ตอนที่ 363 หรือว่าข้าเผลอดูดซับไอเซียนเข้ามาโดยมิได้ตั้งใจ ?
เมื่อได้เห็นภาพเช่นนี้ ความประทับใจที่ฉีชางหยวนมีต่อศิษย์พี่ชวี่ผู้นี้ พลันลดลงไปเกือบครึ่ง
เพื่อเป้าหมายถึงกับยอมใช้เล่ห์มารยาเช่นนี้เชียวหรือ
หลังจากนิ่งเงียบอยู่สักพัก ฉีชางหยวนที่ตั้งใจว่าจะรีบจากไปทันที ทว่าตอนนี้กลับตัดสินใจอยู่ต่อ
เพื่อที่จะได้รับโอกาสและวาสนาจากกายของศิษย์น้องเย่ ชวี่เหวินเซี่ยผู้มีคุณสมบัติสูงส่งถึงกลับยอมใช้ร่างกายเข้าแลก
แค่คิดก็รู้แล้วว่าไอเซียนบนกายของศิษย์น้องเย่ผู้นี้น่าดึงดูดเพียงใด
อีกทั้งศิษย์พี่ใหญ่หลี่ซิวหยวนก็ทำให้เห็นเป็นตัวอย่างมาแล้ว
เช่นนั้นฉีชางหยวนผู้มีคุณสมบัติอ่อนด้อย ย่อมมิมีทางละทิ้งโอกาสที่หาได้ยากยิ่งเช่นนี้เป็นแน่
ขณะเดียวกัน มิไกลออกไปชวี่เหวินเซี่ยก็ส่งเสียงเรียกเบา ๆ เย่ฉางชิงจึงหยุดการเปิดจุดเซินฉางลงทันที พลางหันไปมองชวี่เหวินเซี่ยที่ยังมีท่าทางงัวเงียอยู่
“ศิษย์พี่ชวี่ ท่านมิเป็นอะไรใช่หรือไม่ ? ”
เย่ฉางชิงเอ่ยถามด้วยใบหน้าแฝงรอยยิ้มเรียบ ๆ
ชวี่เหวินเซี่ยมีท่าทางกระอักกระอวน ก่อนจะเอ่ยอย่างครุ่นคิดว่า “ศิษย์น้องเย่ เมื่อวานข้าดื่มไปเพียง… หนึ่งจอกใช่หรือไม่ ? ”
เย่ฉางชิงชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าให้น้อย ๆ
เห็นเช่นนั้น ใบหน้าขาวผ่องของชวี่เหวินเซี่ยพลันแดงเรื่อขึ้นมาอย่างห้ามมิได้ ท่าทางเต็มไปด้วยความอับอาย
เดิมนางคิดที่จะใช้การดื่มสุรากระชับความสัมพันธ์กับศิษย์น้องเย่ ผู้มีคุณสมบัติอันน่าตกใจผู้นี้
ทว่าสุดท้ายพอดื่มไปเพียงแค่หนึ่งจอก กลับหมดสติและมิรู้เรื่องรู้ราวไปทันที
น่าอับอาย !
ช่างน่าอับอายยิ่งนัก !
สำหรับผู้ที่มีฐานะสูงส่งเช่นนาง นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ได้ดื่มสุรารสเยี่ยมและกลมกล่อม อย่างสุราชิงอี่ของเย่ฉางชิง
แต่สิ่งที่ทำให้นางประหลาดใจมากที่สุดก็คือ
ภายในสุราชิงอี่นี้เหมือนกับแฝงความลึกลับบางอย่างเอาไว้
แม้นางจะดื่มไปเพียงแค่จอกเดียวก่อนจะหมดสติไป ทว่าเมื่อตื่นขึ้นมากลับรู้สึกได้ถึงความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมบางอย่าง
จะพูดเช่นไรดี !
ราวกับว่าอยู่ดี ๆ ก็ได้รับวาสนาอันยิ่งใหญ่มา ทำให้ความเข้าใจในวิถีของตัวเองลึกซึ้งขึ้นอีกด้วย
หลังจากชั่งใจอยู่สักพัก ชวี่เหวินเซี่ยจึงเอ่ยถามพร้อมรอยยิ้มหวานว่า “ศิษย์น้องเย่ เจ้ายังมีสุราชิงอี่อยู่อีกหรือไม่ มิรู้ว่าพอจะแบ่งให้ข้าสักนิดได้หรือไม่ ? ”
ได้ยินเช่นนั้น
“เรียนศิษย์พี่ ยังมีอยู่อีกนิดหน่อยขอรับ”
เย่ฉางชิงตอบกลับไป ก่อนจะรีบลุกขึ้นยืน
พร้อมเพ่งสมาธิแล้วหยิบสุราชิงอี่หนึ่งไหออกมาจากแหวนเก็บสมบัติ ก่อนมอบให้แก่ชวี่เหวินเซี่ย
ชวี่เหวินเซี่ยสะบัดแขนหนึ่งครั้ง สุราชิงอี่ไหนั้นก็เข้าไปอยู่ในแหวนเก็บสมบัติของนางอย่างรวดเร็ว
“ศิษย์น้องเย่ ครานี้นับว่าข้าติดค้างน้ำใจของเจ้าแล้ว”
ชวี่เหวินเซี่ยเอ่ยจบ จึงสะบัดแขนเสื้อเล็กน้อย ก่อนเดินจากไป
ทว่าเมื่อฉีชางหยวนเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า ก็ยิ่งมั่นใจในความสัมพันธ์ของชวี่เหวินเซี่ยและศิษย์น้องเย่ผู้นี้เป็นอย่างมาก
ทว่าหลังจากชวี่เหวินเซี่ยจากไปแล้ว
เขาจึงได้จัดการเสื้อผ้าอาภรณ์และผมเผ้าให้เข้าที่อีกครั้ง ก่อนจะเดินเอามือไพล่หลังเข้าไปหาเย่ฉางชิงอย่างมิรีบร้อน
เยี่ยงไรเสียอาจารย์ก็ได้กำชับเอาไว้
ศิษย์สำนักชิงหยางทุกคน ห้ามเผยพิรุธต่อหน้าศิษย์น้องเย่ผู้นี้เป็นอันขาด จะต้องแสดงท่าทางเฉกเช่นยอดฝีมือผู้สูงส่งออกมา
เขาจึงมิกล้าที่จะขัดคำสั่ง
อีกอย่างใครบ้างจะมิชอบโอ้อวดตัวเองกันเล่า ?
มิหนำซ้ำยังได้อวดอ้างตัวเองต่อหน้าของศิษย์น้องเย่ผู้นี้อีกด้วย !
“มิทราบว่า… ท่านคือ ? ”
เมื่อเห็นฉีชางหยวนผู้มีใบหน้าหล่อเหลา เดินเข้ามาด้วยท่าทางสบาย ๆ
เย่ฉางชิงที่กำลังเตรียมจะเปิดจุดเซินฉางต่อ จำต้องหยุดชะงักพร้อมกับเอ่ยถามขึ้น
ฉีชางหยวนกระแอมออกมาน้อย ๆ พลางยกยิ้มบาง ๆ ขึ้น “ศิษย์น้องเย่ ข้าแซ่ฉี นามว่าชางหยวน เป็นศิษย์คนที่ห้าของสำนักชิงหยาง เจ้าเรียกข้าว่าศิษย์พี่ห้าหรือว่าศิษย์พี่ฉีก็ได้”
เย่ฉางชิงพยักหน้ารับน้อย ๆ พลางประสานมือคาราวะ “มิทราบว่าศิษย์พี่ห้ามาถึงนี่มีเรื่องอันใดหรือขอรับ ? ”
ฉีชางหยวนมองด้วยสายตาห่างเหิน และแสร้งพูดว่า “เมื่อวานข้าเพิ่งจะออกฌาน ได้ยินว่าสำนักชิงหยางของเรามีคนใหม่เข้ามา จึงตัดสินใจมาพบเจ้าสักครา”
สิ้นเสียงเย่ฉางชิงก็ประสานมือคาราวะให้อีกครั้ง พลางเอ่ยอย่างขอลุแก่โทษว่า “ต้องให้ศิษย์พี่มาพบข้าถึงที่นี่ ฉางชิงช่างละอายใจยิ่งนักขอรับ ! ”
ฉีชางหยวนโบกมือเบา ๆ พลางเอ่ยด้วยใบหน้าเรียบนิ่งว่า “ศิษย์น้องเย่ เจ้ามิต้องละอายใจไปหรอก สำนักชิงหยางของเราก็เป็นเช่นนี้มาแต่ไหนแต่ไร อาจารย์เองก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน