เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน นิยาย บท 289

สรุปบท ตอนที่ 289 เผ่ามนุษย์ของเรามิมีทางตกเป็นทาส: เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน

ตอนที่ 289 เผ่ามนุษย์ของเรามิมีทางตกเป็นทาส – ตอนที่ต้องอ่านของ เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน

ตอนนี้ของ เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายแปลทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 289 เผ่ามนุษย์ของเรามิมีทางตกเป็นทาส จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตอนที่​ 289 เผ่า​มนุษย์​ของ​เรา​มิมีทาง​ตกเป็น​ทาส​

หลังจากที่​ตู๋​กู​ชิงเฟิงได้​รู้​ว่า​ ผู้​ที่​ดีด​เพลง​ฮั่ว​ฟาน​นั้น​เป็น​เพียง​สตรี​ของ​เผ่า​มนุษย์​นาง​หนึ่ง​

ทันใดนั้น​จิตใจ​ของ​นาง​ก็​เกิด​ความ​สับสน​ว้าวุ่น​เป็นอย่างมาก​

เพราะ​ตำรา​เพลง​ฮั่ว​ฟาน​รวมทั้ง​โลง​นว​โลกา​ เป็น​สิ่งที่​นาง​และ​เขา​ผู้​นั้น​ได้​ค้น​เจอ​ใน​แดน​ลับ​โบราณ​แห่ง​หนึ่ง​

จากนั้น​เมื่อ​ได้​สำรวจ​อย่าง​ละเอียด​ ก็​พบ​ว่า​เพลง​ฮั่ว​ฟาน​นั้น​กุญแจ​ที่​ใช้เปิด​โลง​นว​โลกา​นั่นเอง​

ขณะเดียวกัน​แม้เพลง​ฮั่ว​ฟาน​จะเป็น​แค่​เพลง​ ๆ หนึ่ง​ ทว่า​กลับ​มีข้อห้าม​ลึกลับ​บางอย่าง​ซ่อน​อยู่​

หาก​ต้องการ​จะดีด​เพลง​ฮั่ว​ฟาน​ มิเพียง​จะต้อง​แตกฉาน​ใน​วิถี​ดนตรี​ขั้นสูง​แล้ว​ ยัง​ต้อง​ไข​ปริศนา​ที่​แฝงอยู่​ใน​เนื้อเพลง​ให้ได้​อีกด้วย​

ส่วน​เคล็ด​วิชา​ที่​ใช้ใน​การ​ไข​ข้อห้าม​ปริศนา​ใน​เพลง​ฮั่ว​ฟาน​นั้น​ ท้ายที่สุด​แล้ว​มีเพียงแค่​พวกเขา​สอง​คน​เท่านั้น​ที่​รู้​

นั่น​จึงเป็น​เหตุผล​ว่า​เหตุใด​หลังจาก​เพลง​ฮั่ว​ฟาน​ถูก​ค้นพบ​ตั้งแต่​ยุค​นั้น​ และ​ผู้บำเพ็ญเพียร​วิถี​ดนตรี​มาหมาย​ต่าง​ยกย่อง​ ทว่า​กลับ​มิมีผู้ใด​สามารถ​ที่จะ​เล่น​เพลง​นี้​ได้​

แต่​เมื่อ​หก​ปีก่อน​

ตู๋​กู​ชิงเฟิงที่​หลับใหล​อยู่​ใน​โลง​นว​โลกา​ กลับ​ถูก​เพลง​ฮั่ว​ฟาน​นี้​ปลุก​ขึ้น​มาอีกครั้ง​

สิ่งแรก​ที่​นาง​นึกได้​หลังจาก​ตื่น​จาก​การ​หลับใหล​ก็​คือ​

การเกิดใหม่​ของ​คน​ผู้​นั้น​ทำให้​เพลง​ฮั่ว​ฟาน​ถูก​บรรเลง​ขึ้น​บน​โลก​นี้​อีกครั้ง​ และ​ยัง​เป็น​กุญแจ​เปิด​โลง​นว​โลกา​ให้​นาง​อีกด้วย​

เช่นนั้น​จึงทำให้​ตลอด​ระยะเวลา​หก​ปี​มานี้​

นาง​จึงรู้สึก​เหมือน​คน​เสียสติ​ นับตั้งแต่​ออก​มาจาก​โลง​นว​โลกา​ได้​ นาง​ก็​พยายาม​อย่าง​สุดกำลัง​ เพื่อ​ทำลาย​ค่าย​กล​เวทย์​โบราณ​ที่​ผนึก​นาง​เอาไว้​

เพื่อ​คน​ผู้​นั้น​

นาง​ถึงกับ​ตัดสินใจ​ว่า​จะละทิ้ง​ความแค้น​กับ​พวก​มนุษย์​ ขอ​เพียง​พา​คนใน​เผ่า​ออกจาก​แดน​อัน​หนาวเหน็บ​แห่ง​นั้น​ และ​กลับ​สู่ดินแดน​จงหยวน​ได้​อีกครั้ง​

แต่​สิ่งที่​นาง​คาด​มิถึงก็​คือ​

คน​ที่​สามารถ​เล่น​เพลง​ฮั่ว​ฟาน​ได้​กลับเป็น​มนุษย์​นาง​หนึ่ง​ ที่​บรรเลง​เพลง​ฮั่ว​ฟาน​จน​สามารถ​ปลุก​นาง​ขึ้น​มาได้​เช่นนี้​

คิดถึง​ตรงนี้​

“ฟ้าช่างกลั่นแกล้ง​ข้า​จริง ๆ​ เหตุใด​ถึงมิใช่เขา​เล่า​ที่​บรรเลง​เพลง​ฮั่ว​ฟาน​ ? ”

ตู๋​กู​ชิงเฟิงรู้สึก​ว้าวุ่น​ใจยิ่งนัก​ และ​พูด​กับ​ตัวเอง​อย่า​งอด​มิได้​ “ใน​เมื่อ​เป็น​เช่นนั้น​ ข้า​ก็​คง​มิต้อง​คิด​อะไร​มาก​อีกแล้ว​สินะ​”

ยัง​มิทัน​สิ้น​เสียงดี​ ผู้​แข็งแกร่ง​ของ​สำนัก​ต่าง ๆ​ ต่าง​ก็​ปรากฏตัว​ขึ้น​บน​กำแพงเมือง​

เมื่อ​พวกเขา​เห็น​ตู๋​กู​ชิงเฟิงที่​ยืน​อยู่​กลางอากาศ​ รอบกาย​ปกคลุม​ไป​ด้วย​ไอ​พลัง​ทำลายล้าง​อัน​รุนแรง​ พลัน​ก็​มีสีหน้า​ราวกับ​จะร้องไห้​ขึ้น​มาเสีย​ให้ได้​

‘สมกับ​ที่​เป็น​จักรพรรดิ​มาร​จริง ๆ​ !’

‘เพียงแค่​ไอ​พลัง​ที่​แผ่ออก​มาจาก​ร่าง​ยัง​น่ากลัว​ถึงเพียงนี้​ ! ’

‘ต่อให้​พวกเรา​ร่วมมือ​กัน​จะสามารถ​ต้านทาน​นาง​ได้​จริง ๆ​ เยี่ยง​นั้น​หรือ​ ? ’

“ท่าน​คงจะ​เป็น​จักรพรรดิ​มาร​ท่าน​นั้น​ใช่หรือไม่​ ? ”

เจ้าสำนัก​จื่อ​ชิงสวี​ฉิงเทียน​ขมวดคิ้ว​แน่น​ สีหน้า​เคร่งเครียด​อย่าง​มาก​

“นับตั้งแต่​โบราณ​มา เผ่า​ของ​ข้า​ถูก​ผู้​แข็งแกร่ง​แห่ง​ลัทธิ​เต๋า​ใน​จงหยวน​ ขับไล่​ให้​ไป​อยู่​อย่าง​ดินแดน​อัน​หนาวเหน็บ​”

“บัดนี้​ข้า​ได้​ตื่นขึ้น​มาอีก​ครา​ เช่นนั้น​ต่อให้​ผู้​แข็งแกร่ง​ลัทธิ​เต๋า​อย่าง​พวก​เจ้ารวมตัวกัน​ ก็​มิอาจจะ​สามารถ​ต้านทาน​ข้า​และ​เหล่า​ปีศาจ​ใน​เผ่า​ของ​ข้า​ได้​หรอก​”

ตู๋​กู​ชิงเฟิงเอ่ย​ด้วย​น้ำเสียง​เย็นเฉียบ​ คำพูด​นั้น​เต็มไปด้วย​อำนาจ​และ​ความ​น่าเกรงขาม​ มิมีทีท่า​ว่า​จะยอม​เจรจา​แต่อย่างใด​

นักพรต​ฉางเสวียน​ที่​ยืน​อยู่​ข้าง​สวี​ฉิงเทียน​ถึงกับ​เบิกตา​กว้าง​ขึ้น​ ก่อน​จะเอ่ย​อย่าง​ดุดัน​ว่า​

“ตำรา​โบราณ​บันทึก​เอาไว้​ว่า​ สมัย​บรรพกาล​เผ่า​ปีศาจ​ของ​เจ้าเข่นฆ่า​ผู้บริสุทธิ์​ ทำให้​มนุษย์​ตกเป็น​ทาส​ ต่อมา​ลัทธิ​เต๋า​ผงาด​ขึ้น​จึงได้​ผนึก​กำลัง​กัน​ขับไล่​ฝ่าย​มาร​ออก​ไปนอก​จงหยวน​ได้​สำเร็จ​ และ​สร้าง​กำแพงเมือง​หมื่น​ลี้​ขึ้น​ที่​ชายแดน​ทางเหนือ​ของ​จงหยวน​ พร้อม​วาง​ค่าย​กล​สังหาร​และ​ค่าย​กล​ที่​ไร้​เทียมทาน​เอาไว้​”

“เวลานี้​แม้พวก​ข้า​จะมิได้​เก่งกาจ​ แต่​เพื่อ​สรรพ​ชีวิต​เบื้องหลัง​อีก​นับ​มิถ้วน​ ต่อให้​ต้อง​สู้จนตัวตาย​ ก็​จะมิยอมให้​มาร​เช่น​พวก​เจ้าเข้าสู่​จงหยวน​ได้​เป็นอันขาด​”

ได้ยิน​เช่นนั้น​

“พวก​เจ้าหา​ใช่คนใน​ยุค​นั้น​ไม่ จะรู้​ได้​เยี่ยง​ไร​ว่า​ตอนนั้น​แท้จริง​แล้ว​เกิด​อะไร​ขึ้น​บ้าง​ ? ”

“บัดนี้​ข้า​มีทางเลือก​ให้​พวก​เจ้าสอง​ทาง​ ! ”

ตู๋​กู​ชิงเฟิงแค่น​เสียง​เย็น​ออกมา​ “ปิด​ค่าย​กล​สังหาร​และ​ค่าย​กล​ทั้งหมด​ที่​วาง​เอาไว้​ที่นี่​ ปล่อย​ให้​ข้า​และ​เผ่า​มาร​เข้าสู่​จงหยวน​ซะ”

“หาก​ยอม​ทำตาม​ข้า​ขอ​รับปาก​ว่า​ ข้า​จะให้​มนุษย์​อย่าง​พวก​เจ้ามีที่​ยืน​ต่อ​ใน​จงหยวน​”

“หรือไม่​ข้า​จะเป็น​คน​ลงมือ​ทำลาย​ค่าย​กล​สังหาร​และ​ค่าย​กล​อื่น​ ๆ ที่​นี่เอง​ รวมทั้ง​ทำลาย​กำแพงเมือง​หมื่น​ลี้​ของ​พวก​เจ้าด้วย​”

“แต่​หาก​เป็น​เช่นนั้น​ ข้า​จะให้​มนุษย์​เช่น​พวก​เจ้าตกเป็น​ทาส​และ​มิมีวัน​ตั้งตัว​ได้​อีก​ตลอดไป​ ! ”

เอ่ยถึง​ตรงนี้​ ร่าง​ของ​ตู๋​กู​ชิงเฟิงพลัน​ระเบิด​พลัง​อัน​น่ากลัว​ออกมา​

ทันใดนั้น​ ภายใน​รัศมี​นับ​ร้อย​จั้งรอบ​ ๆ กาย​ของ​นาง​

จวบจน​เมื่อ​ไอ​กระบี่​เล่ม​หนึ่ง​ เข้ามา​ใกล้​นาง​จน​เหลือ​เพียง​ครึ่ง​จั้ง

นาง​จึงได้​ขยับ​กาย​เล็กน้อย​

แต่​นาง​กลับ​มิได้​มีท่าที​ลงมือ​ตอบโต้​แต่อย่างใด​

นาง​เพียงแค่​ใช้ปลายเท้า​แตะ​เบา​ ๆ ราวกับ​แมลงปอ​แตะ​น้ำ​เท่านั้น​

วินาที​ต่อมา​ปลายเท้า​ของ​นาง​กลับ​เกิด​คลื่น​อากาศ​ขึ้น​ เพียง​พริบตา​มวล​พลัง​มหาศาล​ก็​สะท้อน​กลับ​

จากนั้น​ภาพ​อัน​น่าสะพรึงกลัว​ก็ได้​ปรากฏ​ขึ้น​

หลังจาก​คลื่น​อากาศ​จาก​มวล​พลัง​มหาศาล​นี้​แผ่​ออกมา​ ไอ​กระบี่​ที่​มีพลัง​เพียงพอ​จะทำลาย​ภูเขา​ได้​จำนวนมาก​ที่​พุ่ง​ออกมา​จาก​ม่าน​แสง กลับ​แตกสลาย​หาย​ไป​ใน​อากาศ​ภายใน​พริบตา​

ภาพ​นี้​ช่างน่า​หวาดผวา​ยิ่งนัก​ !

หลังจากนั้น​

“ปัง​ปัง​ปัง​ปัง​ปัง​ ! ”

จากนั้น​ก็​มีเสียง​ระเบิด​ดัง​ขึ้น​อย่าง​ต่อเนื่อง​ พลัง​ปราณ​อัน​น่ากลัว​เกิด​การ​ผันผวน​อย่าง​รุนแรง​ จน​แทบจะ​ทำลาย​โลก​ใบ​นี้​ลง​เสีย​ให้ได้​

ทว่า​ตู๋​กู​ชิงเฟิงก็​ยังคง​ยืน​นิ่ง​อยู่​กลางอากาศ​ และ​เฝ้ามอง​เหตุการณ์​อัน​น่ากลัว​ที่​เกิดขึ้น​รอบกาย​ของ​นาง​ โดย​มิหวั่นไหว​แม้แต่น้อย​

วินาที​นี้​ นาง​ได้​แสดงถึง​พลัง​และ​ความ​น่าเกรงขาม​ของ​จักรพรรดิ​มาร​ออกมา​แล้ว​

ท่าทาง​ดุดัน​และ​โดดเด่น​เหนือ​ผู้ใด​

เวลานี้​ผู้​แข็งแกร่ง​มากมาย​ที่อยู่​บน​กำแพงเมือง​ เดิม​คิด​ว่า​ไอ​กระบี่​นับ​มิถ้วน​นั้น​สามารถ​ทำให้​จักรพรรดิ​มาร​ตน​นี้​ล่า​ถอยกลับ​ไป​ได้​

แต่​ใคร​จะคิด​ว่า​ไอ​กระบี่​จะแตกสลาย​ง่ายดาย​เพียงนั้น​ !

ทันใดนั้น​ ทุกคน​ที่อยู่​ใน​ที่​นั้น​ต่าง​ก็​มีสีหน้า​ซีดเผือด​ลง​ เหงื่อกาฬ​ไหล​เย็น​ และ​เต็มไปด้วย​ความผิดหวัง​

การ​โจมตี​ที่​รุนแรง​และ​น่าสะพรึงกลัว​เช่นนี้​ กลับ​ถูก​จักรพรรดิ​มาร​ทำลาย​ลง​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​ !

เช่นนี้​แล้ว​หาก​ผู้อาวุโส​เย่​มิยื่นมือ​เข้ามา​ช่วย​ ใคร​เล่า​จะสามารถ​ต้านทาน​จักรพรรดิ​มาร​ตน​นี้​ได้​อีก​ ?

ตอนนั้น​เอง​เมื่อ​ค่าย​กล​สังหาร​ที่​วาง​เอาไว้​บน​กำแพงเมือง​ เริ่ม​ทำการ​โจมตี​ขึ้น​อีกครั้ง​

ตู๋​กู​ชิงเฟิงเห็น​เช่นนั้น​ก็​เริ่ม​จะลงมือ​จริงจัง​ขึ้น​มาแล้ว​

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน