั้น​ ประตู​หน้า​เรือน​ก็​มีเสียงเคาะ​ดัง​ขึ้น​

“ท่าน​เย่​ ศิษย์​จ้าวก​วง​อี้​มาแล้ว​ขอรับ​”

เสียง​อ่อนโยน​ของ​จ้าวก​วง​อี้​ดัง​ขึ้น​มาจาก​ด้านนอก​ลาน​

เย่​ฉางชิงจึงลุก​ขึ้นไป​เปิด​ประตู​ให้​ทันที​

“กวง​อี้​ เจ้ามาแล้ว​หรือ​”

เย่​ฉางชิงเอ่ย​เชิญด้วย​รอยยิ้ม​ “เข้ามา​คุย​กัน​ข้างใน​เถอะ​”

หลังจาก​เย่​ฉางชิงเชิญเข้ามา​เรียบร้อย​แล้ว​ ทั้งสอง​ก็ได้​นั่งลง​เผชิญหน้า​กัน​

ต่อจากนั้น​เย่​ฉางชิงก็​ค่อย ๆ​ ริน​ชาให้​จ้าวก​วง​อี้​อย่าง​มิรี​บมิ​ร้อน​ ก่อน​จะเอ่ย​ขึ้น​ว่า​

“กวง​อี้​ เจ้าก็​รู้​ว่า​ข้า​เป็น​คน​ชอบ​ความสงบ​ เช่นนั้น​ข้า​จึงจำต้อง​อ้าง​เรื่อง​สุรา​ขึ้น​มา เพื่อ​ที่​พวกเขา​จะได้​จากไป​”

“อีก​ทั้ง​เจ้ายัง​มีอายุ​มาก​ที่สุด​ใน​บรรดา​พวกเขา​ นิสัย​ก็​ยัง​สุขุม​ที่สุด​ เช่นนั้น​ข้า​จึงตัดสินใจ​ให้​เจ้ามาพบ​ข้า​เพียงลำพัง​”

จ้าวก​วง​อี้​ยิ้ม​ออกมา​อย่าง​ใสซื่อ​ พลาง​พยักหน้า​เห็นด้วย​ “ท่าน​เย่​พูด​ถูก​แล้ว​ขอรับ​”

“เจ้าเอง​ก็​มิต้อง​คิดมาก​หรอก​นะ​”

เย่​ฉางชิงเอ่ย​ขึ้น​อี​กว่า​ “ข้า​เห็น​พวก​เจ้ามาตั้งแต่​เด็ก​ อีก​ทั้ง​ยัง​เคย​เป็น​อาจารย์​ของ​พวก​เจ้ามาก่อน​ และ​ใน​เมือง​เสี่ยว​ฉือ​แห่ง​นี้​ข้า​ก็​มิมีญาติ​ที่ไหน​ เช่นนั้น​ใน​สายตา​ของ​ข้า​พวก​เจ้าล้วนแต่​เป็น​ครอบครัว​ของ​ข้า​”

ได้ยิน​เช่นนั้น​ จ้าวก​วง​อี้​ก็​มีสีหน้า​เปลี่ยนไป​

เนื่องด้วย​ใน​บรรดา​พวกเขา​ทั้งหมด​ เขา​นั้น​ถือว่า​มีอายุ​มาก​ที่สุด​และ​มีนิสัย​สุขุม​กว่า​ใคร​เพื่อน​

เช่นนั้น​ก่อน​จะลง​จาก​เขา​ นักพรต​หยวน​เจี้ยน​ผู้​เป็น​อาจารย์​ ยัง​ได้​เรียก​เขา​ไป​คุย​เป็นการ​ส่วนตัว​อีกด้วย​

ทว่า​นักพรต​หยวน​เจี้ยน​ได้​บอก​เขา​ว่า​

ท่าน​เย่​ผู้​อยู่​ตรงหน้า​ท่าน​นี้​เป็น​บรรพ​จารย์​ท่าน​หนึ่ง​ของ​ดินแดน​ศักดิ์สิทธิ์​ไท่​เสวียน​

อีก​ทั้ง​ใน​ช่วง​ที่​พวกเขา​บำเพ็ญ​เพียร​อยู่​บน​เขา​

ท่าน​เย่​ยัง​ได้​ประทาน​โอกาส​และ​วาสนา​มากมาย​ให้​แก่​ดินแดน​ศักดิ์สิทธิ์​ไท่​เสวียน​

และ​ที่​สำคัญ​ที่สุด​ก็​คือ​ การ​ที่​พวกเขา​มีพรสวรรค์​มาก​ถึงเพียงนี้​ มีความเป็นไป​ได้มา​กว่า​เป็น​เพราะ​ท่าน​เย่​ได้​สำแดง​อิทธิฤทธิ์​ปาฏิหาริย์​อัน​ไร้​เทียมทาน​บางสิ่งบางอย่าง​

ทำให้​พวกเขา​เปลี่ยน​ร่าง​ถอด​กระดูก​กลายเป็น​คน​ใหม่​ ถึงขนาด​ทำให้​คุณภาพ​ราก​วิญญาณ​ที่​มีมาแต่กำเนิด​ของ​พวกเขา​นั้น​เปลี่ยนแปลง​ไป​…

หลังจาก​ได้ยิน​สิ่งที่​นักพรต​หยวน​เจี้ยน​พูด​มา

จ้าวก​วง​อี้​ราวกับ​มีเสียง​วิ๊ง​ดัง​ขึ้น​ใน​โสตประสาท​ ทั้งหมด​นี้​ล้วน​เป็น​สิ่งที่​ยาก​จะเชื่อ​ว่า​เป็น​เรื่องจริง​

แต่​เมื่อ​ลอง​พิจารณา​อย่าง​ละเอียดถี่ถ้วน​แล้ว​ กลับเป็น​เช่นนั้น​จริง ๆ​

เพราะ​ก่อนหน้านี้​เวลา​ที่​ดินแดน​ศักดิ์สิทธิ์​ไท่​เสวียน​มารับสมัคร​ศิษย์​ที่​เมือง​เสี่ยว​ฉือ​ ก็​ล้วนแต่​ต้อง​กลับ​ไป​มือเปล่า​แทบจะ​ทุกครั้ง​

ทว่า​ครั้งนี้​ทุกคน​ที่​เข้าร่วม​การ​ทดสอบ​ ล้วนแล้วแต่​เป็น​อัจฉริยะ​แห่ง​การ​บำเพ็ญ​เพียร​ทั้งสิ้น​

เพียงเท่านี้​เรื่อง​ทั้งหมด​ก็​ชัดเจน​มาก​พอแล้ว​

แต่​ท่าน​เย่​กลับ​บอ​กว่า​พวกเขา​เป็น​คนใน​ครอบครัว​

แค่​คิด​ก็​รู้​แล้ว​ว่า​คำพูด​เช่นนี้​ ส่งผล​ต่อ​จิตใจ​ดวง​น้อย​ของ​จ้าวก​วง​อี้​เช่นไร​

สิ้น​เสียง​จ้าวก​วง​อี้​จึงรีบ​ยืน​ขึ้น​ทันที​ พร้อมกับ​โค้ง​คำนับ​ให้​แก่​เย่​ฉางชิง

“ท่าน​เย่​ พวกเรา​จะตั้งใจ​บำเพ็ญ​เพียร​ จะมิทำให้​ท่าน​ต้อง​ผิดหวัง​อย่าง​แน่นอน​ขอรับ​”

จ้าวก​วง​อี้​เอ่ย​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​หนักแน่น​

เย่​ฉางชิงจึงยิ้ม​ออกมา​ด้วย​ความพึงพอใจ​

คน​สุขุม​นุ่ม​ลึก​เช่นนี้​ การ​เล่น​กับ​ความรู้สึก​ช่างได้​ผลดี​จริง ๆ​

“กวง​อี้​ เจ้ามิต้อง​เกรงใจ​ข้า​ขนาด​นั้น​หรอก​ นั่งลง​คุย​กัน​ดี ๆ​ เถอะ​”

เย่​ฉางชิงโบกมือ​ไปมา​ให้​กับ​จ้าวก​วง​อี้​ ก่อน​จะเอ่ย​ด้วย​ท่าทาง​จริงจัง​

“จริง​สิ แม้ว่า​ระดับ​รวม​ชีพจร​จะเป็น​ระดับ​เริ่มต้น​ของ​การ​บำเพ็ญ​เพียร​ แต่​ดัง​คำกล่าว​ที่ว่า​พฤกษา​โอบล้อม​ เกิด​แต่​หน่อ​อ่อน​ หอคอย​เก้า​ชั้น​ เริ่ม​แต่​กอง​ดิน​”

“ตอนที่​พวก​เจ้าอยู่​ระดับ​รวม​ชีพจร​ ระหว่าง​รวบรวม​พลัง​ปราณ​เคย​เกิด​เหตุการณ์​ที่​แม้ว่า​ปราณ​วิญญาณ​เข้าสู่​ร่างกาย​จะเพียง​พอแล้ว​ แต่กลับ​มิรู้สึก​ถึงการเปลี่ยนแปลง​ของ​ระดับ​บ้าง​หรือไม่​ ? ”

เย่​ฉางชิงรู้ดี​ว่า​ใน​เมื่อ​เขา​ถูก​คน​ของ​ดินแดน​ศักดิ์สิทธิ์​ไท่​เสวียน​เข้าใจผิด​ว่า​เป็น​บรรพ​จารย์เย่​อะไร​นั่น​

การ​ไป​เยือน​ดินแดน​ศักดิ์สิทธิ์​ไท่​เสวียน​ทั้งสอง​ครั้ง​ก่อนหน้านี้​ แม้จะมิได้​พบ​กับ​พวก​จ้าวก​วง​อี้​ แต่​คิด​ว่า​พวกเขา​ก็​คง​ได้ยิน​ข่าวลือ​อะไร​มาบ้าง​เป็นแน่​

เช่นนั้น​เขา​จึงตัดสินใจ​ทำ​สิ่งที่​ตรงกันข้าม​

เขา​มิรอ​ให้​จ้าวก​วง​อี้​เป็น​ฝ่าย​เอ่ยปาก​ก่อน​ แต่กลับ​นำ​เอา​ปัญหา​ที่​เขา​เจอ​ใน​ระหว่าง​บำเพ็ญ​เพียร​ ชิงถามจ้าวก​วง​อี้​ขึ้น​เสีย​ก่อน​

เมื่อ​ได้ยิน​คำถาม​นั้น​ จ้าวก​วง​อี้​จึงได้​ครุ่นคิด​อยู่​สักพัก​ จากนั้น​จึงพยักหน้า​ลง​น้อย​ ๆ

“ท่าน​เย่​ ปัญหา​เช่นนี้​พวกเรา​ต่าง​ก็​เคย​พบ​มาจริง ๆ​ ขอรับ​”

จ้าวก​วง​อี้​เอ่ย​อย่าง​จริงจัง​

เย่​ฉางชิงได้ยิน​เช่นนั้น​ก็​เกิด​ความตื่นเต้น​ยิน​ดีขึ้น​มาทันที​ ทว่า​สีหน้า​กลับ​ยังคง​มีเพียง​รอยยิ้ม​บาง​ ๆ เช่นเคย​

เช่นนี้​ปัญหา​ใน​การ​บำเพ็ญ​เพียร​ของ​เขา​ก็​มีคำตอบ​แล้ว​น่ะ​สิ ?

“ท่าน​เย่​ ใน​ตอนที่​พวกเรา​เริ่ม​ลอง​รวม​ชีพจร​นั้น​ เกิด​การ​กลั่น​ปราณ​วิญญาณ​ฟ้าดิน​มิหยุด​ ทว่า​ตบะ​บารมี​กลับ​มิมีการพัฒนา​ใด​ ๆ จริง​ขอรับ​”

จ้าวก​วง​อี้​จึงเอ่ย​โดย​มิต้อง​คิด​ว่า​ “แต่​ตอนที่​พวกเรา​ไป​ถามศิษย์​พี่​อวิ๋น​ เขา​บอก​พวกเรา​ว่า​เนื่องจาก​ราก​วิญญาณ​ของ​พวกเรา​มีคุณสมบัติ​ที่​ค่อนข้าง​สูง เช่นนั้น​การ​รวม​ชีพจร​ขั้นต้น​ ราก​วิญญาณ​จะเกิด​การชะงัก​เป็น​ระยะสั้น​ ๆ ”

“แต่​ใน​ช่วง​เวลานี้​ขอ​เพียง​ราก​วิญญาณ​ค่อย ๆ​ ปรับ​สมดุล​ให้​เข้ากับ​การ​หล่อเลี้ยง​ของ​ปราณ​วิญญาณ​ฟ้าดิน​ได้​ เช่นนี้​จึงจะนับว่า​พวกเรา​ได้​ก้าว​เข้าสู่​ระดับ​รวม​ชีพจร​แล้ว​จริง ๆ​ หรือ​เรียก​ง่าย ๆ​ ว่า​สามารถ​เข้าถึง​แล้ว​จริง ๆ​ ”

“หลังจากนั้น​เนื่องด้วย​ราก​วิญญาณ​ของ​พวกเรา​มีคุณภาพ​ที่​ค่อนข้าง​สูง เช่นนั้น​จึงจะสามารถ​กลั่น​ได้​โดยง่าย​ ตบะ​บารมี​ก็​จะบรรลุ​ได้​รวดเร็ว​ขึ้น​ขอรับ​”

หลังจาก​ได้​ฟังคำบอกเล่า​ของ​จ้าวก​วง​อี้​แล้ว​

แม้เย่​ฉางชิงจะมิได้​เผย​สีหน้า​ใด​ ๆ ออกมา​ ทว่า​ความรู้สึก​ภายในใจ​ของ​เขา​ตอนนี้​ กลับ​พลิก​จาก​หน้า​มือ​เป็น​หลัง​มือ​เลย​ก็​ว่า​ได้​

‘ที่แท้​ก็​เป็น​เช่นนี้​นี่เอง​ ! ’

‘มิน่าเล่า​ข้า​บำเพ็ญ​เพียร​มานาน​เพียงนี้​ กลั่น​หิน​หุน​หยวน​ไป​นับ​หมื่น​ แต่​ระดับ​กลับ​มิมีความก้าวหน้า​ขึ้น​เลย​แม้แต่น้อย​’

‘ที่แท้​เป็น​เพราะ​คุณภาพ​ราก​วิญญาณ​ของ​ข้า​สูงกว่า​พวกเขา​นี่เอง​’

‘หมายความว่า​ช่วงเวลา​ที่เกิด​การชะงัก​ของ​ข้า​ก็​จะต้อง​ยาวนาน​กว่า​ตาม​ไป​ด้วย​’

‘ขอ​เพียง​ผ่าน​ช่วงนี้​ไป​ได้​ ระดับ​ตบะ​บารมี​ของ​ข้า​ก็​จะก้าวหน้า​ขึ้น​อย่าง​รวดเร็ว​’

‘เยี่ยม​ ! ’

‘เยี่ยม​มาก​ ! ’

‘เยี่ยม​จริง ๆ​ ! ’

‘ข้า​ก็​คิด​เอาไว้​แล้ว​ เยี่ยง​ไร​เสีย​ราก​วิญญาณ​ของ​ข้า​ที่​ได้รับ​มาจาก​ท่าน​เทพ​ฉางชิง คุณภาพ​ย่อม​มิมีทาง​แย่​ไป​ได้​หรอก​’

‘ตอนนี้​ดูเหมือนว่า​มิใช่เพราะ​คุณสมบัติ​ของ​ข้า​ต่ำต้อย​อย่าง​ที่​คิด​เอาไว้​ไม่ แต่​กลับเป็น​เพราะ​คุณสมบัติ​ของ​ข้า​สูงเกินไป​ต่างหาก​เล่า​ ! ’

‘อืม​ เป็น​เพราะ​คุณสมบัติ​สูงส่งเกินไป​’

ความ​มืดมน​ใน​ใจของ​เย่​ฉางชิงค่อย ๆ​ มลาย​หาย​ไป​ จน​อด​มิได้​ที่จะ​พึมพำ​กับ​ตัวเอง​อยู่​ภายในใจ​

“ดีแล้ว​ ใน​เมื่อ​คุณสมบัติ​ของ​พวก​เจ้ามีคุณภาพ​ดีแล้ว​ อีก​ทั้ง​ยัง​ได้รับ​การ​ยอมรับ​จาก​ดินแดน​ศักดิ์สิทธิ์​ไท่​เสวียน​ด้วย​ เช่นนั้น​ภายภาคหน้า​จงอย่า​ได้​ละเลย​การ​บำเพ็ญ​เพียร​เป็นอันขาด​”

เย่​ฉางชิงมอง​จ้าวก​วง​อี้​ พลาง​เอ่ย​ด้วย​ท่าทาง​จริงจัง​ว่า​ “จำเอาไว้​ มิว่า​ภายภาคหน้า​พวก​เจ้าจะประสบความสำเร็จ​มาก​เพียงใด​ ก็​จงอย่า​ลืม​จิตใจ​เริ่มต้น​ของ​ตนเอง​เป็นอันขาด​”

“ตอนแรก​ที่​ข้า​ตั้งชื่อ​เจ้าว่า​จ้าวก​วง​อี้​นั้น​ หมายความว่า​ให้​เจ้ารักษา​ความยุติธรรม​ ผู้บำเพ็ญเพียร​เช่น​พวกเรา​มีหน้าที่​ที่​ต้อง​ปฏิบัติ​และ​มิอาจ​ปฏิเสธ​ได้​”

จ้าวก​วง​อี้​พยักหน้า​รับ​แรง​ ๆ พลาง​เอ่ย​อย่าง​หนักแน่น​ว่า​ “ท่าน​เย่​ได้​โปรด​วางใจ​ มิว่า​เมื่อใด​ศิษย์​จะมิลืม​คำสอน​ของ​ท่าน​เป็นอันขาด​ขอรับ​”

จน​เวลา​ล่วงเลย​ไป​เกือบ​ครึ่ง​ชั่ว​ยาม​

ระหว่าง​ที่​จ้าวก​วง​อี้​ลุกขึ้น​คำนับ​ เตรียม​จะจากไป​ก็ได้​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ “ท่าน​เย่​ พรุ่งนี้​ศิษย์​จะต้อง​กลับ​ดินแดน​ศักดิ์สิทธิ์​ไท่​เสวียน​ไป​บำเพ็ญ​เพียร​ต่อ​แล้ว​”

“มิทราบ​ว่า​ศิษย์​จะขอ​ภาพ​อักษร​พู่กัน​ของ​ท่าน​สัก​ภาพ​ได้​หรือไม่​ขอรับ​ ? ”

เย่​ฉางชิงผงะ​ไป​เล็กน้อย​ ‘หรือว่า​ภายใน​ภาพ​อักษร​พู่กัน​ของ​เขา​จะมีสิ่งที่​พิเศษ​บางอย่าง​ซ่อน​อยู่​เยี่ยง​นั้น​หรือ​ ? ’

‘เหตุใด​เหล่า​ผู้บำเพ็ญเพียร​พวก​นั้น​ต่าง​ก็​อยาก​ได้กัน​ ? ’

‘มาบัดนี้​แม้แต่​เด็กน้อย​อย่าง​จ้าวก​วง​อี้​ก็​ยัง​ต้องการ​กับ​เขา​ด้วย​ ? ’

“ย่อม​ได้​อยู่แล้ว​ ! ”

หลังจาก​เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​ เย่​ฉางชิงก็ได้​ลุกขึ้น​ยืน​ ก่อน​เดิน​มาตรงหน้า​โต๊ะ​ตัว​ยาว​

จากนั้น​เขา​ก็​ยก​พู่กัน​ขึ้น​ พลาง​กวาดตา​มอง​จ้าวก​วง​อี้​เล็กน้อย​ ก่อน​จะจรด​พู่กัน​ลงไป​

หลังจากนั้น​มิกี่​อึดใจ​ ตัวอักษร​โบราณ​ที่​แฝงไว้​ด้วย​ไอ​พลัง​อัน​ดุดัน​ พลัน​ปรากฏ​สู่สายตา​

ผู้คน​ดุจดั่ง​มังกร​ !

พอ​กางปีก​บิน​ก็​ทะยาน​ขึ้น​ฟ้า !

ขณะเดียวกัน​ด้านหลัง​ของ​เย่​ฉางชิงก็ได้​ปรากฏ​นิมิต​ขึ้น​

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน