เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน นิยาย บท 292

ตอนที่​ 292 เสี่ยว​หลิว​คารวะ​นาย​ท่าน​

ขณะเดียวกัน​

ณ เมือง​เสี่ยว​ฉือ​

เย่​ฉางชิงกำลัง​เอนกาย​อยู่​บน​เก้าอี้​ด้วย​สีหน้า​กลัดกลุ้ม​

พร้อม​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​ดวง​ดวง​มากมาย​เต็ม​ท้องฟ้า​ ก่อน​จะทอดถอนใจ​ออกมา​อย่า​งอด​มิได้​

“ข้า​ห่วย​เกินไป​ หรือว่า​เก่ง​เกินไป​กัน​แน่​?”

“ห้า​ปี​ ห้า​ปี​เต็ม​ ๆ กลั่น​หิน​หุน​หยวน​ไป​ถึงล้าน​ก้อน​ สุดท้าย​แม้ตบะ​บารมี​จะเพิ่มขึ้น​ แต่​ก็​ยังอยู่​ใน​ระดับ​รวม​ชีพจร​ขั้น​กลาง​เท่านั้น​…”

ถูกต้อง​ !

หิน​หุน​หยวน​ล้าน​ก้อน​ที่​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​และ​หนาน​กง​เสวียน​จีเสี่ยงชีวิต​เพื่อ​นำ​กลับ​มาจาก​แดน​ต้องห้าม​ของ​สิ่งมีชีวิต​

เพิ่งจะ​ถูก​เขา​กลั่น​จน​หมด​ เมื่อ​หนึ่ง​ชั่ว​ยาม​ก่อน​

อีก​ทั้ง​วันนี้​แม้ระดับ​ของ​เขา​จะเกิด​การ​บรรลุ​ แต่​สุดท้าย​เพียง​บรรลุ​จาก​ระดับ​รวม​ชีพจร​ขั้นต้น​ไป​ขั้น​กลาง​เท่านั้น​

แค่​คิด​ก็​รู้​ว่าแล้ว​

สิ่งนี้​หมายความ​เช่นไร​ !

หาก​เป็น​ผู้บำเพ็ญเพียร​ทั่วไป​ และ​สมมุติ​ว่า​สามารถ​กลั่น​หิน​หุน​หยวน​ได้​

อย่า​ว่าแต่​หิน​หุน​หยวน​ล้าน​ก้อน​เลย​ ปราณ​ชีวิต​อัน​รุนแรง​ที่​แฝงอยู่​ภายใน​หิน​หุน​หยวน​แสน​ก้อน​ ก็​เพียง​พอที่จะ​ทำให้​พวกเขา​บำเพ็ญ​เพียร​จาก​ระดับ​เริ่มต้น​ไป​จนถึง​ระดับ​ถ้ำสวรรค์​แล้ว​

แม้แต่​ระดับ​มหายาน​ใน​ตำนาน​ก็​ใช่ว่า​จะเป็นไป​มิได้​ !

ทว่า​เย่​ฉางชิงแม้จะกลั่น​หิน​หุน​หยวน​ไป​ถึงหนึ่ง​ล้าน​ก้อน​ แต่​สุดท้าย​กลับ​บรรลุ​ถึงแค่​ระดับ​รวม​ชีพจร​ขั้น​กลาง​เท่านั้น​

มิหนำซ้ำ​ความเร็ว​ใน​การ​กลั่น​หิน​หุน​หยวน​ของ​เย่​ฉางชิงยัง​เพิ่มขึ้น​อย่าง​มาก​ เรียก​ได้​ว่า​เร็ว​ที่สุด​ตั้งแต่​เคย​มีมาเลย​ก็​ว่า​ได้​

หิน​หุน​หยวน​ล้าน​ก้อน​เต็ม​ ๆ

กลับ​ใช้เวลา​เพียงแค่​ห้า​ปี​ก็​สามารถ​กลั่น​จน​หมด​ได้​

แต่ว่า​

พูด​แล้วก็​แปลก​

ห้า​ปี​มานี้​

แม้ระดับ​ของ​เย่​ฉางชิงจะมิได้​เพิ่มขึ้น​แต่อย่างใด​ ทว่า​ความเร็ว​ใน​การ​กลั่น​หิน​หุน​หยวน​กลับ​เพิ่มมากขึ้น​จริง ๆ​

โดยเฉพาะ​เมื่อวาน​นี้​

เวลา​แค่​ 8 ชั่ว​ยาม​ เขา​กลับ​สามารถ​กลั่น​หิน​หุน​หยวน​ได้​เกือบ​ห้า​หมื่น​ก้อน​

ส่วน​วันนี้​

เขา​ยัง​ใช้เวลา​มิถึงแปด​ชั่ว​ยาม​ด้วยซ้ำ​ ก็​สามารถ​กลั่น​หิน​หุน​หยวน​ที่​เหลือ​แปด​หมื่น​ก้อน​ได้​จน​หมด​

แค่​คิดดู​ก็​รู้​ว่า​ความเร็ว​ใน​การ​กลั่น​หิน​หุน​หยวน​ของ​เขา​ใน​ตอนนี้​น่ากลัว​เพียงใด​ !

คิดถึง​ตรงนี้​เย่​ฉางชิงก็ได้​แต่​ลูบ​หน้าผาก​ของ​ตัวเอง​ด้วย​ความเคร่งเครียด​ “เดิม​คิด​ว่า​ตัว​ข้า​เป็น​อัจฉริยะ​ แต่​ตอนนี้​ดูท่า​แล้ว​คงจะ​เป็น​แค่​เศษสวะ​เสีย​กระมัง​”

สิ้น​เสียง​ ราชัน​ทมิฬ​ที่​ร่างกาย​กำยำ​ขึ้น​กว่า​เดิม​ ก็​แบก​จิ้งจอก​น้อย​ตัว​สีขาว​ราวกับ​หิมะ​ อีก​ทั้ง​ยัง​เปล่งรัศมี​ลาง​ ๆ ออกมา​ ก็ได้​ปรากฏตัว​ขึ้น​ตรงหน้า​ของ​เย่​ฉางชิง

เพียงแต่​เวลานี้​เมื่อ​เผชิญหน้า​กับ​ราชัน​ทมิฬ​และ​ถูสือ​ซาน​

เย่​ฉางชิงมีท่าที​นิ่ง​สงบ​ลง​กว่า​ครั้งแรก​ซึ่งได้​รู้​ฐานะ​ที่​แท้จริง​ของ​ราชัน​ทมิฬ​และ​ถูสือ​ซาน​

กลับกัน​บางที​อาจ​เป็น​เพราะ​กลั่น​หิน​หุน​หยวน​ตลอด​ห้า​ปี​มานี้​

ตบะ​บารมี​และ​ระดับ​ของ​เย่​ฉางชิงแม้มิได้​ก้าวหน้า​มากมาย​นัก​ ทว่า​รูปลักษณ์​และ​รัศมี​ของ​เขา​กลับ​เกิด​การเปลี่ยนแปลง​ขึ้น​อย่าง​มาก​

คิ้ว​คมกริบ​ดุจ​กระบี่​ หาง​ตา​เรียว​ยาว​ ผิวขาว​ไร้​ตำหนิ​

เรียก​ได้​ว่า​หล่อเหลา​ราวกับ​รูปปั้น​ เฉกเช่น​เซียน​ที่​ลง​มายัง​โลก​มนุษย์​

แม้เขา​จะยัง​ดู​สุภาพอ่อนโยน​ แต่กลับ​ให้​ความรู้สึก​น่าเกรงขาม​ยิ่งนัก​

เช่นนั้น​สำหรับ​ราชัน​ทมิฬ​แล้ว​ แม้หลาย​ปี​มานี้​พลัง​จะแข็งแกร่ง​ขึ้น​ ร่างกาย​กำยำ​มากขึ้น​ แต่​ทุกครั้งที่​เห็น​นาย​ท่าน​ มัน​กลับ​ยิ่ง​ขลาดกลัว​มากขึ้น​กว่า​เดิม​อย่าง​เห็นได้ชัด​

ส่วน​ถูสือ​ซาน​เอง​ก็​มิต่างกัน​มาก​นัก​

“พวก​เจ้าสอง​คน​กลับมา​แล้ว​หรือ​ ? ”

เย่​ฉางชิงที่​เอนหลัง​อยู่​บน​เก้าอี้​ ปรายตา​มอง​ราชัน​ทมิฬ​และ​ถูสือ​ซาน​ ที่​หมอบ​อยู่​ตรงหน้า​เล็กน้อย​ด้วย​ท่าทาง​สบาย​ ๆ

ราชัน​ทมิฬ​งับ​หาง​ตัวเอง​เล็กน้อย​ ก่อน​จะแล่​บ​ลิ้น​สีแดงสด​ของ​ตัวเอง​ออกมา​ มิกล้า​ส่งเสียง​ใด​ ๆ

ส่วน​ถูสือ​ซาน​ก็​เหลือบมอง​เย่​ฉางชิงด้วย​ความหวาดกลัว​ ก่อน​เอ่ย​อย่าง​ระมัดระวัง​ถ้อยคำ​ว่า​ “สือ​ซาน​คารวะ​ท่าน​เย่”​

เย่​ฉางชิงได้ยิน​เช่นนั้น​ก็​ราวกับ​คิด​บางอย่าง​ขึ้น​มาได้​ ดวงตา​ของ​เขา​พลัน​เปล่งประกาย​ขึ้น​มา

“จริง​สิสือ​ซาน​ ตอนนี้​เจ้าอยู่​ระดับ​ใด​แล้ว​งั้น​หรือ​ ? ”

เย่​ฉางชิงลุกขึ้น​มานั่ง​ จากนั้น​ก็​อุ้ม​ถูสือ​ซาน​เอาไว้​แนบอก​ พร้อมกับ​เอ่ย​ถามขึ้น​

ถูสือ​ซาน​มีท่าทาง​ตกตะลึง​เล็กน้อย​ จากนั้น​ดวงตา​สุก​สกาว​คู่​นั้น​ก็​กระพริบ​ปริบ ๆ​ ก่อน​จะเอ่ย​อย่าง​นอบน้อม​ว่า​ “เรียน​ท่าน​เย่​ สือ​ซาน​โง่เขลา​ จนถึง​บัดนี้​ก็​ยัง​คงอยู่​ระดับ​จ้าว​ปีศาจ​เท่านั้น​เจ้าค่ะ​”

เห็นได้ชัด​ว่า​ใน​สายตา​ถูสือ​ซาน​

การ​ที่​ผู้อาวุโส​เย่​ถามไถ่ถึงระดับ​การ​บำเพ็ญ​เพียร​ของ​นาง​เช่นนี้​ แสดงว่า​คง​รู้​อะไร​บางอย่าง​มาเป็นแน่​

‘ระดับ​จ้าว​ปีศาจ​ ? ’

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน