เข้าสู่ระบบผ่าน

เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน นิยาย บท 345

อีกด้านหนึ่ง

หลังจากยืนส่งศิษย์พี่ใหญ่หลี่ซิวหยวนแล้ว

พลันใบหน้าเย่ฉางชิงก็เต็มไปด้วยความยินดี

จนถึงตอนนี้เขาก็ยังรู ้สึกว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ ยังเป็ นความ ฝันอยู่

เพียงแค่ตื่นขึ้นมา เขาก็มาโผล่ยังโลกบาเพ็ญเพียรใบใหม่เสีย แล้ว

ที่โชคดีมากที่สุดก็คือบนโลกบาเพ็ญเพียรใบนี้ พอมาถึงก็ได้พบ กับเจ้าส านักของส านักเซียนลึกลับแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้นยังได้กลายมาเป็ นคนของสานักเซียนลึกลับแห่งนี้ อย่างง่ายดายอีกด้วย

แค่คิดก็รู ้แล้วว่าเขาจะรู ้สึกเช่นไร ?

เวลานี้แม้เขายังคงมิมีสัญญาณปลุกดัชนีทองคาอะไรนั่นได้ แต่ ตอนนี้เรียกได้ว่าโชคดีมากที่สุดแล้ว

‘ใช่แล้ว ! ’

‘หรือในโลกบาเพ็ญเพียรใบนี้ ดัชนีทองคาของข้าก็คือโชคเยี่ยง นั้นหรือ ? ’

‘อืม ! ’

‘มีความเป็ นไปได้ ! ’

‘มิเช่นนั้นเหตุใดข้าถึงได้มาอยู่ในสานักเซียนลึกลับอย่างสานัก ชิงหยาง ได้ง่ายดายเพียงนี้กัน ? ’

‘ใช่แล้ว ! ’

‘ต้องเป็ นเช่นนี้แน่ ! ’

‘ดัชนีทองคาของข้าตื่นขึ้นมาแล้ว’

‘นั่นก็คือโชคนั่นเอง ! ’

คิดได้เช่นนั้น รอยยิ้มบนใบหน้าของเย่ฉางชิงพลันเจิดจ้าขึ้น กว่าเดิมหลายเท่า ขณะเดียวกันดวงตาเรียวยาวคู่นั้น ก็ยังเปล่ง ประกายระยิบระยับออกมาอีกด้วย

เพราะตอนอยู่ที่โลกเดิมนั้น

เขาเคยอ่านนิยายมามาก หนึ่งในนั้นเคยมีตัวเอกที่ดัชนีทองคา ของเขาคือโชคชะตาอยู่ด้วย

มีโชคที่ดีมากจริง ๆ

มีโอกาสได้รับสุดยอดสมบัติโบราณ จากกองเศษเหล็ก

มีโอกาสรอดชีวิตมาได้ จากในสถานการณ์ที่เฉียดตาย และยัง ได้รับสุดยอดเคล็ดวิชา…

สรุปแล้วก็คือ โชคนั้นเป็ นสิ่งที่ลึกลับอย่างมาก

แม้จะเป็ นสิ่งที่มองมิเห็นและสัมผัสมิได้ แต่เมื่อมีโชคที่ดีแล้ว ก็ เปรียบได้ดั่งแมลงสาบที่ฆ่ามิตาย มักจะสามารถเอาชีวิตรอดโดย อาศัยโอกาสเล็ก ๆ และมักจะได้รับเคล็ดวิชา หรือของวิเศษอยู่เสมอ

หลังจากคาดเดาแบบเข้าข้างตัวเองแล้ว

เย่ฉางชิงก็เริ่มลงมือจัดเก็บห้อง ที่มิรู ้ว่าตัวเองจะต้องอยู่ไปอีกกี่ปี

จนเวลาผ่านไปครึ่งชั่วยาม

ขณะที่เย่ฉางชิงเก็บห้องเสร็จเรียบร ้อยแล้ว กาลังกวาดพื้นที่หน้า ประตูห้องอยู่นั้น

ร่างอันเพรียวบางร่างหนึ่งก็เดินเข้ามาอย่างเงียบเชียบ

ผู้ที่เดินเข้ามาคือสตรีน้อยที่มีอายุราว ๆ สิบกว่าปีนางหนึ่ง

นางมีผมดายาวสลวย ผิวพรรณขาวผ่อง คิ้วเรียวยาวดุจคันศร ดวงตาสุกสกาวราวกับดาวบนท้องฟ้ า

สวมกระโปรงยาวสีขาวบริสุทธิ์ดุจหิมะ ทาให้นางดูเหมือนเซียน อย่างมาก

“เจ้าคือผู้ที่มาใหม่งั้นหรือ ? ”

สตรีน้อยมาหยุดอยู่ตรงหน้าเย่ฉางชิง

ก่อนหน้านี้นางได้ซ่อนตัวอยู่ใต้ต้นไม้เก่าแก่ต้นหนึ่ง เพื่อลอบ สังเกตเขาได้พักใหญ่ จากนั้นจึงทาทีกระแอมออกมาเบา ๆ พร ้อมกับ เดินเอามือไพล่หลังออกมา

แต่ถึงกระนั้น

สตรีน้อยนางนี้ก็ยากที่จะปกปิดเสียงใส ๆ ราวกับเด็กของตนเอง ได้อยู่ดี

ขณะที่เย่ฉางชิงได้ยินเสียงนั้น ก็ได้หมุนกายไปมองนางทันที

ทว่าวินาทีต่อมา สตรีน้อยกลับมีท่าทางนิ่งอึ้งไป

บนใบหน้าที่ยังดูเยาว์วัยนั้น เต็มไปด้วยความตื่นตระหนกจนถึง ขีดสุด

‘ท าไม ! ’

‘ท าไม ! ’

‘ท าไม ! ’

‘ทาไมคนที่มาใหม่ผู้นี้ ถึงได้หล่อเหลามากเพียงนี้ ! ’

‘บนโลกใบนี้เหตุใดถึงมีบุรุษที่หน้าตาดีถึงเพียงนี้ปรากฏตัว ขึ้นมาได้ ! ’

‘หล่อ ! ’

‘หล่อมาก ! ’

‘โดยเฉพาะความสง่างามที่แผ่ออกมาจากภายในนั้น เพียงแค่ เห็นแวบเดียวก็ให้ความรู ้สึกที่สบายและสดชื่นขึ้นมาในทันที’

‘ช่างอัศจรรย์ยิ่งนัก ! ’

‘โลกนี้ช่างอัศจรรย์ยิ่งนัก ! ’

ทันใดนั้น สตรีน้อยก็เหมือนตกอยู่ในภวังค์บางอย่าง

แก้มของนางแดงเรื่อขึ้นมาอย่างมิทันรู ้ตัว ดวงตาสดใสที่จ้อง มองเย่ฉางชิงเปล่งประกายบางอย่างออกมา

ขณะเดียวกัน เมื่อเย่ฉางชิงเห็นสตรีน้อยเผยท่าทางไร ้เดียงสา เช่นนี้ออกมา ก็ได้แต่กะพริบตาปริบ ๆ

‘สตรีน้อยนางนี้เป็ นอะไรไป ? ’

‘คงมิได้ป่วยเป็ นอะไรหรอกนะ ? ’

‘แต่ที่นี่คือสานักชิงหยาง เป็ นถึงสานักเซียนลึกลับในตานาน’

‘นางมาปรากฏตัวที่นี่ได้ แสดงว่าฐานะของนางย่อมมิธรรมดา’

คิดได้เช่นนั้น เย่ฉางชิงจึงมองสตรีน้อยด้วยแววตาสงสัย ก่อนจะ เอ่ยถามออกไปด้วยน้าเสียงอันอ่อนโยนว่า “มิทราบว่า… แม่นางคือ ? ”

แต่ว่า

นี่มันออกจะเร็วเกินไปกระมัง !

ก่อนหน้านี้นักพรตชิงอวิ๋นยังพูดอย่างหนักแน่ นอยู่เลยว่า เนื่องจากกฎของสานักชิงหยาง เขาจึงมิสามารถเข้าเป็ นศิษย์ใน ส านักได้

แต่สุดท้ายเขาที่เพิ่งจะมาถึงสานักชิงหยาง กลับต้องไปหอเก็บ ต าราเสียแล้ว

นี่เป็ นสิ่งที่สานักเซียนลึกลับเขาทากันเยี่ยงนั้นหรือ !

ต่อให้มิสามารถเข้าเป็ นศิษย์ในสานักได้ แต่ในเมื่อมาแล้วก็ต้อง ดูแลอย่างดี

สุดยอดเคล็ดวิชาฝึ กจิตใจอะไรนั่น สาหรับสานักเซียนลึกลับ แล้วจะไปส าคัญอะไร ?

ช่างใจกว้างจริง ๆ !

สมกับที่เป็ นสานักเซียนลึกลับ !

“เช่นนั้นข้าต้องรบกวนศิษย์พี่เก้าแล้ว ! ”

เย่ฉางชิงเอ่ยขึ้น พร ้อมประสานมือคานับให้นางอีกครั้ง

จากนั้นศิษย์พี่เก้าจื่อเหยาก็เดินนาทางไปทันทีอย่างคุ้นเคย

เวลาผ่านไปประมาณหนึ่งก้านธูป

ทั้งสองคนก็มาถึงจัตุรัสอันกว้างใหญ่ ที่อยู่ทางด้านหลัง สิ่งก่อสร ้างเก่าแก่มากมาย

ส่วนใจกลางของจัตุรัสนั้นมีอาคารโบราณสี่ชั้นหลังหนึ่ง ที่แผ่ กลิ่นอายความเก่าแก่ออกมาตั้งตระหง่านอยู่

มิเพียงเท่านั้นรอบอาคารโบราณยังมีหินสีครามมากมาย จัดวาง ตามรูปแบบปริศนาบางอย่างอีกด้วย

อีกทั้งหินทุกก้อนยังมีการสลักลวดลายซับซ ้อนมากมายเอาไว้ ด้วย

หินอันแปลกประหลาดเหล่านี้จึงช่วยขับให้อาคารโบราณ ที่เต็ม ไปด้วยร่องรอยของกาลเวลาหลังนี้ยิ่งดูลึกลับมากขึ้นไปอีก จนอดที่ จะรู ้สึกหวาดเกรงมิได้

ทว่าระหว่างที่เย่ฉางชิงกาลังตกตะลึงกับภาพที่เห็นตรงหน้า ภายในใจกลับยิ่งตื่นเต้นมากกว่านั้นหลายเท่า

มุมปากของจื่อเหยาจึงกระตุกขึ้นมาครั้งหนึ่งอย่างอดมิได้

เห็นได้ชัดว่านี่คือสุดยอดผลงานของศิษย์พี่สาม ลู่ซานหยาง นั่นเอง

นับตั้งแต่ลู่ซานหยางเข้ามาอยู่ในสานักชิงหยาง ก็ศึกษาวิชาค่าย กลมาตลอด

สามปีก่อน

มิรู ้ว่านักพรตชิงอวิ๋นคิดอะไรอยู่ ถึงได้ให้เขามาซ่อมผนึก ต้องห้ามที่ชารุดไปของหอเก็บตาราแห่งนี้

ทว่าสุดท้ายนอกจากจะซ่อมผนึกต้องห้ามมิส าเร็จแล้ว กลับท า ให้ผนึกต้องห้ามของที่นี่หายไปอย่างสมบูรณ์แทน

ตอนนั้น หากมิใช่เพราะลู่ซานหยางสาบานเอาไว้ว่า หากมิ สามารถซ่อมผนึกต้องห้ามของที่นี่ได้สาเร็จ จะมิขอลงเขาอีกเลย ตลอดชีวิตล่ะก็

มิเช่นนั้นคาดว่าตอนนี้คงทาได้แค่นอนอยู่บนเตียงกระมัง

หลังจากนิ่งเงียบไปสักพัก จื่อเหยาก็เหลือบมองใบหน้าอันหล่อ เหลาของเย่ฉางชิง ดวงตามีประกายบางอย่างแวบผ่านอีกครั้งอย่าง อดมิได้

“ตามข้าเข้ามา”

จื่อเหยากระแอมเล็กน้อย จากนั้นจึงเดินตรงเข้าไปในหอเก็บ ตำรา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน