ตอนที่ 325 เป็นเรื่องจริงแม้ในความฝัน
ใช่แล้ว !
ร่างที่ยืนอยู่หน้าประตูสวรรค์โบราณบานนั้น เหมือนจะเป็นคนเดียวกันกับที่เคยปรากฏกาย ที่เขาตะวันออกในเมืองหลวงตอนนั้น
บุรุษหนุ่มสวมชุดสีเขียวอ่อน รูปร่างสูงยาว เส้นผมดกดำ เครื่องหน้าหล่อเหลาโดดเด่น
โดยเฉพาะรัศมีที่แผ่ออกมาจากภายในนั้น ราวกับเซียนที่แท้จริงมายืนอยู่ตรงนั้น ให้ความรู้สึกถึงความน่าเกรงขาม
แต่ว่า
รอบกายของท่านเทพฉางชิงในวันนี้มิได้มีนิมิตปกคลุมแต่อย่างใด
มีเพียงแค่มวลพลังลอยวนอยู่รอบกาย ด้านข้างมีเจดีย์โบราณที่มีแสงสลัว ๆ ลอยอยู่หลังหนึ่ง ดอกบัวที่อยู่ด้านหลังแผ่ไอหมอกจาง ๆ ออกมา สัญลักษณ์โบราณล่องลอยอยู่เต็มไปหมด
เย่ฉางชิงจ้องเขม็งไปยังผู้ที่ได้ชื่อว่าท่านเทพฉางชิง
ทันใดนั้นภายในใจของเขาก็รู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก
การที่ท่านเทพฉางชิงผู้นี้มาปรากฏตัวอยู่ที่หน้าประตูสวรรค์ในเวลานี้ หมายความว่าเช่นไรกัน ?
จากที่เขารู้มา
เมื่อมีคนผ่านการทดสอบจากสวรรค์ จะมีผู้นำทางปรากฏตัวขึ้น
เช่นนี้แสดงว่าท่านเทพฉางชิงท่านนี้ ก็คงจะเป็นผู้นำทางกระมัง
ในเมื่อเป็นผู้นำทาง เช่นนั้นสามารถอาศัยความสนิทสนมรับเขาเข้าไปในประตูสวรรค์ เพื่อขึ้นสวรรค์ไปด้วยได้หรือไม่ ?
คิดได้เช่นนั้น เย่ฉางชิงก็ละสายตากลับมา ก่อนจะลอบกวาดตามองพวกตู๋กูชิงเฟิงที่อยู่ข้าง ๆ รวมทั้งเหล่าผู้บำเพ็ญเพียรระดับสูงของลัทธิเต๋า
แม้ตอนนี้เขาจะถูกทุกคนเข้าใจผิดว่าเป็นยอดฝีมือที่ไร้เทียมทาน แต่ความจริงเขากลับมีตบะบารมีเพียงระดับรวมชีพจรขั้นกลางเท่านั้น
ทำให้หลังจากที่เขาได้ทราบถึงความเข้าใจผิดเหล่านี้ ก็ต้องทนรับแรงกดดันอยู่ทุกวัน
ด้วยเหตุนี้เขาจึงมุ่งมั่นใช้เวลาถึง 5 ปี กลั่นหินหุนหยวนล้านก้อนแบบหามรุ่งหามค่ำ โดยหวังว่าระดับตบะบารมีจะก้าวหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว
แต่สุดท้ายกลับยังคงมีตบะบารมีเพียงระดับรวมชีพจรขั้นกลางเท่านั้น
ทว่าตอนนี้สถานการณ์ของเขากลับเลวร้ายลงกว่าก่อนหน้าเสียอีก
เมื่อจู่ ๆ จักรพรรดิมารตนหนึ่งต้องการแต่งงานกับเขา !
ปีศาจต้นไม้ที่น่าสะพรึงกลัวและพร้อมจะขึ้นสวรรค์ได้ตลอดเวลา แม้เวลาที่อยู่ต่อหน้าจะเรียกเขาว่าท่านเย่ ทว่าลับหลังกลับยังคงเรียกเขาว่านายท่าน !
ยิ่งไปกว่านั้น เขายังต้องจำทนใช้ชีวิตอยู่กับพวกนางตลอดเวลาอีกด้วย
แค่คิดก็รู้ว่าแล้วความกดดันที่เขาได้รับนั้นมากมายเพียงใด !
คิดถึงตรงนี้ เย่ฉางชิงก็เงยหน้าขึ้นมองร่างอันคุ้นเคย ที่ยืนอยู่หน้าประตูสวรรค์ร่างนั้นอีกครั้ง
วินาทีต่อมา แม้การขอร้องอ้อนวอนผู้ที่หน้าตาเหมือนกับตนทุกกระเบียดนิ้ว จะทำให้รู้สึกมิค่อยดีนัก แต่เย่ฉางชิงก็ยังดันทุรังขอร้องอ้อนวอนอยู่ภายในใจ
“ท่านเทพฉางชิง เห็นแก่ที่ข้าเคยเป็นตัวแทนของท่านที่เมืองหลวง ขอท่านได้โปรดรับข้าเข้าไปในประตูสวรรค์ด้วยเถิดขอรับ”
“ผู้ที่เก่งกาจเช่นท่าน คิดว่าคงทราบสถานการณ์ของข้าในตอนนี้เป็นอย่างดี ในโลกบำเพ็ญเพียรใบนี้ ข้ารู้สึกทนอยู่ต่อไปมิไหวแล้ว มิเช่นนั้นมิช้าก็เร็วข้าคงอกแตกตายเป็นแน่ขอรับ”
“เอาเช่นนี้ก็แล้วกันหากท่านคิดว่าเรื่องที่ข้าขอนั้นยากเกินไป แต่ข้าเป็นคนพูดง่ายอยู่แล้ว เช่นนั้นท่านเพียงแค่ส่งข้ากลับไป หรือไม่ก็ให้ข้าไปยังโลกใบอื่นใบใดก็ได้ เรื่องนี้สำหรับท่านแล้วคงมิยากเกินไปกระมัง ? ”
“……”
“……”
เย่ฉางชิงวิงวอนอยู่ภายในใจ
จนเวลาผ่านไปหลายอึดใจ
ท่านเทพฉางชิงที่ยืนอยู่หน้าประตูสวรรค์ท่านนั้นเหมือนกับรับรู้ได้ มุมปากจึงยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเรียบนิ่งออกมา
ขณะเดียวกัน ก็หันมามองยังเย่ฉางชิง
ตอนนั้นเอง ในโสตประสาทของเย่ฉางชิงก็มีเสียงอ่อนโยนเสียงหนึ่งดังขึ้น
“ต้องการไปจากโลกนี้งั้นหรือ ? ”
สิ้นเสียงเย่ฉางชิงก็ได้สติขึ้นมา แม้ใบหน้าจะยังคงเรียบนิ่ง แต่ภายในใจกลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง
‘จริงหรือ ? ’
‘ท่านเทพฉางชิงได้ยินสิ่งที่ข้าร้องขอจริงหรือ ? ’
‘นี่มันน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว ! ’
‘ข้าสามารถสนทนากับบุคคลที่ไร้เทียมทานเช่นนี้ได้ ! ’
หลังจากนิ่งเงียบอยู่สักพัก เย่ฉางชิงก็เอ่ยด้วยความดีใจว่า “ท่านเทพฉางชิง ในที่สุดท่านก็ตอบข้าแล้ว”
“ใช่แล้วขอรับ ข้าต้องการที่จะไปจากโลกใบนี้ การอยู่บนโลกใบนี้ช่างกดดันยิ่งนัก ข้าสาบานว่าจนถึงบัดนี้ข้ายังมีตบะบารมีเพียงระดับรวมชีพจรขั้นกลางเท่านั้น”
มินาน ท่านเทพฉางชิงก็ตอบกลับมาว่า
“สิ่งที่เรียกว่าระดับนั้น หลังก้าวสู่ระดับหนึ่งของชีวิตแล้ว มันก็เป็นเพียงคำเรียกอย่างหนึ่งเท่านั้น มิว่าจะเป็นระดับรวมชีพจร หรือว่าเป็นอมตะ หรือระดับที่สูงขึ้นกว่านั้นก็เช่นกัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน