อีกด้านหนึ่ง
หลังจากยืนส่งศิษย์พี่ใหญ่หลี่ซิวหยวนแล้ว
พลันใบหน้าเย่ฉางชิงก็เต็มไปด้วยความยินดี
จนถึงตอนนี้เขาก็ยังรู ้สึกว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ ยังเป็ นความ ฝันอยู่
เพียงแค่ตื่นขึ้นมา เขาก็มาโผล่ยังโลกบาเพ็ญเพียรใบใหม่เสีย แล้ว
ที่โชคดีมากที่สุดก็คือบนโลกบาเพ็ญเพียรใบนี้ พอมาถึงก็ได้พบ กับเจ้าส านักของส านักเซียนลึกลับแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้นยังได้กลายมาเป็ นคนของสานักเซียนลึกลับแห่งนี้ อย่างง่ายดายอีกด้วย
แค่คิดก็รู ้แล้วว่าเขาจะรู ้สึกเช่นไร ?
เวลานี้แม้เขายังคงมิมีสัญญาณปลุกดัชนีทองคาอะไรนั่นได้ แต่ ตอนนี้เรียกได้ว่าโชคดีมากที่สุดแล้ว
‘ใช่แล้ว ! ’
‘หรือในโลกบาเพ็ญเพียรใบนี้ ดัชนีทองคาของข้าก็คือโชคเยี่ยง นั้นหรือ ? ’
‘อืม ! ’
‘มีความเป็ นไปได้ ! ’
‘มิเช่นนั้นเหตุใดข้าถึงได้มาอยู่ในสานักเซียนลึกลับอย่างสานัก ชิงหยาง ได้ง่ายดายเพียงนี้กัน ? ’
‘ใช่แล้ว ! ’
‘ต้องเป็ นเช่นนี้แน่ ! ’
‘ดัชนีทองคาของข้าตื่นขึ้นมาแล้ว’
‘นั่นก็คือโชคนั่นเอง ! ’
คิดได้เช่นนั้น รอยยิ้มบนใบหน้าของเย่ฉางชิงพลันเจิดจ้าขึ้น กว่าเดิมหลายเท่า ขณะเดียวกันดวงตาเรียวยาวคู่นั้น ก็ยังเปล่ง ประกายระยิบระยับออกมาอีกด้วย
เพราะตอนอยู่ที่โลกเดิมนั้น
เขาเคยอ่านนิยายมามาก หนึ่งในนั้นเคยมีตัวเอกที่ดัชนีทองคา ของเขาคือโชคชะตาอยู่ด้วย
มีโชคที่ดีมากจริง ๆ
มีโอกาสได้รับสุดยอดสมบัติโบราณ จากกองเศษเหล็ก
มีโอกาสรอดชีวิตมาได้ จากในสถานการณ์ที่เฉียดตาย และยัง ได้รับสุดยอดเคล็ดวิชา…
สรุปแล้วก็คือ โชคนั้นเป็ นสิ่งที่ลึกลับอย่างมาก
แม้จะเป็ นสิ่งที่มองมิเห็นและสัมผัสมิได้ แต่เมื่อมีโชคที่ดีแล้ว ก็ เปรียบได้ดั่งแมลงสาบที่ฆ่ามิตาย มักจะสามารถเอาชีวิตรอดโดย อาศัยโอกาสเล็ก ๆ และมักจะได้รับเคล็ดวิชา หรือของวิเศษอยู่เสมอ
หลังจากคาดเดาแบบเข้าข้างตัวเองแล้ว
เย่ฉางชิงก็เริ่มลงมือจัดเก็บห้อง ที่มิรู ้ว่าตัวเองจะต้องอยู่ไปอีกกี่ปี
จนเวลาผ่านไปครึ่งชั่วยาม
ขณะที่เย่ฉางชิงเก็บห้องเสร็จเรียบร ้อยแล้ว กาลังกวาดพื้นที่หน้า ประตูห้องอยู่นั้น
ร่างอันเพรียวบางร่างหนึ่งก็เดินเข้ามาอย่างเงียบเชียบ
ผู้ที่เดินเข้ามาคือสตรีน้อยที่มีอายุราว ๆ สิบกว่าปีนางหนึ่ง
นางมีผมดายาวสลวย ผิวพรรณขาวผ่อง คิ้วเรียวยาวดุจคันศร ดวงตาสุกสกาวราวกับดาวบนท้องฟ้ า
สวมกระโปรงยาวสีขาวบริสุทธิ์ดุจหิมะ ทาให้นางดูเหมือนเซียน อย่างมาก
“เจ้าคือผู้ที่มาใหม่งั้นหรือ ? ”
สตรีน้อยมาหยุดอยู่ตรงหน้าเย่ฉางชิง
ก่อนหน้านี้นางได้ซ่อนตัวอยู่ใต้ต้นไม้เก่าแก่ต้นหนึ่ง เพื่อลอบ สังเกตเขาได้พักใหญ่ จากนั้นจึงทาทีกระแอมออกมาเบา ๆ พร ้อมกับ เดินเอามือไพล่หลังออกมา
แต่ถึงกระนั้น
สตรีน้อยนางนี้ก็ยากที่จะปกปิดเสียงใส ๆ ราวกับเด็กของตนเอง ได้อยู่ดี
ขณะที่เย่ฉางชิงได้ยินเสียงนั้น ก็ได้หมุนกายไปมองนางทันที
ทว่าวินาทีต่อมา สตรีน้อยกลับมีท่าทางนิ่งอึ้งไป
บนใบหน้าที่ยังดูเยาว์วัยนั้น เต็มไปด้วยความตื่นตระหนกจนถึง ขีดสุด
‘ท าไม ! ’
‘ท าไม ! ’
‘ท าไม ! ’
‘ทาไมคนที่มาใหม่ผู้นี้ ถึงได้หล่อเหลามากเพียงนี้ ! ’
‘บนโลกใบนี้เหตุใดถึงมีบุรุษที่หน้าตาดีถึงเพียงนี้ปรากฏตัว ขึ้นมาได้ ! ’
‘หล่อ ! ’
‘หล่อมาก ! ’
‘โดยเฉพาะความสง่างามที่แผ่ออกมาจากภายในนั้น เพียงแค่ เห็นแวบเดียวก็ให้ความรู ้สึกที่สบายและสดชื่นขึ้นมาในทันที’
‘ช่างอัศจรรย์ยิ่งนัก ! ’
‘โลกนี้ช่างอัศจรรย์ยิ่งนัก ! ’
ทันใดนั้น สตรีน้อยก็เหมือนตกอยู่ในภวังค์บางอย่าง
แก้มของนางแดงเรื่อขึ้นมาอย่างมิทันรู ้ตัว ดวงตาสดใสที่จ้อง มองเย่ฉางชิงเปล่งประกายบางอย่างออกมา
ขณะเดียวกัน เมื่อเย่ฉางชิงเห็นสตรีน้อยเผยท่าทางไร ้เดียงสา เช่นนี้ออกมา ก็ได้แต่กะพริบตาปริบ ๆ
‘สตรีน้อยนางนี้เป็ นอะไรไป ? ’
‘คงมิได้ป่วยเป็ นอะไรหรอกนะ ? ’
‘แต่ที่นี่คือสานักชิงหยาง เป็ นถึงสานักเซียนลึกลับในตานาน’
‘นางมาปรากฏตัวที่นี่ได้ แสดงว่าฐานะของนางย่อมมิธรรมดา’
คิดได้เช่นนั้น เย่ฉางชิงจึงมองสตรีน้อยด้วยแววตาสงสัย ก่อนจะ เอ่ยถามออกไปด้วยน้าเสียงอันอ่อนโยนว่า “มิทราบว่า… แม่นางคือ ? ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน