เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน นิยาย บท 324

สรุปบท ตอนที่ 324 ประตูสวรรค์ปรากฏ พบคนคุ้นเคย: เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน

อ่านสรุป ตอนที่ 324 ประตูสวรรค์ปรากฏ พบคนคุ้นเคย จาก เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 324 ประตูสวรรค์ปรากฏ พบคนคุ้นเคย คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยายแปล เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตอนที่​ 324 ประตู​สวรรค์​ปรากฏ​ พบ​คนคุ้นเคย​

“เปรี้ยง​ ! ”

ทันใดนั้น​ก็​มีเสียงดัง​สนั่นหวั่นไหว​มาจาก​ส่วนลึก​ของ​กลุ่ม​เมฆสีคราม​

เมฆที่​ปกคลุม​บริเวณ​นั้น​ พลัน​พลุ่งพล่าน​อย่าง​รุนแรง​

มินาน​สายฟ้า​สีขาว​หลาย​สาย​ก็​ทะลุ​ผ่าน​กลุ่ม​เมฆ เต็มไปด้วย​ไอ​พลัง​อัน​น่ากลัว​ ฟาด​ลง​มาจาก​ทุก​ทิศ​ทุก​ทาง​ ห้วง​อากาศ​เกิด​เป็น​รอยแยก​อัน​น่าสะพรึงกลัว​มากมาย​

ภาพ​นี้​ทั้ง​พิสดาร​และ​น่าสะพรึงกลัว​ยิ่งนัก​

ขณะเดียวกัน​ วินาที​นี้​มิเพียง​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​ที่​สัมผัส​ได้​อย่าง​ชัดเจน​ ถึงพลานุภาพ​ที่​มิเคย​พบ​เจอ​มาก่อน​ แม้แต่​กลุ่มคน​ที่อยู่​ไกล​ออก​ไป​นับ​พัน​ลี้​ก็​เหมือน​จะรับรู้​ได้​เช่นกัน​

“นี่​มัน​เรื่อง​อะไร​กัน​ ? ”

“เหตุใด​จู่ ๆ พลานุภาพ​น่ากลัว​เช่นนี้​ถึงปราก​ฎขึ้น​ได้​ หรือ​จะมีสิ่งน่ากลัว​อะไร​จะปรากฏ​ขึ้น​เยี่ยง​นั้น​หรือ​ ? ”

“แม้แต่​ตรงนี้​ยัง​สามารถ​สัมผัส​ได้​อย่าง​ชัดเจน​ ดู​ก็​รู้​ว่า​พลานุภาพ​ตรง​ตำแหน่ง​ที่​ผู้อาวุโส​ซือ​ถูยืน​อยู่​จะน่ากลัว​มาก​เพียงใด​ ! ”

“จริง​สิ เมื่อ​ครู่​มีผู้อาวุโส​บอ​กว่า​ ทัณฑ์​สวรรค์​สาย​ที่​เก้า​นั้น​เป็นการ​ทดสอบ​จิต​มรรคา​”

“……”

“……”

ระหว่าง​ที่​พวก​นักพรต​ฉางเสวียน​กำลัง​วิพากษ์วิจารณ์​กัน​อยู่​นั้น​

เย่​ฉางชิงก็​ลอบ​ขมวดคิ้ว​เล็กน้อย​ พร้อม​เผย​สีหน้า​สงสัย​ขึ้น​มาอย่า​งอด​มิได้​

‘พลานุภาพ​ ? ’

‘พลานุภาพ​อะไร​ ! ’

‘เหตุใด​ข้า​ถึงมิรู้สึก​อะไร​เลย​ ? ’

‘มิใช่ว่า​ตบะ​บารมี​ยิ่ง​ต่ำ​ก็​จะยิ่ง​สัมผัส​ได้​ง่าย​ ถึงสิ่งที่​เรียก​ว่า​พลานุภาพ​มิใช่หรอก​หรือ​ ? ’

‘ดู​จาก​ตบะ​บารมี​แล้ว​ หรือว่า​ทุกคน​ในที่นี้​ยังมี​ตบะ​บารมี​ต่ำกว่า​ข้า​อีก​เยี่ยง​นั้น​หรือ​ ? ’

คิดถึง​ตรงนี้​ เย่​ฉางชิงก็​ค่อย ๆ​ เบน​สายตา​ไป​ ก่อน​จะกวาดตา​มอง​ใต้​ฝ่าเท้า​ของ​คน​ที่อยู่​ด้าน​ข้าง​และ​ด้านหลัง​ของ​เขา​

‘พวกเขา​ต่าง​ก็​ยืน​กลางอากาศ​ได้​จริง ๆ​ นี่​นา​’

หลังจาก​ครุ่นคิด​อยู่​สักพัก​ เย่​ฉางชิงก็​ก้มลง​ไป​มอง​ปทุม​สูติ​ที่อยู่​ใต้​ฝ่าเท้า​ ก่อน​จะพ่น​ลมหายใจ​ออกมา​อย่าง​เอือมระอา​

เขา​คง​มิสามารถ​ถามคำถาม​เล็กน้อย​เช่นนี้​กับ​พวกเขา​ได้​กระมัง​ ?

และ​มิควร​ถามอย่าง​เด็ดขาด​ มิเช่นนี้​หาก​ความ​แตก​ขึ้น​มาจะทำ​เช่นไร​เล่า​ ?

ตอนนั้น​เอง​ จู่ ๆ ก็​มีคน​ร้อง​ตะโกน​ออกมา​ “พวก​ท่าน​ดู​นั่นสิ​ นั่น​มัน​อะไร​น่ะ​ ! ”

วินาที​ต่อมา​ เมื่อ​ทุกคน​ที่​ได้ยิน​เช่นนั้น​ ต่าง​ก็​หันไป​มอง​ยัง​ทิศทาง​ที่​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​ยืน​อยู่​

ก่อน​จะพบ​ว่า​ด้านบน​ศีรษะ​ของ​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​ตอนนี้​ ได้​มีกลุ่ม​เมฆหนาแน่น​พลุ่งพล่าน​ขึ้น​มาอย่าง​รุนแรง​ สายฟ้า​สีขาว​มากมาย​เปล่งประกาย​จน​แสบตา​

เป็น​ปรากฏการณ์​ที่​น่ากลัว​ยิ่งนัก​

จน​เวลา​ผ่าน​ไป​มิกี่​อึดใจ​

บริเวณ​ที่อยู่​ไกล​สุดสายตา​ จู่ ๆ ก็​ปรากฏ​ภูเขา​หิน​สูงนับ​ร้อย​จั้งลูก​หนึ่ง​ขึ้น​มา

ภูเขา​หิน​ลูก​นี้​ช่างพิสดาร​ยิ่งนัก​ ด้านบน​มีหิน​หน้าตา​ประหลาด​ซ้อน​ทับกัน​อยู่​ บน​หิน​แต่ละ​ก้อน​ล้วน​มีการแกะสลัก​สัญลักษณ์​ และ​ลวดลาย​โบราณ​ที่​ซับซ้อน​มากมาย​เอาไว้​ และ​ขณะนี้​กำลัง​เปล่งประกาย​ระยิบระยับ​อยู่​

ขณะเดียวกัน​ บน​ภูเขา​หิน​ที่​ตอนนี้​ได้​มีสายฟ้า​ที่​ทรงพลัง​แลบ​แปลบปลาบ​ออกมา​มากมาย​ และ​มีมวล​พลัง​ที่​ปั่นป่วน​ปรากฏ​ขึ้น​ลาง​ ๆ

แน่นอน​ว่า​สิ่งที่​ทำให้​ทุกคน​สงสัย​ที่สุด​ก็​คือ​ ยอด​ของ​ภูเขา​หิน​ลูก​นี้​กลับ​มีกระบี่​โบราณ​สัมฤทธิ์​เล่ม​หนึ่ง​ปัก​เอาไว้​

อีก​ทั้ง​ยัง​ดูเหมือน​พลานุภาพ​อัน​น่าสะพรึงกลัว​ ที่​ปกคลุม​บริเวณ​นั้น​จะมีต้นเหตุ​ที่​แท้จริง​มาจาก​กระบี่​สัมฤทธิ์​อีกด้วย​

ทว่า​กระบี่​สัมฤทธิ์​เล่ม​นั้น​แท้จริง​แล้ว​เกิด​จาก​สิ่งใด​กัน​แน่​ ถึงได้​แผ่​พลานุภาพ​ที่​น่ากลัว​เช่นนี้​ออกมา​ได้​

หรือว่า​จะเป็น​อาวุธ​เทพ​ใน​ตำนาน​ ?

จะต้อง​เป็น​อาวุธ​เทพ​ของจริง​อย่าง​แน่นอน​ !

ใน​ตอนนั้น​เอง​ ขณะที่​ทุกคน​กำลัง​จับตามอง​อยู่​นั้น​

ภูเขา​หิน​พิสดาร​ลูก​นี้​ก็​ลอยคว้าง​อยู่​กลางอากาศ​ครู่หนึ่ง​ จากนั้น​ก็​มีพลัง​ปั่นป่วน​รุนแรง​ปกคลุม​เอาไว้​ และ​สายฟ้า​สีขาว​แสบตา​มากมาย​ก็​ฟาด​ลงมา​ที่​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​ในทันที​

เป็น​ภาพ​ที่​น่ากลัว​ยิ่งนัก​ !

ราวกับ​ภูเขา​ที่​สวรรค์​สร้าง​ ก่อน​จะพุ่ง​เข้า​สังหาร​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​

เห็นได้ชัด​ว่า​นี่​มิใช่เพียง​บท​ทดสอบ​จิต​แห่ง​มรรคา​เพียง​อย่าง​เดียว​ ทว่า​กลับเป็น​บท​ทดสอบ​ความเป็นความตาย​อีกด้วย​ !

จน​เวลา​ผ่าน​ไป​มิกี่​อึดใจ​

ขณะที่​ภูเขา​เซียน​ที่​ลอย​ลง​มาจาก​สวรรค์​ลูก​นี้​ อยู่​ห่าง​จาก​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​เพียง​ร้อย​จั้ง

พลานุภาพ​อัน​น่ากลัว​ก็​ปกคลุม​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​เอาไว้​ ราวกับ​ฟ้าถล่ม​ก็​มิปาน​

“แม้ข้า​จะไร้​เรี่ยวแรง​ที่จะ​ต้านทาน​ทัณฑ์​สวรรค์​สาย​ที่​เก้า​นี้​แล้ว​ แต่​ข้า​ขอ​อุทิศ​ตน​เพื่อ​วิถี​กระบี่​ที่​แท้จริง​”

“ต่อให้​วันนี้​ข้า​จะต้อง​กาย​สลาย​เต๋า​สูญสิ้น​ อยู่​ภายใต้​ทัณฑ์​สวรรค์​สาย​ที่​เก้า​ข้า​ก็​จะมิเสียใจ​ อีก​ทั้ง​มิว่า​จะชาติ​นี้​หรือ​ชาติหน้า​ จิตใจ​นี้​ของ​ข้า​ก็​จะมิมีวัน​สั่นคลอน​อย่าง​แน่นอน​ ! ”

ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​นั่งสมาธิ​อยู่​กลางอากาศ​ ขณะที่​เอ่ย​ออกมา​อย่าง​ยากลำบาก​

วินาที​ที่​สิ้น​เสียง​

เขา​ก็ได้​เงยหน้า​ขึ้น​ด้วย​สีหน้า​ดำคล้ำ​ เส้นเลือด​ที่​ขมับ​เต้น​ตุบ ๆ​ จ้องเขม็ง​ไป​ยัง​ภูเขา​เซียน​ลูก​นั้น​ที่​ยังคง​ดิ่ง​ลงมา​มิหยุด​

ตอนนั้น​เอง​ จู่ ๆ ภายใน​สมอง​ของ​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​ ก็​มีเสียง​ที่​ทรงอำนาจ​และ​เย็นชา​เสียง​หนึ่ง​ดัง​ขึ้น​

“มนุษย์​เอ๋ย​ เจ้ารู้​หรือไม่​ว่า​ท่ามกลาง​วิถี​เต๋า​มากมาย​นับ​มิถ้วน​นั้น​ ทัณฑ์​สวรรค์​ของ​ผู้​ที่​บำเพ็ญ​เพียร​วิถี​กระบี่​นั้น​ยาก​ที่จะ​ข้าม​ผ่าน​ที่สุด​”

ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​ เสียง​อิ่มเอม​และ​สงบนิ่ง​เสียง​หนึ่ง​ก็​ดัง​ขึ้น​

“ศิษย์​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​วันนี้​สามารถ​ผ่านการทดสอบ​จาก​สวรรค์​ได้​สำเร็จ​ ต้อง​ขอบคุณ​อาจารย์​ที่​มอบ​สมบัติ​ล้ำค่า​เช่นนี้​ให้​ขอรับ​”

“พระคุณ​นี้​ ศิษย์​จะจดจำ​เอาไว้​ตลอดไป​ขอรับ​”

ได้ยิน​เช่นนั้น​ทุกคน​ที่​ยืน​ออก​ไป​ไกล​นับ​พัน​ลี้​ ต่าง​ก็​มีสีหน้า​เปลี่ยนไป​อีกครั้ง​

พวกเขา​สบตา​กัน​ จากนั้น​ก็​ต่าง​หันไป​มอง​ทาง​เย่​ฉางชิงที่​ยืน​เอา​มือ​ไพล่หลัง​ ด้วย​ใบ​หน้าที่​ยังคง​เรียบ​นิ่ง​มิเปลี่ยน​

‘นี่​เป็น​ฝีมือ​ของ​ผู้อาวุโส​เย่​เยี่ยง​นั้น​หรือ​ ? ’

‘เพียงแค่​ภาพ​อักษร​พู่กัน​ก็​สามารถ​ต้านทาน​ทัณฑ์​สวรรค์​สาย​ที่​เก้า​ที่​น่ากลัว​เช่นนี้​ได้​ ! ’

‘น่า​เหลือเชื่อ​ ! ’

‘น่า​เหลือเชื่อ​ยิ่งนัก​ ! ’

ขณะเดียวกัน​ เทพ​หลิว​ที่​ยืน​อยู่​ทาง​ด้านหลัง​ของ​เย่​ฉางชิง ก็​มีสีหน้า​สงสัย​ขึ้น​มาอย่า​งอด​มิได้​ พร้อมกับ​จ้องมอง​แผ่น​หลัง​ของ​นาย​ท่าน​เย่​ฉางชิงนิ่ง ๆ​

นาง​รู้ดี​ว่า​เมื่อครู่นี้​ มนุษย์​ผู้บำเพ็ญเพียร​วิถี​กระบี่​คน​นั้น​ เรียก​ได้​ว่า​กาย​สลาย​เต๋า​สูญสิ้น​อย่าง​แท้จริง​แล้ว​

แต่​เพราะ​ภาพ​อักษร​พู่กัน​เพียง​ภาพ​เดียว​กลับ​สามารถ​ฟื้นคืนชีพ​ขึ้น​มาได้​ ทั้ง​ยัง​ผ่านการทดสอบ​ได้​สำเร็จ​อีกด้วย​

แค่​เห็น​ก็​รู้​แล้ว​ว่า​อักษร​พู่กัน​ภาพ​นั้น​มีพลัง​แข็งแกร่ง​มาก​เพียงใด​

ทว่า​อักษร​พู่กัน​ภาพ​นั้น​ กลับ​มาจาก​ฝีมือ​ของ​นายท่า​น.​..

ผ่าน​ไป​สักพัก​ ด้านบน​ศีรษะ​ของ​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​ก็​ปรากฏ​นิมิต​ขึ้น​อีกครั้ง​

ใน​ครั้งนี้​ได้​มีลำแสง​หลาก​สีสัน​มากมาย​ลอดผ่าน​ก้อน​เมฆออกมา​

ขณะเดียวกัน​ ลำแสง​หลาก​สีที่​มีหมอ​กลอย​วน​นั้น​ก็​พุ่ง​ลง​มาจาก​ฟ้า

ก่อน​จะลอย​วน​อยู่​รอบกาย​ของ​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​ ช่างดู​เป็น​สิริมงคล​ยิ่งนัก​ และ​ยิ่ง​เสริม​ให้​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​ดู​ลึกลับ​และ​น่าเกรงขาม​ขึ้น​อีกด้วย​

มินาน​

หมู่​เมฆคลี่คลาย​ปรากฏ​ให้​เห็น​ดวงตะวัน​

หลังจาก​หมู่​เมฆที่​ลอย​ต่ำ​ลง​ค่อย ๆ​ จางหาย​ไป​

ประตู​เก่าแก่​บาน​ใหญ่​ที่อยู่​ท่ามกลาง​พลัง​ปั่นป่วน​นั้น​ ก็​ค่อย ๆ​ ปรากฏ​สู่สายตา​ของ​ทุกคน​

ประตู​สวรรค์​ !

เป็น​ประตู​สวรรค์​ใน​ตำนาน​ !

ทว่า​ตอนนี้​ดวงตา​ของ​เย่​ฉางชิงกลับ​หรี่​ลง​ มุมปาก​กระตุก​ขึ้น​อย่า​งอด​มิได้​

เพราะ​ที่​หน้า​ประตู​สวรรค์​ใน​ตำนาน​บาน​นั้น​ เขา​เห็น​ใบ​หน้าที่​คุ้นเคย​ของ​คน​ผู้​หนึ่ง​ได้​อย่าง​ชัดเจน​

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน