เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน นิยาย บท 332

ตอนที่​ 332 ล่า​สิ่งมีชีวิต​โบราณ​

อีก​ด้าน​หนึ่ง​

หลังจาก​เทพ​หลิว​สัมผัส​ได้​ถึงไอ​พลัง​ของ​สัตว์​ดึกดำบรรพ์​กลุ่ม​หนึ่ง​ที่​กำลัง​ใกล้​เข้ามา​

นาง​ก็​รีบ​เหาะ​ไป​ข้างหน้า​ทันที​โดย​มิลังเล​

เพียง​มิกี่​อึดใจ​

ก็​มีร่าง​สูงใหญ่​ราวกับ​ภูผา​มากมาย​ และ​ปกคลุม​ด้วย​หมอก​สีดำ​อัน​รุนแรง​ แผ่​ไอ​แห่ง​ความ​ชั่วร้าย​มหาศาล​ออกมา​ ก่อน​จะพุ่ง​เข้า​มาหา​นาง​อย่าง​รวดเร็ว​

ทันใดนั้น​ ฝุ่น​ควัน​ก็​ฟุ้งกระจาย​จน​ปกคลุม​ไป​ทั่ว​บริเวณ​ ราวกับ​เกิด​พายุหมุน​ลูก​ใหญ่​

ขณะเดียวกัน​ หลังจาก​พื้นดิน​เกิด​การ​สั่นสะเทือน​ ท่ามกลาง​ฝุ่น​ควัน​คละคลุ้ง​ก็​มีเสียง​ราวกับ​ภูเขา​ถล่ม​ดัง​ขึ้น​มามิหยุด​

เหตุการณ์​น่าสะพรึงกลัว​จนถึง​ขีดสุด​ ราวกับ​วัน​สิ้น​โลก​กำลังจะ​มาเยือน​

เมื่อ​เห็นภาพ​ตรงหน้า​ เทพ​หลิว​ก็​ขมวดคิ้ว​น้อย​ ๆ จากนั้น​จึงเพ่ง​สมาธิเพื่อ​แปลงกาย​เป็นต้น​หลิว​ลึกลับ​ต้น​หนึ่ง​ ที่​ปกคลุม​เอาไว้​ด้วย​ไอ​หมอก​สีเขียว​ ตั้ง​ตระหง่าน​เพื่อ​ขวางกั้น​เอาไว้​

“เทพ​หลิว​ เจ้าจะทำ​อะไร​ ? ”

มินาน​ เสียง​ชรา​ที่​ดัง​กึกก้อง​ราวกับ​ระฆัง​ทองคำ​เสียง​หนึ่ง​ ก็​ลอย​มาจาก​ที่​ไกล​ ๆ ก่อน​ดังก้อง​ไป​ทั่ว​บริเวณ​

“สังหาร​พวก​เจ้าตามคำสั่ง​ของ​นาย​ท่าน​”

ทันใดนั้น​กิ่ง​หลิว​ก็​โบกสะบัด​พร้อม​เปล่งแสง​เจิดจ้า​ออกมา​ และ​เอ่ย​ขึ้น​อย่าง​ทรงอำนาจ​ จากนั้น​ก็ได้​มีมวล​พลัง​ที่​ทรง​พลานุภาพ​กลุ่ม​หนึ่ง​พุ่ง​เข้ามา​

“นาย​ท่าน​ ? ”

เสียง​ชรา​ดัง​ขึ้น​อีกครั้ง​ ทว่า​ใน​น้ำเสียง​กลับ​เต็มไปด้วย​การเย้ยหยัน​

“เทพ​หลิว​ แต่ก่อน​ตอนที่​เจ้าอาศัย​อยู่​ส่วนลึก​ของ​แดน​ต้องห้าม​ เจ้านั้น​น่าเกรงขาม​มาก​จริง ๆ​ แต่​คิด​มิถึงว่า​หลังจาก​เจ้าไป​จาก​แดน​ต้องห้าม​แล้ว​ เจ้าจะตกต่ำ​ถึงเพียงนี้​ ช่างน่าสมเพช​ยิ่งนัก​”

จากนั้น​ก็​มีเสียงแหลม​แสบแก้วหู​เสียง​หนึ่ง​ดัง​ขึ้น​

“จะพูดมาก​ให้ได้​อะไร​ขึ้น​มา พวกเรา​มาเพื่อ​ตามหา​ผล​มรรคา​ หาก​ผล​มรรคา​ถูก​ผู้อื่น​ช่วงชิง​ไป​เสีย​ก่อน​ พวกเรา​จะต้อง​พลาด​วาสนา​ใน​ครา​นี้​เป็นแน่​”

“ใช่แล้ว​ ราชา​เก้า​เศียร​ มิต้อง​สนใจ​อะไร​แล้ว​ แม้เทพ​หลิว​จะแข็งแกร่ง​ก็​จริง​ แต่​หาก​นาง​ต้อง​การสังหาร​พวกเรา​ทั้งหมด​ที่นี่​ เกรง​ว่า​คงจะ​ทำ​มิได้​ง่าย ๆ​ อย่าง​แน่นอน​”

“กลับกัน​หาก​พวกเรา​ร่วมมือ​กัน​ อาจจะ​สามารถ​สังหาร​นาง​ได้​ ! ”

“ทุกท่าน​ มิต้อง​คิด​อะไร​แล้ว​ ลงมือ​พร้อมกัน​เถอะ​ ! ”

สิ้น​เสียง​ ปักษา​ยักษ์​ที่​มีขนาด​ตัว​ยาว​นับ​ร้อย​จั้ง มีเปลวเพลิง​อัน​ลุกโชน​ปกคลุม​ไป​ทั่ว​ทั้ง​ร่าง​ อาบ​ไล้​ท้องฟ้า​บริเวณ​นั้น​จน​กลายเป็น​สีแดงฉาน​ ก็ได้​เหาะ​ออกมา​ท่ามกลาง​ฝุ่น​ควัน​ที่​ตลบอบอวล​

เมื่อ​เข้ามา​ใกล้​จึงพบ​ว่า​

ปักษา​ยักษ์​สีแดง​เพลิง​ตัว​นี้​ มีศีรษะ​ขนาดใหญ่​ราวกับ​ยอดเขา​ถึงเก้า​หัว​ จะงอย​ปาก​ราวกับ​แกะสลัก​มาจาก​เหล็ก​สวรรค์​ ดู​แหลมคม​ราวกับ​ใบ​มีด​

เพียง​พริบตา​ ขณะที่​ปักษา​ยักษ์​สีแดง​เพลิง​อยู่​ห่าง​จาก​เทพ​หลิว​อีก​เพียง​ร้อย​จั้ง

ศีรษะ​ทั้ง​เก้า​ของ​มัน​กาง​ออก​แทบจะ​พร้อม​ ๆ กัน​ สะท้อน​ให้​เห็น​จะงอย​ปาก​ที่​มีสัญลักษณ์​โบราณ​มากมาย​

จากนั้น​มังกร​เพลิง​ร่าง​กำยำ​เจ็ด​ตัว​ก็​พุ่ง​เข้ามา​ เกิด​เป็น​วงแหวน​แห่ง​ไฟขึ้น​กลางอากาศ​ ก่อนที่​พวก​มัน​จะเข้า​โจมตี​เทพ​หลิว​พร้อม​ ๆ กัน​

ทว่า​ขณะที่​เทพ​หลิว​เพ่ง​สมาธิ รอบกาย​มีแสงสว่างไสว​เปล่ง​ออกมา​ พลัง​ปราณ​มหาศาล​ปะทุ​ขึ้น​ กิ่ง​หลิว​ที่​มีสีแสงสีเขียว​ลอย​วน​ก็​แปร​เปลี่ยนเป็น​สีทอง​ในทันที​ หมาย​ที่จะ​สังหาร​ศัตรู​

ใน​ตอนนั้น​เอง​ จู่ ๆ ก็​มีร่าง​ลึกลับ​ร่าง​หนึ่ง​เหาะ​มา พร้อม​กระโดด​ลง​ไป​ใน​ทะเลเพลิง​อัน​ลุกโชน​ โดย​มิลังเล​แม้แต่น้อย​

วินาที​ต่อมา​

ภาพ​อัน​น่า​เหลือเชื่อ​ภาพ​หนึ่ง​ก็​ปรากฏ​ขึ้น​

ใจกลาง​ทะเลเพลิง​อัน​ลุกโชน​ กลับ​มีกระแส​น้ำวน​ขนาดใหญ่​ปราก​ฎขึ้น​ ราวกับ​จะดูดกลืน​เปลวเพลิง​อัน​โชติช่วง​ ที่​พ่น​ออกมา​จะงอย​ปาก​ของ​ปักษา​ยักษ์​เก้า​เศียร​ลง​ไป​เสีย​

ตอนนั้น​เอง​ก็ได้​มีเสียง​สตรี​ที่​แข็งกระด้าง​เสียง​หนึ่ง​ดัง​ขึ้น​มาจาก​ทะเลเพลิง​อัน​ลุกโชน​นั้น​

“ก่อนหน้านี้​ยัง​คิด​อยู่เลย​ว่า​จะใช้ไฟอัน​ใด​ย่าง​สัตว์​ดึกดำบรรพ์​เช่น​พวก​เจ้าดี​ แต่​คิด​มิถึงว่า​โลก​นี้​ยังมี​สัตว์​ดึกดำบรรพ์​อย่าง​นก​เสวียน​เก้า​เศียร​อยู่​อีก​หรือ​นี่​”

สิ้น​เสียง​ เทพ​หลิว​ก็​พลัน​นิ่ง​ค้าง​ ก่อน​จะเพ่ง​สมาธิแปลงกาย​เป็น​มนุษย์​อีกครั้ง​

หลังจาก​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ในที่สุด​นาง​ก็​เหมือน​จะนึก​บางอย่าง​ขึ้น​มาได้​

“เป็น​สตรี​เมือง​เสี่ยว​ฉือ​ผู้​นั้น​นี่เอง​ ! ”

เทพ​หลิว​ใจสั่นสะท้าน​ขึ้น​มาทันใด​ พลาง​พึมพำ​ว่า​ “คน​ผู้​นี้​แท้จริง​แล้ว​เป็น​ผู้ใด​กัน​แน่​ ถึงกับ​คิด​ที่จะ​ใช้เพลิง​สุคติ​ของ​นก​เสวียน​เก้า​เศียร​ ย่าง​สิ่งมีชีวิต​โบราณ​เหล่านี้​”

“มิอยาก​จะเชื่อ​เลย​ ดูท่า​ก่อนหน้านี้​ข้า​คงจะ​ดูถูก​ชาวเมือง​เสี่ยว​ฉือ​เหล่านี้​มากเกินไป​ แต่ละคน​ล้วน​เป็น​ผู้​ที่​แข็งแกร่ง​และ​น่ากลัว​มาก​จริง ๆ​ ”

ผ่าน​ไป​มิกี่​อึดใจ​

เมื่อ​เห็น​เพลิง​สุคติ​ที่​ลุกโชน​ถูก​ดูดกลืน​ไป​จน​สิ้น​ นก​เสวียน​เก้า​เศียร​ที่​เป็น​ถึงสัตว์​ดึกดำบรรพ์​ ก็​เริ่ม​ตื่นตระหนก​ขึ้น​มา

มัน​มิเคย​คิด​เลย​ว่า​ ใน​ยุค​สมัยนี้​เผ่า​มนุษย์​ยัง​จะมีผู้บำเพ็ญเพียร​ที่​ร้ายกาจ​เช่นนี้​อยู่​ด้วย​

“ทุกท่าน​ ตอนนี้​เหมือน​จะมีบางอย่าง​แปลก​ไป​ ข้า​คิด​ว่า​พวกเรา​รีบ​ไป​จาก​ที่นี่​กัน​เถอะ​”

นก​เสวียน​เก้า​เศียร​ส่งกระแสจิต​ขึ้น​มา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน