ตอนที่ 386 พวกเขามาจากสำนักชิงหยาง
ขณะเดียวกัน ด้วยการช่วยเหลือจากชวี่เหวินเซี่ย นางก็ได้พาเย่ฉางชิงเหาะไปทางขอบฟ้าทิศเหนือพร้อมกัน
เมื่อเย่ฉางชิงหันกลับหลังไปมองอีกครั้ง
เขาอวิ๋นชางอันเป็นที่ตั้งของสำนักชิงหยาง บัดนี้กลับเห็นเพียงลิบ ๆ เท่านั้น
แต่ด้วยเมฆหมอกที่ปกคลุม จึงทำให้ที่นั่นยังคงดูราวกับเป็นยอดเขาเซียนลูกหนึ่งอยู่ดี
“ศิษย์พี่ชวี่ วันหน้าพวกเรายังจะมีโอกาส กลับมาสำนักชิงหยางอีกหรือไม่ขอรับ ? ”
หลังจากที่เงียบอยู่สักพัก เย่ฉางชิงก็ทอดสายตามองออกไปไกล ๆ พร้อมกับเอ่ยถามขึ้น
ชวี่เหวินเซี่ยมองตามสายตาของเย่ฉางชิงไป ก่อนจะเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ศิษย์น้องเย่ เจ้ายังอยากกลับไปอีกเยี่ยงนั้นหรือ ? ”
เย่ฉางชิงรีบพยักหน้ารับทันที โดยมิต้องคิด
ชวี่เหวินเซี่ยชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะส่ายหน้ายิ้ม ๆ “วันหน้าหากเจ้าบำเพ็ญเพียรประสบความสำเร็จแล้ว ย่อมสามารถกลับไปอีกได้ แต่จากนี้ไปเจ้าต้องตั้งใจบำเพ็ญเพียรที่นิกายกระบี่สวรรค์ให้ดีก่อนเถอะ”
จนเวลาผ่านไปหลายชั่วยาม
เมื่อมองลงไป
ก็เห็นภูเขาที่มีกลุ่มหมอกลอยวน ต้นไม้เก่าแก่อุดมสมบูรณ์
และที่สำคัญได้มีเมืองโบราณเมืองหนึ่ง ทอดตัวอยู่ ณ ตรงนั้น
เห็นได้ชัดว่าเมืองโบราณเมืองนี้ก็คือเมืองกระบี่สวรรค์ ที่นักพรตชิงอวิ๋นบอกเอาไว้ก่อนหน้านี้นั่นเอง
ตามขั้นตอนการทดสอบของนิกายกระบี่สวรรค์
สำนักน้อยใหญ่ที่พึ่งพิงนิกายกระบี่สวรรค์ จะต้องไปรวมตัวกันเพื่อลงทะเบียนที่เมืองกระบี่สวรรค์ จากนั้นค่อยไปยังนิกายกระบี่สวรรค์ เพื่อเข้าร่วมการทดสอบอีกที
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เวลานี้ มิได้มีเพียงแค่เย่ฉางชิงและชวี่เหวินเซี่ยเท่านั้นที่เหาะอยู่บนฟ้า คนอื่น ๆ เอง ก็กำลังเหาะเพื่อมุ่งไปทางเมืองกระบี่สวรรค์เช่นกัน
แต่พวกเขานั้นบ้างก็นั่งเรือเหาะที่มีแสงเปล่งออกมาระยิบระยับ บ้างก็ขี่ของวิเศษมา
ส่วนผู้ที่เหาะมาเฉย ๆ อย่างเย่ฉางชิงและชวี่เหวินเซี่ยนั้น กลับมีน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย
แต่เพราะเหตุนี้กลับยิ่งทำให้พวกเขาทั้งสองคนนั้นดูมิธรรมดาและแตกต่างกว่าคนอื่น ๆ
อีกทั้งรูปลักษณ์และบุคลลิกท่าทางของทั้งสองคนนั้น ยังโดดเด่นเป็นอย่างมากอีกด้วย
ชวี่เหวินเซี่ยเดิมทีก็มีผิวพรรณผุดผ่องอยู่แล้ว มิหนำซ้ำยังมีรังสีบางอย่าง ที่ดูเหมือนจะมีมาตั้งแต่กำเนิดแผ่ออกมาด้วย
อีกทั้งตอนนี้นางนั้นยังก้าวสู่แดนก่อกำเนิดได้สำเร็จแล้ว
เช่นนี้จึงทำให้นางดูสูงส่งและเยือกเย็นอย่างหาที่เปรียบมิได้ ให้ความรู้สึกน่าเกรงขามและน่าหวาดกลัวในเวลาเดียวกัน
ส่วนเย่ฉางชิงนั้นยิ่งมิต้องพูดถึง
เพียงแค่ศิษย์สำนักอื่นมองมา
ทุกคนต่างก็หลงไหลในทันที แววตาเปล่งประกายเคลิบเคลิ้มออกมาอย่างปิดมิมิด
ทันใดนั้น เมื่อคนของสำนักน้อยใหญ่ต่าง ๆ เห็นพวกเขาสองคน ต่างก็เผยท่าทางประหลาดใจออกมา
“ศิษย์พี่ ท่านเห็นบุรุษผู้นั้นหรือไม่ ทั้งสง่างามหล่อเหลา โดยเฉพาะลักษณะท่าทางของเขาที่แผ่ออกมาจากภายในนั้น เกรงว่าแม้แต่เซียนทั่วไปก็ยังมิอาจเทียบได้เลยกระมังเจ้าคะ ! ”
“จริงด้วย ลักษณะท่าทางโดดเด่นเช่นนี้ หาได้ยากจริง ๆ ! ”
“ศิษย์พี่ ข้าเหมือนจะ… ละลายแล้วเจ้าค่ะ”
“ละลายแล้ว ? ”
“ศิษย์น้อง ละลายแล้วหมายความว่าเยี่ยงไร ? ”
“ฮี่ ๆ ศิษย์พี่ เรื่องแค่นี้ท่านยังมิรู้อีกหรือเจ้าคะ ละลายแล้วก็คือใจเต้นแรงอย่างไรเล่าเจ้าคะ ! ”
“ศิษย์น้องทั้งสอง เกรงว่าพวกเจ้าคงต้องผิดหวังเสียแล้ว ต้องยอมรับว่าแม้คนผู้นี้จะมีลักษณะท่าทางที่โดดเด่น แต่ข้ามิอาจสัมผัสได้ถึงไอพลังใด ๆ จากกายของเขาเลย”
“ศิษย์พี่ลิ่น ท่านกำลังสงสัยเทพบุตรของข้าอยู่หรือเจ้าคะ ? ”
“ศิษย์น้อง ข้าแค่พูดตามความจริงก็เท่านั้นเอง”
“ศิษย์พี่ลิ่น แม้ว่าข้าเองก็มิอาจสัมผัสได้ว่าบนกายของเขามีไอพลังใด ๆ แต่สตรีที่อยู่ข้างกายเขานั้น อย่างน้อยข้าคิดว่าน่าอยู่สูงกว่าแดนสร้างแก่นกระมัง ? ”
“นั่นก็มิสามารถอธิบายอะไรได้อยู่ดี ! ”
“……”
“……”
บนเรือเหาะที่ปกคลุมไปด้วยสัญลักษณ์ และแสงหลากหลายสีสันลำหนึ่ง
มีบุรุษที่มีบุคลิกท่าทางมิธรรมดาผู้หนึ่งกำลังเกิดความริษยาในรูปลักษณ์และลักษณะท่าทางของเย่ฉางชิง เขาจึงแค่นเสียงออกมา
แต่มินานก็ถูกสตรีรูปงามที่อยู่ข้าง ๆ ขัดขึ้น
แน่นอนว่ามิได้มีเพียงแค่เรือลำนี้ที่กำลังเกิดการถกเถียงกัน เรือเหาะลำอื่น ๆ หรือบรรดาคนที่ขี่ของวิเศษเองก็เช่นกัน
หลังจากที่พวกเขาเห็นเย่ฉางชิง ต่างก็เกิดการโต้เถียงกันขึ้น
เพราะบรรดาหนุ่มสาวที่ไปร่วมการคัดเลือกของนิกายกระบี่สวรรค์ในครั้งนี้ ล้วนเป็นศิษย์ที่โดดเด่นที่สุดในสำนักของตนเอง
ขอเพียงสามารถเข้าสู่นิกายกระบี่สวรรค์ได้อย่างราบรื่น วันหน้าชายหญิงที่มาเป็นคู่เหล่านี้ก็จะสามารถกลายเป็นคู่ชะตาบำเพ็ญเพียร เพื่อฝึกฝนและบำเพ็ญเพียรร่วมกันได้
เช่นนั้นเหล่าผู้บำเพ็ญเพียรชายและหญิงที่มาเป็นคู่ส่วนใหญ่ล้วนมีความรู้สึกดี ๆ ให้แก่กัน เพื่อหวังว่าหลังจากเข้านิกายกระบี่สวรรค์ได้สำเร็จแล้ว จะสามารถกลายเป็นคู่ชะตาบำเพ็ญเพียร
ทว่าเย่ฉางชิงนั้นกลับสะดุดตามากเกินไป จึงทำให้ผู้บำเพ็ญเพียรหญิงหลายคนเกิดความหวั่นไหว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน