ตอน ตอนที่ 35 จงหยวนสั่นสะเทือนอีกครั้ง จาก เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
ตอนที่ 35 จงหยวนสั่นสะเทือนอีกครั้ง คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยายแปล เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ตอนที่ 35 จงหยวนสั่นสะเทือนอีกครั้ง
“ตู้ม ! ”
ไม่กี่อึดใจต่อมานิมิตที่ปกคลุมท้องฟ้าทั่วทั้งเมืองหลวงของแคว้นต้าเยี่ยนก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น
มีเมฆดำเข้าปกคลุมพร้อมกับฟ้าร้องและฟ้าผ่า ก่อนที่ปราณจะแผ่กระจายพลันเกิดเสียงดังกึกก้องขึ้น
“เปรี้ยง ! ” วินาทีนี้ราวกับท้องฟ้ากำลังสั่นสะเทือน
ไม่นานลำแสงสีทองที่สว่างไสวและทรงพลังก็สาดส่องลงมามากมาย
ที่น่าเหลือเชื่อที่สุดก็คือราวกับมีร่างของคนขยับอยู่ในทุกลำแสงก็มิปาน ชายเสื้อพลิ้วไหว ผมยาวนั้นปลิวไปตามลม ลำแสงสายรุ้งส่องสว่างออกมาราวกับเซียนมาจุติ
ในบรรดาร่างทั้งหมด
บ้างก็ถือกระดานหมากล้อมทองคำเอาไว้ในมือ รอบกายมีมัจฉาหยินหยางว่ายวน บนกระดานเกิดคลื่นแสงสั่นสะเทือน ปรากฏเป็นความงดงามที่โดดเด่นยิ่งนัก
บ้างก็ถือพู่กันวิเศษที่ส่องประกายงดงาม ม้วนกระดาษขาวสะอาดตาลอยอยู่รอบกาย เมื่อจรดพู่กันปราณนับคณาก็แผ่ออกมา เสริมความน่าเกรงขามให้กับนิมิตไปอีกขั้น
บ้างก็นั่งขัดสมาธิกลางอากาศโดยมีพิณโบราณวางอยู่บนตัก ทันทีที่นิ้วเรียวยาวขยับพลังบังเกิดเสียงพิณ ประเดี๋ยวนุ่มนวลราวกับธารน้ำไหลริน ประเดี๋ยวรุนแรงราวกับคลื่นลมที่ซัดสาด อีกทั้งยังเหมือนเสียงไข่มุกที่ตกกระทบธาราอีกด้วย
บ้างก็สะพายกระบี่เอาไว้ด้านหลัง บ้างก็ยืนอยู่บนกระบี่อย่างผ่าเผย เส้นผมและแขนเสื้อปลิวไสว พร้อมกับท่วงท่าสง่างามไร้ที่เปรียบ
……………………
เมื่อได้เห็นนิมิตมากมายที่เกิดขึ้นบนท้องฟ้า ราษฎรไม่ว่าจะเป็นชนชั้นสูงหรือชาวบ้านธรรมดาทั่วไปต่างก็ตกตะลึงไปตาม ๆ กัน
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ? ”
“หรือเพราะการสร้างอารามฉางชิง จึงทำให้เกิดเรื่องอัศจรรย์เช่นนี้ขึ้นในเมืองหลวงเยี่ยงนั้นหรือ ? ”
“ใช่แล้ว ! ”
“ต้องเป็นเช่นนี้แน่ ! ”
“เช่นนั้นก็หมายความว่าผู้อาวุโสเย่ก็เป็นเซียนจริง ๆ น่ะสิ ! ”
บนภูเขาตะวันออก
เยี่ยนหยางเหนียนเดินนำทุกคนมาที่หน้าประตูบานใหญ่ ใบหน้าตกตะลึงอย่างถึงที่สุดหลังได้เห็นนิมิตที่ปกคลุมเมืองหลวงอยู่
แม้เขาจะเป็นฮ่องเต้ของแคว้นต้าเยี่ยน แต่การได้เห็นนิมิตที่ทรงพลังเช่นนี้ เขาเองก็เกิดความรู้สึกที่ไม่ต่างจากคนอื่นเช่นกัน
นี่เป็นนิมิตที่น่าอัศจรรย์ที่สุด นับตั้งแต่เขาเกิดมา
“ฝ่าบาทพะยะค่ะ ฟ้าบังเกิดนิมิตมงคลเยี่ยงนี้ขึ้น แคว้นต้าเยี่ยนของเราจะต้องเจริญรุ่งเรืองไปอีกยาวนานแน่นอนพะยะค่ะ ! ”
“ฝ่าบาทพะยะค่ะ เหล่าเทพปรากฏกายเพื่อประทานพรแก่แคว้นต้าเยี่ยนของเราเป็นแน่ สวรรค์ต้องการให้ต้าเยี่ยนของเราผงาดขึ้นไปอีกเป็นแน่พะยะค่ะ”
“ใช่แล้วพะยะค่ะ ไม่แน่ภายในหนึ่งร้อยปีแคว้นต้าเยี่ยนอาจจะรวมจงหยวนเป็นหนึ่งเดียว เปลี่ยนประวัติศาสตร์หลายแสนปีของจงหยวน และกลายเป็นราชวงศ์แรกในประวัติศาสตร์ก็ได้นะพะยะค่ะ”
หลังจากได้สติอีกครั้ง ผู้คนต่างพากันคุกเข่าลงตรงหน้าและกล่าวคำสรรเสริญเยินยอแก่เยี่ยนหยางเหนียน
แต่เยี่ยนหยางเหนียนกลับฉีกยิ้มออกมาเล็กน้อย และพยักหน้ารับเบา ๆ เท่านั้น
บัดนี้ดูแล้วแคว้นต้าเยี่ยนคงจะผงาดขึ้นได้ดั่งปรารถนาแล้ว แต่จะเปลี่ยนสถานการณ์ในจงหยวน ให้กลายเป็นราชวงศ์ที่รวบรวมจงหยวนเป็นหนึ่งเดียวได้หรือไม่นั้น หาใช่สิ่งที่เยี่ยนหยางเหนียนจะตัดสินใจเองได้ และมิใช่สิ่งที่ท่านบรรพบุรุษจะตัดสินใจได้เช่นกัน
เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดล้วนเป็นสิ่งที่ผู้อาวุโสเย่ประทานให้ ฉะนั้นหากภายภาคหน้ามีวันนั้นจริงก็ต้องให้ผู้อาวุโสเย่เห็นด้วยเสียก่อนจึงจะทำได้
มิเช่นนั้นดูจากความสามารถของผู้อาวุโสเย่แล้ว เขาทำให้แคว้นต้าเยี่ยนรุ่งเรืองได้ ก็สามารถทำให้แคว้นต้าเยี่ยนสูญสิ้นไปจากจงหยวนภายในคืนเดียวได้เช่นกัน
ความจริงแล้วเวลานี้ภายในใจของเยี่ยนหยางเหนียนเองก็รู้สึกสับสนมิน้อย
เขาเป็นถึงฮ่องเต้ของแคว้นต้าเยี่ยน ย่อมมีความปรารถนาที่ต้องการจะรวมจงหยวนเป็นหนึ่งเช่นฮ่องเต้ทุกพระองค์ในแผ่นดินจงหยวน
และบัดนี้การที่แคว้นต้าเยี่ยนจะผงาดขึ้นมาอีกครั้งนั้นอยู่ใกล้แค่เอื้อม แต่เขากลับถูกคนอื่นคอยควบคุมเอาไว้
“หากกระหม่อมเดามิผิด แคว้นต้าเซี่ยก็คงจะได้รับข่าวนี้แล้วเช่นกัน พวกเขาก็คงต้องการสมานฉันท์กับแคว้นกู่เฉินของเราเช่นกันพะยะค่ะ”
“ส่วนผู้อาวุโสเย่ท่านนี้เป็นยอดคนเช่นไรกันแน่นั้น ขอเพียงเขากล้าเข้ามาก้าวก่ายเรื่องทางโลก อย่างมากเราก็แค่เชิญสาสน์ของฮ่องเต้อู๋เย่ที่เราเคารพเพื่อเผชิญหน้ากับเขา ! ”
“ตอนนี้คงมีเพียงวิธีนี้วิธีเดียว ! ”
………………………..
ภายในวังหลวงแคว้นต้าเซี่ย หลังจากฮ่องเต้ทรงทราบข่าวของแคว้นต้าเยี่ยน ก็ได้เรียกประชุมขุนนางฝ่ายต่าง ๆ ในตำหนักโบราณหลังหนึ่งทันที
เวลานี้ภายในตำหนักเต็มจึงไปด้วยเสียงโหวกเหวกโวยวาย
“ฝ่าบาท บัดนี้ความรุ่งเรืองของแคว้นต้าเยี่ยนอยู่ใกล้แค่เอื้อมแล้ว เวลานี้แคว้นกู่เฉินเองก็คงทราบข่าวนี้แล้วเช่นกันพะยะค่ะ”
“ดูจากที่ก่อนหน้านี้เกิดความขัดแย้งกับแคว้นต้าเยี่ยนมาโดยตลอดแล้ว เกรงว่าเวลานี้แคว้นกู่เฉินคงนั่งมิติด อีกมินานจะต้องส่งทูตมาเพื่อเจริญสัมพันธไมตรีกับเราเป็นแน่พะยะค่ะ”
“ตอนนี้เราแค่ยังไม่ทราบว่าผู้อาวุโสเย่ที่เยี่ยนหยางเหนียนกล่าวถึงเป็นคนเช่นไรกันแน่ เหตุใดจึงต้องมาทำลายสมดุลของจงหยวนที่รักษามายาวนานเยี่ยงนี้ด้วย ? ”
“เฮ้อ ประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่าสงครามเจ็ดแคว้นเมื่อแสนปีก่อนก็เกิดจากการที่ยอดคนกลุ่มหนึ่งคอยยุแยงและหลอกใช้คนธรรมดาเป็นหมากของตัวเอง จนทำให้เกิดแคว้นโบราณทั้งสี่ขึ้นดังเช่นทุกวันนี้”
“ใช่แล้ว ไม่แน่ผู้อาวุโสเย่ท่านนี้ก็อาจจะเป็นยอดคนที่ต้องการใช้แคว้นต้าเยี่ยนเป็นหมาก เพื่อต่อกรกับยอดคนบางท่านที่เร้นกายอยู่บนโลกก็เป็นได้”
“หลายปีมานี้แคว้นต้าฉู่ตกต่ำลงอย่างมาก หรือว่ายอดคนอีกท่านหนึ่งจะพำนักอยู่ที่แคว้นต้าฉู่ ? ”
“หรือบางทีอาจจะเกิดโศกนาฏกรรมครั้งประวัติศาสตร์ขึ้นอีกครั้งก็เป็นได้ ! ”
“รีบส่งข่าวไปให้สายลับในแคว้นต้าเยี่ยน ต้องหาวิธีสืบมาให้ได้ว่าผู้อาวุโสเย่ท่านนี้เป็นคนเช่นไรกันแน่ ! ”
……………………..
ในช่วงเวลาสั้น ๆ ทั่วทั้งจงหยวนได้สั่นสะเทือนไปทั่ว !
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน