เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน นิยาย บท 288

สรุปบท ตอนที่ 288 เหตุใดจึงเป็นสตรี มิใช่บุรุษ: เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน

อ่านสรุป ตอนที่ 288 เหตุใดจึงเป็นสตรี มิใช่บุรุษ จาก เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 288 เหตุใดจึงเป็นสตรี มิใช่บุรุษ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยายแปล เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตอนที่​ 288 เหตุใด​จึงเป็น​สตรี​ มิใช่บุรุษ​

วัน​ต่อมา​

ณ ทางเหนือ​ของ​จงหยวน​

เรือ​เหาะ​ขนาดใหญ่​หลาย​ลำ​ต่าง​ก็​มุ่งหน้า​ไป​ทางเหนือ​ราวกับ​แล่น​อยู่​กลาง​แม่น้ำ​ ช่างเป็น​ภาพ​ที่​งดงาม​ตระการตา​ยิ่งนัก​

อีก​ทั้ง​เมื่อ​ดู​จาก​ธงที่​แขวน​อยู่​บน​เรือ​เหาะ​แต่ละ​ลำ​แล้วก็​รู้​ได้​มิยาก​

เรือ​เหาะ​ยักษ์​เหล่านี้​มาจาก​สำนัก​บำเพ็ญ​เพียร​น้อย​ใหญ่​ต่าง ๆ​ ที่อยู่​ทาง​ด้าน​เหนือ​ของ​จงหยวน​

ลำ​แรก​ก็​คือ​เรือ​เหาะ​ของ​ดินแดน​ศักดิ์สิทธิ์​จื่อ​ชิง

เวลานี้​ ถาน​ไถชิงเสว่​ที่​สวม​กระโปรง​สีขาว​บริสุทธิ์​ดุจ​หิมะ​ ผม​ยาว​สลวย​ลู่​ไป​ทาง​ด้านหลัง​กำลัง​ยืน​อยู่​หน้า​ราว​กั้น​เพียงลำพัง​ พลาง​ทอดสายตา​มอง​ไป​ด้านหน้า​อย่าง​ครุ่นคิด​

ตอนนั้น​เอง​ สวี​ฉิงเทียน​ ก็​ปรากฏตัว​ขึ้น​ข้าง​กาย​ของ​ถาน​ไถชิงเสว่​เงียบ ๆ​

“ชิงเสว่​ เจ้ายืน​อยู่​ตรงนี้​มาหลาย​ชั่ว​ยาม​แล้ว​นะ​ ? ”

สวี​ฉิงเทียน​เอ่ย​ขึ้น​ด้วย​ใบ​หน้าที่​แฝงไว้​ซึ่งรอยยิ้ม​อ่อนโยน​ พร้อมกับ​ทอดสายตา​มองออก​ไป​เช่นเดียวกัน​

“ท่าน​เจ้าสำนัก​”

ถาน​ไถชิงเสว่​ได้สติ​ขึ้น​มา พลัน​หันไป​มอง​สวี​ฉิงเทียน​

สวี​ฉิงเทียน​โบก​มือเบา​ ๆ แล้ว​เอ่ย​เสียง​เรียบ​ออกมา​ว่า​ “ข้า​ได้​วางแผนการ​เดินทาง​มาแล้ว​ การ​เดินทาง​ขึ้นเหนือ​ของ​เรา​ใน​ครา​นี้​ จะมิผ่านเมือง​เสี่ยว​ฉือ”​

“ท่าน​เจ้าสำนัก​ ข้า​…”

ถาน​ไถชิงเสว่​มีสีหน้า​เปลี่ยนไป​เล็กน้อย​ พร้อมด้วย​ท่าทาง​อึกอัก​

ทว่า​สวี​ฉิงเทียน​ยังคง​มอง​ไป​ข้างหน้า​อยู่​แบบ​นั้น​ “ความจริง​แล้ว​ เมื่อวาน​นี้​ที่​ข้า​ได้​ไป​ปรึกษาหารือ​ที่​ดินแดน​ศักดิ์สิทธิ์​ไท่​เสวียน​”

“บังเอิญ​ได้​รู้​บางอย่าง​มา หลาย​ปี​มานี้​ผู้อาวุโส​เย่​เข้าฌาน​มาโดยตลอด​ มิแน่​ว่า​อีก​มินาน​เขา​อาจจะ​หลบ​ลี้​จาก​โลก​นี้​แล้วก็​เป็นได้​”

ถาน​ไถชิงเสว่​ได้ยิน​เช่นนั้น​ใบหน้า​รูปไข่​ที่​ไร้​ซึ่งตำหนิ​ใด​ ๆ พลัน​เต็มไปด้วย​ความประหลาดใจ​

“ท่าน​เจ้าสำนัก​ ท่าน​หมายความว่า​ผู้อาวุโส​เย่​จะไป​แล้ว​หรือ​เจ้าคะ​?”

ถาน​ไถชิงเสว่​เอ่ย​ขึ้น​อย่าง​มิเคย​คาดคิด​มาก่อน​

“น่าจะเป็น​เช่นนั้น​ ! ”

สวี​ฉิงเทียน​ถอน​สายตา​แล้ว​หัน​กลับมา​มอง​ถาน​ไถชิงเสว่​ ที่​กำลัง​เต็มไปด้วย​ความ​สับสน​ ก่อน​เอ่ย​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​อ่อนโยน​ดังเดิม​

“คง​เพราะ​สาเหตุ​บางอย่าง​ ผู้อาวุโส​เย่​จึงได้​ลง​มายัง​โลก​ใบ​นี้​ บัดนี้​เป็นไปได้​ว่า​เขา​คง​ได้​คำตอบ​แล้ว​ จึงได้​ตัดสินใจ​ฟื้นฟู​ร่างกาย​เพื่อ​เตรียม​จะไป​จาก​โลก​นี้​”

ทันใดนั้น​ถาน​ไถชิงเสว่​ก็​นิ่งเงียบ​ไป​ มือ​ที่​เรียว​งามดุจ​หยก​ที่อยู่​ภายใต้​แขน​เสื้อ​จับ​กัน​แน่น​อย่าง​ควบคุม​มิได้​

หลังจาก​เงียบ​อยู่​พัก​หนึ่ง​ ถาน​ไถชิงเสว่​จึงเอ่ย​ถามอีกครั้ง​ด้วย​น้ำเสียง​อ่อนโยน​ว่า​ “ท่าน​เจ้าสำนัก​ ก่อนที่​ผู้อาวุโส​เย่​จะจากไป​ ศิษย์​ขอ​ไป​พบ​เขา​อีก​สัก​ครา​ได้​หรือไม่​เจ้าคะ​ ? ”

สวี​ฉิงเทียน​เผย​ท่าที​สับสน​ออกมา​เล็กน้อย​ ก่อน​จะเอ่ย​ด้วย​อย่าง​จริงจัง​ว่า​ “ชิงเสว่​ เจ้ามีความสามารถ​สูงส่ง อายุ​เพียงเท่านี้​แต่​สามารถ​มีความ​แตกฉาน​ใน​วิถี​ดนตรี​ได้​ถึงเพียงนี้​ ข้า​เชื่อ​ว่า​มิถึงพันปี​ เจ้าจะต้อง​บรรลุ​เป็น​เซียน​ได้​อย่าง​แน่นอน​”

“ถึงตอนนั้น​ มิแน่​เจ้าอาจจะ​สามารถ​พบ​ผู้อาวุโส​เย่​อีก​ครา​บน​สวรรค์​ก็​เป็นได้​”

“เช่นนั้น​ข้า​คิด​ว่า​เจ้ามิจำเป็น​จะต้อง​ยึด​ติดกับ​ปัจจุบัน​ให้​มาก​นัก​ แต่​ควรจะ​ใส่ใจกับ​การ​บำเพ็ญ​เพียร​มากกว่า​”

ถาน​ไถชิงเสว่​ได้ยิน​เช่นนั้น​ ร่าง​บอบบาง​พลัน​กระตุก​ขึ้น​มาน้อย​ ๆ

ใบหน้า​รูปไข่​ปรากฏ​ริ้ว​แดง​ขึ้น​บน​แก้ม​ทั้งสอง​ข้าง​ ยิ่ง​ทำให้​นาง​ดู​มีเสน่ห์​น่า​ทะนุถนอม​ ทั้ง​ยัง​รู้สึก​มีชีวิตชีวา​น่ามอง​ยิ่งนัก​

“ท่าน​เจ้าสำนัก​ ศิษย์​… ศิษย์​มิเคย​คิด​…”

สวี​ฉิงเทียน​หัวเราะ​ออกมา​ “การ​บำเพ็ญ​เพียร​มิเพียงแต่​จะต้อง​พัฒนา​ตบะ​บารมี​และ​ระดับ​ขั้น​เท่านั้น​ แต่​ยัง​ต้อง​ฝึกฝน​จิต​ด้วย​”

“เจ้าลอง​ถามใจของ​ตัวเอง​ดู​ ว่า​แท้จริง​แล้ว​เจ้ารู้สึก​เช่นนั้น​จริง​หรือไม่​ ? ”

เอ่ย​เพียง​เท่านั้น​ สวี​ฉิงเทียน​ก็​นิ่งเงียบ​ไป​

ถาน​ไถชิงเสว่​รู้สึก​สับสน​ จิตใจ​ของ​นาง​กำลัง​ว้าวุ่น​ไป​หมด​

จน​ผ่าน​ไป​หลาย​ชั่ว​ยาม​

ในที่สุด​สำนัก​ต่าง ๆ​ ก็​มาถึงดินแดน​ทางเหนือ​

ทันใดนั้น​ชายแดน​ทางเหนือ​ที่​ปกติ​ไร้​ซึ่งผู้คน​ เวลานี้​กลับ​มีผู้คน​มารวมตัวกัน​จน​มืดฟ้ามัวดิน​

หลังจากที่​สำนัก​ต่าง ๆ​ จัดการ​ทุกอย่าง​เรียบร้อย​แล้ว​ ท้องฟ้า​ก็​ถูก​ฉาบ​ด้วย​แสงสีส้ม พระอาทิตย์​กำลัง​คล้อย​ต่ำ​ลง​

ตอนนั้น​เอง​ ถาน​ไถชิงเสว่​ที่​กำลัง​มีเรื่อง​หนักอก​ ก็ได้​เดิน​หลบ​ขึ้นไป​บน​กำแพงเมือง​ทางเหนือ​ ที่​ทอด​ยาว​ออก​ไป​นับ​หมื่น​ลี้​เพียงลำพัง​

ทันใดนั้น​ ลมหนาว​ก็​พัด​โชย​มาราวกับ​มีด​กรีด​ก็​มาปาน​

ผม​ยาว​สลวย​ของ​ถาน​ไถชิงเสว่​พลิ้ว​ไป​ตาม​สายลม​ กระโปรง​สีขาว​ที่​นาง​สวมใส่​ปลิว​ไสว​อยู่​เช่นนั้น​

นาง​หรี่ตา​ลง​ เผชิญหน้า​กับ​ลมหนาว​ที่​เหมือน​มีด​คอย​ทิ่มแทง​ สายตา​จ้องมอง​ไป​ยัง​ดินแดน​ทางเหนือ​ ที่​เต็มไปด้วย​ความ​รกร้าง​และ​ว่างเปล่า​

“ได้​รู้จัก​กับ​ผู้อาวุโส​เย่​มายาวนาน​ถึงเพียงนี้​ แต่​สุดท้าย​กลับ​มีวาสนา​เพียง​พบ​เพื่อ​ผ่าน​ไป​เท่านั้น​ มาบัดนี้​เขา​กำลังจะ​จากไป​แล้ว​”

เดิมที​นาง​คิด​ที่จะ​พักฟื้น​ร่างกาย​ จากนั้น​ค่อย​นำ​เหล่า​ผู้​แข็งแกร่ง​ฝ่าย​มาร​มาเยือน​ที่​แห่ง​นี้​

ทว่า​เมื่อครู่นี้​

นาง​กลับ​ได้ยิน​เพลง​ฮั่ว​ฟาน​บรรเลง​ขึ้น​อีกครั้ง​

เช่นนั้น​นาง​จึงตัดสิน​ใจมาเพียงลำพัง​

จุดประสงค์​ของ​นาง​เพียงแค่​ต้องการ​เห็น​หน้า​คน​ผู้​นั้น​สักครั้ง​

“ผู้ใด​กัน​แน่​ที่​เป็น​คน​เล่น​เพลง​ฮั่ว​ฟาน​ ? ”

ตู๋​กู​ชิงเฟิงที่​ยืน​อยู่​กลางอากาศ​ ปรายตา​มอง​ถาน​ไถชิงเสว่​ พร้อมกับ​เอ่ย​ถามขึ้น​

แม้เสียง​ของ​นาง​จะมิได้​ดัง​มาก​นัก​ แต่​เมื่อ​เสียง​นั้น​เดิน​ทางเข้า​มาถึงภายใน​กำแพงเมือง​

เสียง​อัน​เย็นชา​ราวกับ​อัสนี​บาต​ เต็มไปด้วย​ความ​น่าเกรงขาม​ก็​ดัง​กึกก้อง​ไป​ทั่ว​รัศมี​หมื่น​ลี้​

ทันใดนั้น​ผู้​แข็งแกร่ง​จาก​สำนัก​น้อย​ใหญ่​ ที่​กำลัง​ปรึกษาหารือ​กัน​อยู่​ก็​มีสีหน้า​ตกใจ​ ต่าง​ก็​พุ่งตัว​ออก​มาจาก​ภายใน​ตำหนัก​โบราณ​หลัง​หนึ่ง​

เพราะ​ค่าย​กล​ที่​วาง​เอาไว้​รอบนอก​ของ​กำแพงเมือง​ราวกับ​เป็น​ตาข่าย​ป้องกัน​ สามารถ​ปิดกั้น​เสียง​มากมาย​ได้​

ทว่า​เสียง​นี้​กลับ​สามารถ​ดัง​ทะลุ​เข้ามา​ได้​ อีก​ทั้ง​ยัง​เต็มไปด้วย​อำนาจ​อัน​น่าสะพรึงกลัว​ถึงเพียงนี้​

อิทธิฤทธิ์​เช่นนี้​ต้อง​เป็น​จักรพรรดิ​มาร​ตน​นั้น​เป็นแน่​

ทว่า​เวลานี้​ถาน​ไถชิงเสว่​ที่​ยืน​อยู่​บน​กำแพงเมือง​กลับ​ต้อง​ขมวดคิ้ว​มุ่น​ พลาง​จ้อง​ไป​ยัง​ตู๋​กู​ชิงเฟิง

ได้ยิน​เช่นนั้น​นาง​ก็​ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ก่อน​จะเอ่ย​ถามขึ้น​เบา​ ๆ “ผู้อาวุโส​ ท่าน​รู้จัก​เพลง​ฮั่ว​ฟาน​ด้วย​หรือ​เจ้าคะ​ ? ”

“เมื่อ​ครู่​… เจ้าเป็น​คน​เล่น​เพลง​ฮั่ว​ฟาน​งั้น​หรือ​ ? ”

ตู๋​กู​ชิงเฟิงตัว​สั่นเทา​น้อย​ ๆ ขณะที่​ถามย้ำ​ออก​ไป​ น้ำเสียง​ของ​นาง​สั่น​ไหว​อย่าง​เห็นได้ชัด​

‘เมื่อ​ครู่​ผู้​ที่​เล่น​เพลง​ฮั่ว​ฟาน​คือ​สตรี​นาง​นี้​งั้น​หรือ​ ! ’

‘แต่​ ! ’

‘เหตุใด​จึงเป็น​สตรี​ มิใช่บุรุษ​ ! ’

‘เหตุใด​จึงมิใช่เขา​ ! ’

ทันใดนั้น​ เมื่อ​อารมณ์​ของ​ตู๋​กู​ชิงเฟิงปั่นป่วน​ยุ่งเหยิง​ จึงทำให้​พื้นที่​บริเวณ​นั้น​ราวกับ​ถูก​แช่แข็ง​ก็​มิปาน​

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน