ตอนที่ 310 เผ่าปีศาจตื่นตระหนก
สิ้นเสียง พลังทำลายล้างก็ปกคลุมไปทั่วบริเวณภายในพริบตา
ขณะที่ชิวหลงแปลงร่างกลับคืนสู่ร่างเดิม และเตรียมหลบหนีโดยมิสนใจสิ่งใด
พื้นที่รอบกายของเขากลับถูกพลังพิสดารสะกดเอาไว้ จนมิสามารถขยับเขยื้อนได้แม้แต่น้อย
ขณะเดียวกัน เขาก็สัมผัสได้ถึงจิตสังหารอันน่าสะพรึงกลัวอย่างที่มิเคยมีมาก่อน
“โฮก ! ”
ชิวหลงที่อยู่ในร่างเดิม ส่งเสียงคำรามต่ำออกมาทันที
จากนั้นเขาก็ได้สำแดงเคล็ดวิชาต้องห้าม ในสมัยบรรพกาลของเผ่าปีศาจออกมา โดยมิลังเลใด ๆ
ทันใดนั้น รอบกายของเขาก็ปกคลุมไปด้วยไอโลหิต เกล็ดสีดำดุจเหล็กกล้า ราวกับถูกเผาจนเป็นสีแดงเพลิงก็มิปาน มีสัญลักษณ์โบราณมากมายปรากฎขึ้นมา ช่างดูแปลกประหลาดยิ่งนัก
ขณะเดียวกัน ไอพลังรุนแรงกลุ่มหนึ่งก็พวยพุ่งออกมา
ทว่าแม้จะเป็นเช่นนั้น เขาก็ยังคงมิสามารถเคลื่อนไหวได้
‘นี่มัน ! ’
‘นี่มันแดนสนธยาในตำนานนี่นา ! ’
‘คาดมิถึงว่าจักรพรรดิผู้นี้จะรู้แจ้งแดนสนธยาในตำนานด้วย’
‘ดูท่าต่อให้ใช้เคล็ดวิชาต้องห้าม วันนี้ก็คงยากจะหนีพ้นเงื้อมมือของจักรพรรดิผู้นี้ได้’
คิดได้เช่นนั้น ชิวหลงจึงทำได้เพียงรีบร้องขอความเมตตาจากเทพหลิว
“ผู้อาวุโส ผู้น้อยมิได้ตั้งใจจะล่วงเกินผู้อาวุโสเลยนะขอรับ ได้โปรดยั้งมือให้ผู้น้อยด้วยขอรับ ! ”
ดวงตาแดงก่ำคู่นั้นของชิวหลงเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ขณะส่งเสียงอ้อนวอนออกมา
ขณะเดียวกัน เหล่าผู้แข็งแกร่งของเผ่าปีศาจเอง ต่างก็มองไปยังสตรีที่สวมอาภรณ์สีเขียวลึกลับท่านนั้น ด้วยท่าทีเคารพนอบน้อม และหวังว่านางจะปล่อยชิวหลงไป
เยี่ยงไรเสีย ผู้แข็งแกร่งที่ก้าวเข้าสู่ระดับจักรพรรดิ ก็นับได้ว่าเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่าปีศาจแล้ว
หากดับสูญไปก็ถือเป็นการสูญเสียอย่างยิ่งใหญ่ของเผ่าปีศาจด้วยเช่นกัน
“วิถีที่ข้าบำเพ็ญเพียรคือวิถีแห่งชีวิต แม้เจ้าจะยังมิใช่จักรพรรดิเต็มตัว แต่ตบะบารมีของเจ้าแท้จริงนั้นถือว่าก้าวเข้าสู่ระดับจักรพรรดิไปครึ่งก้าวแล้ว”
“เช่นนั้นก่อนที่เจ้าจะดับสูญไป คงสามารถสัมผัสจิตแท้ของวิถีแห่งชีวิตได้”
เทพหลิวเอ่ยขึ้น ด้วยท่าทีมิแยแสใด ๆ
และทันทีที่สิ้นเสียงก็มีภาพสุดแปลกประหลาดเกิดขึ้น
หลังจากมีไอพลังเต๋าจาง ๆ แผ่ออกมากลางอากาศ
กิ่งหลิวสีเขียวที่เปล่งประกายระยิบระยับ ก็พุ่งออกมาจากอากาศทางด้านหลังของชิวหลง
ก่อนที่กิ่งหลิวพิสดารนั้นจะกลายเป็นลำแสงสีเขียว พุ่งเข้าไปใส่ร่างของชิวหลงในพริบตา
จากนั้นชิวหลงที่อยู่ในร่างของมังกรขนาดใหญ่ยาวนับร้อยจั้งก็เหี่ยวแห้งลงอย่างรวดเร็ว พร้อมกับไอมรณะจาง ๆ ที่แผ่ออกมา
นี่ก็คือความน่ากลัวของผู้ที่บำเพ็ญเพียรวิถีแห่งชีวิต
เพราะสามารถให้ชีวิต ทว่าก็สามารถปลิดชีวิตได้เช่นกัน
บัดนี้เทพหลิวได้ใช้วิถีแห่งชีวิตขั้นสูงสุด ช่วงชิงเอาชีวิตของชิวหลง
“โฮก ! ”
เสียงคำรามอันน่าสะพรึงกลัว ดังสนั่นหวั่นไหวขึ้นทันใด
ร่างยาวนับร้อยจั้งของชิวหลงสั่นสะท้านอย่างรุนแรง ท่าทางเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและหวาดกลัว
“ท่านจักรพรรดิได้โปรดเมตตาด้วย”
“ขอเพียงท่านเมตตาไว้ชีวิตผู้น้อยสักครั้ง ต่อไปภายภาคหน้าผู้น้อยจะยอมเป็นข้ารับใช้ของท่านขอรับ…”
ชิวหลงยังคงคร่ำครวญออกมาด้วยความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส ก่อนที่ในที่สุดจะปล่อยวางทุกอย่าง พร้อมกับอ้อนวอนร้องขอชีวิตต่อเทพหลิว
แม้เขาจะมิได้เกิดในตระกูลมังกรที่สูงศักดิ์ แต่เยี่ยงไรเสียก็ถือว่าเป็นมังกรตัวหนึ่ง
หากวันนี้มิตาย ภายภาคหน้าได้บรรลุขึ้นสวรรค์ หลังจากถูกทัณฑ์สวรรค์พิฆาตชำระล้าง จนสายเลือดเกิดการพัฒนา ต่อไปย่อมสามารถเข้าสู่เผ่ามังกรสูงศักดิ์ได้อย่างแน่นอน
ยิ่งไปกว่านั้นตบะบารมีของเขาก็ก้าวเข้าสู่ระดับจักรพรรดิแล้ว จึงเหลืออีกเพียงเล็กน้อยเท่านั้นก็จะบรรลุขึ้นสวรรค์
เช่นนั้นเขาจึงมิอยากดับสูญไปเช่นนี้
ทว่าเขานั้นประเมินความเลือดเย็นของเทพหลิวต่ำเกินไป
เพราะเทพหลิวยังคงยืนอยู่กลางอากาศ ใบหน้าอันงดงามและเย็นชานั้นมิบ่งบอกอารมณ์ใด ๆ ออกมาให้เห็นแม้แต่น้อย
มีเพียงสายตาเย็นชาจ้องมองไปยังชิวหลง ที่กำลังส่งเสียงร้องอ้อนวอนก่อนตายเป็นครั้งสุดท้ายมิหยุด
จนเวลาผ่านไปประมาณหนึ่งก้านธูป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน